BSM รวมพาร์..หุ้นเต็มบาท
น่าจะกลายเป็นหุ้นที่ถูกลืมไปแล้วมั้ง สำหรับ BSM...ดูได้จากมูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันที่เหือดแห้งยิ่งกว่าน้ำในทะเลทรายซาฮาราซะอีก
น่าจะกลายเป็นหุ้นที่ถูกลืมไปแล้วมั้ง สำหรับบริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM…ดูได้จากมูลค่าการซื้อขายในแต่ละวันที่เหือดแห้งยิ่งกว่าน้ำในทะเลทรายซาฮาราซะอีก เฉลี่ยวันละไม่กี่แสนบาท บางวันแค่หลักหมื่นบาทเสียด้วยซ้ำ…หันไปดูราคาหุ้นก็ทรง ๆ ทรุด ๆ ไม่ไปไหน ยืนหยัดอยู่ที่ 30 สตางค์เศษ มานานโขแล้ว
ที่จริงเมื่อหลายปีก่อน BSM ก็เคยฮอตฮิตติดลมบน…อยู่ในทำเนียบ “หุ้นจิ๋วแต่แจ๋ว” กะเค้านะ หลังจากผลงานในปี 2560 เทิร์นอะราวด์ จากการปรับโครงสร้างธุรกิจ…เดิมมีแค่ธุรกิจการผลิต และจำหน่ายอะลูมิเนียม อัลลอย และธุรกิจผลิตและจำหน่ายประตู หน้าต่าง ก็ขยายไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านบริษัทลูกที่ชื่อบริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท
นับตั้งแต่นั้นมา ก็เห็นกำไรของ BSM มาต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน..!!
แต่น่าเสียดาย…การมาของไวรัสร้ายโควิดเมื่อปี 2563 ทำให้ BSM กลับไปอยู่ในวังวนเดิม ๆ อีกครั้ง…ปี 2563 ขาดทุน 88 ล้านบาท จากรายได้รวม 736 ล้านบาท ส่วนปี 2564 ขาดทุน 83 ล้านบาท จากรายได้รวม 611 ล้านบาท และปี 2565 ขาดทุน 31 ล้านบาท จากรายได้รวม 740 ล้านบาท
ส่งผลให้ปัจจุบันมีตัวเลขขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรปาไป 122.58 ล้านบาท…
ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลประกอบการที่จมปลักอยู่กับตัวเลขขาดทุนอ๊ะป่าว..? จึงทำให้หุ้น BSM ถูกมองข้ามหัวไป…
มิหนำซ้ำยังมีสถานะเป็นหุ้นไม่เต็มบาทอีกต่างหาก..!!
แต่ล่าสุด BSM เตรียมอัพสถานะเป็นหุ้นเต็มบาทแล้วนะ…สืบเนื่องจากมติบอร์ดเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 2566 ไฟเขียวให้มีการรวมพาร์ จากเดิม 0.10 บาท เป็น 1.00 บาท ซึ่งจะทำให้หุ้นของบริษัทหายไปจำนวน 1,917.45 ล้านหุ้น จากเดิมอยู่ที่ 2,130.50 ล้านหุ้น จะเหลือแค่ 213.05 ล้านหุ้น เพื่อไม่ให้มีหุ้นเยอะจนเกินไป
ผลพวงที่ตามมา จะทำให้หุ้น BSM ถ้าเทียบเคียงราคาในกระดานที่ 0.32 บาท ณ พาร์เดิม 0.10 บาท กลายเป็น 3.20 บาท ณ พาร์ใหม่ 1.00 บาท ทันที..!!
แหม๊…พอรวมพาร์ปุ๊บ…BSM ก็เปลี่ยนสถานะปั๊บนะเนี่ย..!!
เรียกว่า ไม่ต้องใช้บริการมาร์เก็ต เมคเกอร์ หรือไปอัญเชิญนักลงทุนรายใหญ่ มาทำราคาหุ้นให้เสียเวลา…ก็สามารถฟาสต์แทร็กขึ้นเป็นหุ้นเต็มบาทได้เลย
ทว่าแม้จะอัพขึ้นเป็นหุ้นเต็มบาทแล้ว แต่คงไม่เพียงพอที่จะทำให้หุ้น BSM กลับมาอยู่ในสายตาของนักลงทุนหรอกมั้ง ถ้าตราบใดยังไม่สามารถสะกดคำว่ากำไรได้ ไม่แคล้วคงเห็นราคาหุ้นไหลรูดไปต่ำบาทอีกแหง ๆ…เชื่อขนมกินได้เลย
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เท่ากับว่าเสียแรงเปล่าน่ะสิ…
แต่ก็พอมีความหวังรำไร เมื่อเห็นผู้บริหารประกาศกร้าว ปี 2566 จะพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากแรงหนุนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จะมีการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธุรกิจวัสดุก่อสร้างและตกแต่งฟื้นตัวขึ้นภายหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงไป โดยตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 2566 ไว้ที่ 800-1,000 ล้านบาท…
ถือเป็นเป้าหมายที่ BSM ต้องพุ่งชน…
ส่วนพุ่งชนแล้วจะสำเร็จหรือเปล่านั้น..? ก็อีกเรื่องหนึ่งนะ…
…อิ อิ อิ…