JASIF สู่ทางสามแพร่ง.!?

สาระสำคัญจากหนังสือที่ 3BB ส่งถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของ JASIF วันที่ 20 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา


สาระสำคัญจากหนังสือที่บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ 3BB ส่งถึงบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน บัวหลวง ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF) วันที่ 20 มี.ค. 66 ที่ผ่านมา

นั่นคือ..การครบชำระค่าเช่าที่ 3BB ต้องจ่ายแก่กองทุน JASIF วันที่ 15 มี.ค. 66 แต่ว่า 3BB ชำระค่าเช่าได้แค่ 700 ล้านบาท (จากยอด 900 ล้านบาท) พร้อมแจ้งเพิ่มว่า 3BB ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าส่วนที่เหลือให้แก่ JASIF ได้ เนื่องจากการแข่งขันของธุรกิจบรอดแบนด์รุนแรง จนกระทบต่อกระแสเงินสด

วันที่ 23 มี.ค. 66 บลจ.บัวหลวง แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า 3BB ยังค้างชำระค่าเช่า JASIF อีก 43 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายภายในสิ้นเดือนนี้ (พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี)

จนล่าสุด 27 มี.ค. 66 JASIF ก็ได้รับค่าเช่าก้อนที่เหลือดังกล่าวแล้ว..!!

แต่ไฮไลท์สำคัญไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขค้างจ่าย 43 ล้านบาท แต่มันอยู่ที่ว่าค่าเช่างวดต่อไป นับจากนี้ 3BB จะสามารถจ่ายค่าเช่าได้อีกหรือไม่ เพราะหนังสือของ 3BB ระบุชัดว่า “หากสถานการณ์การแข่งขันยังรุนแรงอย่างต่อเนื่องบริษัทอาจมีกระแสเงินสดไม่เพียงพอชำระค่าเช่าให้แก่ JASIF ได้ครบจำนวนตามสัญญาเช่าและหรือภายในกำหนดชำระ

จากกรณีดังกล่าว 3BB จึงขอเรียนให้กองทุนรวมทราบถึงปัญหาดังกล่าวรวมทั้งพิจารณาการหาทางแก้ไขปัญหาเรื่องค่าเช่าร่วมกับบริษัทเพื่อให้สอดคล้องสภาพการแข่งขันตลาดธุรกิจบรอดแบนด์และความสามารถการชำระค่าเช่าของบริษัท”

ผนวกกับข้อมูลจากงบการเงิน JAS ปี 2565 พบว่า 3BB มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 3.7 ล้านรายจากปี 2564 อยู่ที่ 3.65 ล้านราย แต่เมื่อหักจำนวนผู้ใช้บริการ ภาคองค์กร ลูกค้า WiFi กลุ่ม Barter กลุ่มที่ใช้ในกิจการภายใน กลุ่มบริการเสริมอื่นและกลุ่มลูกค้าที่มีหนี้ค้างออก จะมียอดผู้ใช้บริการสำหรับลูกค้าทั่วไปส่วนที่เป็น Fixed Broadband และที่สามารถเก็บเงินได้ประมาณ 2.34 ล้านราย จากปี 2564 อยู่ที่ 2.43 ล้านราย หรือลดลง 90,000 ราย

ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) ไตรมาส 4/65 อยู่ที่ 577 บาทต่อเดือน เทียบไตรมาส 4/64 อยู่ที่ 597 บาทต่อเดือน ลดลง 20 บาทต่อเดือน และรายได้เฉลี่ยต่อราย (ARPU) ปี 2565 อยู่ที่ 587 บาทต่อเดือน จากปี 2564 อยู่ที่ 598 บาทต่อเดือน ลดลง 11 บาทต่อเดือน

นั่นจึงทำให้ JASIF เข้าสู่สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงขึ้นมาทันที..ว่าเดือนถัด ๆ ไปนับจากนี้ 3BB จะมีความสามารถจ่ายได้อีกหรือไม่..??

มีการประเมินกันว่าด้วยเงื่อนไขที่ JASIF มีไว้กับ 3BB ผนวกกับข้อจำกัดในการแข่งขันที่เกิดขึ้น โอกาสที่ 3BB จะผิดนัดชำระค่าเช่ามีความเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว

จนนำไปสู่ทาง 3 แพร่งที่ผู้ถือหน่วยลงทุน JASIF ต้องพึงพินิจพิจารณาว่าจะติดใจอย่างไร..!?

ทางแรก…3BB ไม่มีสภาพคล่องเพียงพอ จนไม่สามารถจ่ายได้ตามกำหนด นำไปสู่การผ่อนหรือยืดชำระค่าเช่าแต่ละเดือนออกไปผลคือ JASIF จะมีรายได้ลดลงทันที แต่ยังต้องมีภาระการจ่ายหนี้กับธนาคารกรุงเทพ (BBL) ทำให้กำไรลดลง จนนำไปสู่เงินปันผลที่ลดลงตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทางที่สอง..การปรับโครงสร้างค่าเช่ากันใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผลที่ตามคือปันผลจะลดลงระยะสั้น แต่อาจได้มาซึ่งเงื่อนไขอื่น ๆ เพื่อชดเชยการลดค่าเช่าดังกล่าว

ทางที่สาม..การ “ปรับลดค่าเช่า” พร้อมกับการ “ยกเลิกสัญญาประกันรายได้” ผลที่จะเกิดตามมาคือปันผลจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แลกกับการต่ออายุสัญญาที่ยาวมากขึ้น

นี่คือ “ทางสามแพร่ง” ที่ผู้ถือหน่วย JASIF จะต้องเลือกว่าจะเอาแนวทางใด..หรือสุดท้ายอาจตัดสินใจขายหน่วยลงทุนออกไป..เพื่อ “สิ้นสุดการเดินทาง” กับ JASIF ก็เป็นได้..!!??

Back to top button