พาราสาวะถี
หลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ว่า กกต.จะเคาะวันหย่อนบัตรเป็น 14 พ.ค.นี้ ไม่ว่าจะเป็นวันไหนประสานักการเมืองย่อมมีความพร้อมอยู่แล้ว
หลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว ความน่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ว่า กกต.จะเคาะวันหย่อนบัตรเป็นอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นวันไหนประสานักการเมืองย่อมมีความพร้อมอยู่แล้ว ที่ถูกจับตามองกันมากที่สุด คงเป็นบทบาทการวางตัว บริหารจัดการและให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรคการเมือง นักการเมืองทุกฝ่าย ในฐานะผู้กำกับดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ โปร่งใส ของผู้ที่ได้ชื่อว่า 7 เสือ กกต.ต่างหาก ผลงานจัดการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเป็นชิ้นโบว์ดำมากกว่าโบว์แดง
ฟัง แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะฝ่ายปฏิบัติออกอาการขึงขังตามประสา ไม่รู้ว่าหลงลืม หรือไม่ค่อยได้อ่านข่าว จึงไม่รู้ว่าหลายเรื่องที่ กกต.ใช้รูปแบบสื่อสารทางเดียวที่เป็นเอกสารข่าวแจกนั้น ฝ่ายกุมอำนาจโดยมือกฎหมายของขบวนการสืบทอดอำนาจได้ส่งสัญญาณล่วงหน้า จนหลายฝ่ายจับทิศจับทางกันออกหมดแล้ว คงไม่เข้าข่ายการแทรกแซงหรือชี้นำอะไรองค์กรอิสระแห่งนี้ มันเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญที่ฝ่ายรัฐบาลเดาใจฝ่ายที่มีอำนาจในการบริหารจัดการถูกก็เท่านั้นเอง
ประเด็นการยุบพรรคที่ กกต.คลอดระเบียบใหม่พิจารณาแบบฟาสต์แทรค จะเป็นจริงตามที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้หรือไม่ เพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยก้าวไกล พลังประชารัฐ ล่าสุดก็เป็นคิวของภูมิใจไทย ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พรรคของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจคงไม่ต้องออกแรงดูดให้เมื่อยตุ้ม รอเก็บตกผึ้งแตกรังกันล็อตใหญ่ แต่ใครจะกล้าเล่นกับไฟ ไม่ต้องยุบหมดทั้งสี่พรรค แค่พรรคหนึ่งพรรคใดก็ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าสถานการณ์เบื้องหน้าจะเป็นอย่างไร
แนวโน้มจึงเป็นเพียงการขยับเขย่าให้บรรดานักเลือกตั้งขวัญอ่อนได้พิจารณาอนาคตตัวเองกันอีกครั้ง ก่อนจะถึงเดดไลน์สังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 30 วันนับถึงวันเลือกตั้ง นั่นหมายความว่า จะต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่กันก่อนวันที่ 14 เมษายนนี้ ซึ่งคงไม่มีใครรอได้ไปจนถึงวันนั้น เพราะ กกต.ประกาศวันรับสมัครเลือกตั้งมาเรียบร้อยแล้ว ส.ส.เขตตั้งแต่ 3-7 เมษายน และบัญชีรายชื่อ 4-7 เมษายน ดังนั้น คนที่จะย้ายคอกก็ต้องดำเนินการก่อนหน้า ขณะเดียวกันถ้าจะมีการยุบพรรคเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับบางพรรคการเมืองก็ต้องดำเนินการก่อนหน้าเช่นกัน
โดยเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตนั้น มีกระบวนการมากกว่าผู้สมัครแบบปาร์ตี้ลิสต์ คือก่อนหน้าที่พรรคจะส่งเป็นผู้สมัคร จะต้องมีกระบวนการทำไพรมารี่ โหวต หรือการเลือกตั้งขั้นต้น ใช้เวลาประมาณ 7 วัน ซึ่งชื่อของผู้สมัครที่จะเข้าสู่การทำไพรมารี่ โหวตนั้นต้องเป็นสมาชิกพรรคก่อน กรณีนี้ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ช่วยอธิบายถึงขั้นตอนการดำเนินการ รวมไปถึงชี้ให้เห็นเงื่อนเวลาที่บรรดาพวกจะเปลี่ยนสีเสื้อต้องรีบดำเนินการด้วย
อดีต กกต.รายนี้ระบุว่า พรรคการเมืองจะเริ่มทำไพรมารี่ทันทีในขณะนี้โดยไม่รออะไรอีก เพราะจะไม่ทันส่งสมัคร นั่นหมายความว่า ประตูแห่งสวรรค์ของนักการเมืองที่รอการซื้อขายแลกเปลี่ยนจะเปิดแค่ในสัปดาห์นี้เท่านั้น เป็นประตูที่เปิดสองด้าน “มีเข้า” และ “มีออก” เข้าทำนองเอ็งดูดได้ข้าก็ดูดได้ แต่หากเปิดแล้วไหลออกมากกว่าไหลเข้า ลุงที่เปิดประตูอาจมาสำนึกในวันสุดท้ายว่า มันไม่ใช่ประตูสวรรค์แต่เป็นประตูนรก
ความจริงมันก็มีเรื่องตลกในส่วนของพรรคที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจกระโดดเล่นการเมืองเต็มตัว กล่าวคือ ต้องการที่จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของพรรค แบบไม่ต้องให้ใครมาประกบให้เสียศักดิ์ศรี แต่พอทางพรรคขอความชัดเจนเรื่องที่จะส่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 กลับไร้คำตอบที่ชัดเจน แม้กระทั่งหมาด ๆ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราชของพรรค พูน แก้วภราดัย ต้องรีบลบโพสต์รูปพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวที่ไปประกาศว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งที่เพิ่งโพสต์ได้ไม่ถึง 24 ชั่วโมง
เหตุผลก็มาจากผู้ใหญ่ในพรรคไม่สบายใจ เพราะผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจยังไม่เคยมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว นี่เป็นความจริงเหมือนที่ ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีคู่ใจคนรู้ใจนายออกมายอมรับเองว่า กระแสส่วนตัวผู้นำดี แต่กับพรรคยังเป็นรอง เป็นเรื่องที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับกรรมการบริหารพรรคเป็นอย่างมาก เนื่องจากฝ่ายที่จะชนะเลือกตั้งกระแสมันต้องไปด้วยกันทั้งตัวผู้นำและพรรค
มันไม่เกี่ยวว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค จึงทำให้การทำงานมีระยะห่างกับผู้บริหารและสมาชิกพรรค น่าจะเป็นนิสัยเฉพาะตัวบุคคล เนื่องจากเชื่อมั่นว่าข้าคือผู้ยิ่งใหญ่ ได้ใจประชาชนทั้งประเทศ และยังมีกลไกที่พร้อมจะทำให้ได้เปรียบอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์ภายในพรรค หรืออีกนัยหนึ่งคือความเชื่อที่มาจากจิตใต้สำนึกของตัวผู้นำเองที่พูดตั้งแต่มีหัวโขนเป็นหัวหน้าเผด็จการ คสช.คือ นักการเมืองชั่วนักการเมืองเลว ดังนั้น จึงไม่อยากลดตัวไปเกลือกกลั้วเพราะกลัวมัวหมองตามไปด้วย
ด้วยเหตุนี้ มันจึงทำให้จนถึงนาทีนี้ถ้ายังไม่สามารถปิดดีลระดับอภิมหาเงื่อนไขได้ ตัวผู้สมัคร ส.ส.เขตก็ยังเป็นปมปัญหาที่ทางกรรมการบริหารพรรคต้องคิดหนัก จะสามารถคว้าชัยชนะได้ถึงสิบที่นั่งหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามโพลที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคก็จะได้ไม่ถึงสิบ เท่ากับว่าถ้าได้ ส.ส.ไม่ถึง 25 ที่นั่งแคนดิเดตนายกฯ ที่เสนอชื่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแต่เพียงผู้เดียวก็จะหมดความหมายไปในทันที ต้องรอดูว่าจะเกิดปรากฏการณ์พลังดูดระลอกใหญ่ภายในระยะเวลาอันใกล้นี้หรือไม่
มีคนสงสัยว่าตามประกาศ กกต.เรื่องกำหนดเวลาการรับสมัคร ส.ส. ที่แบบแบ่งเขตเป็นวันที่ 3-7 เมษายน ตั้งแต่เวลา 8.30 น.-16.30 น. และแบบบัญชีรายชื่อ 4-7 เมษายน โดย 4-6 เมษายนรับสมัครตั้งแต่ 8.30-16.30 น. แต่เฉพาะ 7 เมษายนเปิดรับสมัครใน 16.00 น.ทำไมเป็นเช่นนั้น สมชัยแจกแจงให้ฟังว่า การกำหนดแบบนี้เพื่อไม่ให้ทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 90 ที่ว่าต้องรับสมัคร ส.ส.เขตก่อนบัญชีรายชื่อ และปิดรับบัญชีรายชื่อก่อนปิดรับสมัครเขต กกต.ทำถูกแล้วเรียกได้ว่าเป็น “นายละเอียด” แต่ละเอียดกับทุกเรื่องหรือเปล่าไม่รู้