STOWER รวบพาร์-เพิ่มทุน.!
แม้จะทำการแปลงร่างจาก UWC มาเป็น STOWER ในปัจจุบัน แต่หุ้นเสาไฟฟ้าต้นนี้ก็ยังสร้างความชอกช้ำระกำใจให้กับนักลงทุนเสมอต้นเสมอปลาย
แม้จะทำการแปลงร่างจากบริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC มาเป็นบริษัท สกาย ทาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STOWER ในปัจจุบัน แต่หุ้นเสาไฟฟ้าต้นนี้ก็ยังสร้างความชอกช้ำระกำใจให้กับนักลงทุนเสมอต้นเสมอปลาย โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้ง 16,270 ราย ที่ยังติดบ่วงหุ้น..!!
เนื่องจากยังคงสถานะเป็นหุ้นเศษบาท ราคาทรง ๆ ทรุด ๆ อยู่ที่ 0.03-0.04 บาทมาแรมปี…
ขณะที่ ก่อนหน้านี้ STOWER มีสตอรี่ขายฝันกับการออกไปแสวงหาโอกาสใหม่ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ด้วยการไปรับสัมปทานสร้างเสาโทรคมนาคมในฟิลิปปินส์ แล้วให้ค่ายมือถือมาใช้บริการ ตอนนั้นมีข่าวว่า CHINA TELECOM รัฐวิสาหกิจมือถือยักษ์ใหญ่จากจีน ที่ได้รับสัมปทานคลื่นความถี่ 700-3,500 MHz ระยะเวลา 25 ปี จากรัฐบาลฟิลิปปินส์ เป็นลูกค้า…
ทำให้ถูกมองว่า ฟิลิปปินส์จะกลายเป็นขุมทรัพย์แหล่งใหม่ของ STOWER เนื่องจากจะได้ถึงสองขาด้วยกัน…ขาแรก ช่วงแรกของการสร้างสถานีโทรคมนาคม สามารถขายเสาและอุปกรณ์สายเคเบิลต่าง ๆ ซึ่งผลิตจากไทยไปที่ฟิลิปปินส์ได้ก่อน…ยิ่งที่ฟิลิปปินส์มีการขยายได้มากเท่าไหร่ รายได้ตรงส่วนนี้ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เป็นการโตแบบออร์แกนิก
ส่วนอีกขา เมื่อสร้างสถานีโทรคมนาคมเสร็จแล้ว ก็จะมีรายได้จากค่าเช่า…ซึ่งเบื้องต้นคาดจะรับรู้รายได้จากค่าเช่ากว่า 550 ล้านบาทต่อปี จากสัญญาเช่า 25 ปี…เป็น Recurring Income ให้กับ STOWER
ตอนนั้นถึงขั้นไปดูโหงวเฮ้งเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม จาก UWC เป็น STOWER เพื่อหวังล้างภาพจำเดิม ๆ …
โอเค…ก็เป็นสตอรี่ที่เร้าใจดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาเก็งกำไรกันสนุ๊กสนุก…แต่น่าแปลก ลงทุนไปลงทุนมา กลับเงียบไปเลย ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แถมผลประกอบการก็ไม่ปังอย่างที่คิดไว้ เห็นได้จากงบงวดปี 2565 ที่มีตัวเลขขาดทุนสุทธิ 107 ล้านบาท จากรายได้รวมอยู่ที่ 360 ล้านบาท…
เมื่อผลประกอบการไม่ปัง ก็พลอยทำให้หุ้น STOWER ค่อย ๆ เลือนหายไปในตลาดฯ…
แต่ระหว่างนี้ STOWER ก็ถือโอกาสปรับโครงสร้างทุน ซึ่งมี 2 ส่วนด้วยกัน…ส่วนแรก มีการรวบพาร์ จากเดิม 0.10 บาท เป็น 1.00 บาท ซึ่งจะทำให้จำนวนหุ้นของบริษัทลดลง จากเดิม 36.97 ล้านหุ้น เหลือแค่ 3.69 ล้านหุ้น เป็นการจัดสตรักเจอร์ของหุ้น ทำให้หุ้นไม่เยอะจนเกินไป…
นั่นเท่ากับว่า ถ้าเทียบราคาในกระดานที่พาร์เดิม 0.10 บาท ราคาอยู่ที่ 0.04 บาท แต่ถ้าเป็นพาร์ใหม่ 1.00 บาท ราคาจะอยู่ที่ 0.40 บาทนั่นเอง
ส่วนสเต็ปถัดไป จะเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวนไม่เกิน 1.10 ล้านหุ้นไว้ก่อน เพื่อจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering) จำนวน 735 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.60 บาท และจัดสรรแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 365 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 0.60 บาท
เอ๊ะ…ดูแล้วราคาเพิ่มทุนสูงกว่าราคาในกระดานที่คิดจากพาร์ใหม่ ซึ่งอยู่ที่ 0.40 บาท ก็ไม่เย้ายวนน่ะสิ..!! เพราะไปซื้อในกระดานถูกกว่ามั้ย..?
ส่วนหลังจากรวบพาร์และเพิ่มทุนแล้ว จะทำให้หุ้น STOWER มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้างหรือเปล่า..? อันนี้ตอบยาก
แต่ถ้าตราบใดที่ STOWER ยังสะกดกำไรไม่เป็นอย่างนี้ ก็คงเสี่ยงที่จะไร้คนเหลียวแลต่อไปอะนะ..!!
…อิ อิ อิ…