ทะลุ 1,600 ไปยาว
ดูเหมือนแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาเที่ยวนี้จะทำให้โมเมนตัมของการลงทุนเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับปลุกความหวังจะได้เห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,700 จุดอีกครั้ง
ดูเหมือนแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาเที่ยวนี้จะทำให้โมเมนตัมของการลงทุนเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมกับปลุกความหวังจะได้เห็นดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,700 จุดอีกครั้งแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่อาจด่วนสรุปเร็วเกินไปหน่อยในเวลานี้ เพราะแรงกดดันจากอิทธิพลต่างประเทศยังมีบทบาทในการชี้นำค่อนข้างสูง จึงต้องดูไปทีละช็อตเพื่อความอุ่นใจไงล่ะคะ
สาเหตุที่เดี๊ยนต้องสื่อสารเรื่องราวออกไปในทำนองนี้ เพราะมูลค่าการซื้อขายยังไม่หนาแน่นเท่าที่ควร ส่งผลให้การวิ่งทะลุแนวต้าน 1,600 จุด พร้อมกับตั้งฐานที่บริเวณดังกล่าวมีความเปราะบาง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับใส่ใจรายละเอียดตรงนี้อีกนิดหนึ่ง และเมื่อใดที่มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็เชื่อได้อย่างสนิทใจว่า การขึ้นเที่ยวนี้น่าจะไปยาวอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
วันนี้ถึงต้องถามแฟนคลับขาลุยว่า การวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,606.91 จุด บวกไป 13.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.47 หมื่นล้านบาท มันเป็นการเลี้ยวหัวกลับอย่างบูรณาการหรือเปล่า? และตัวเดินเกมที่สำคัญยังเป็น “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” ใช่หรือเปล่า? หากเรื่องดังกล่าวเป็นจริงเหมือนที่ตั้งคำถามไว้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่นักเล่นต้องโหนกระแสในทันที เพราะสถานการณ์รอบด้านเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นพะยะค่ะ
เหมือนกับหุ้นที่เล่นมันทุกครั้งที่ตลาดพุ่งแรง และเป็นตัวที่ชอบเม้าท์ถึงเป็นประจำ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น TTB เป็นลำดับแรก เพราะดูจาก BV 2.26 บาท ก็ทำให้รู้ว่า หุ้นตัวนี้ยังมีแก๊ปให้เล่นอีกบานตะไท แถมเมื่อดูจากการยืนปิดที่ระดับ 1.45 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.02 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบน PE 9.50 เท่า ก็ทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจในทุกมิตินะจ๊ะ
ส่วนรายที่ทำท่าเด้งขึ้นรอบใหม่อย่าง AAV ก็เป็นช็อตที่น่าลุยอีกสักตั้ง เพราะเมื่อดูผลงานที่มีแนวโน้มดีขึ้นเป็นลำดับ ก็คาดหวังราคาหุ้นจะขึ้นไปหายอดเก่าที่บริเวณ 3.10 บาทได้อยู่แล้ว “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 2.82 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 457 ล้านบาท ยังมีช่องให้คนที่ชอบเล่นหุ้นต่ำสิบเข้ามาตะลุมบอนอีกหลายยก..ไม่เชื่อก็ดูการเล่นครั้งก่อนที่เล่นกันมา 3 รอบซิคะ
คล้ายกับการฟื้นตัวของหุ้น GUNKUL ก็เป็นจังหวะตามน้ำแบบไม่ต้องคิดอะไรให้เปลืองสมอง เพราะเมื่อประเมินเรื่องราวที่กระทบแวลูของกิจการแบบเต็ม ๆ ก็พบว่า ราคาหุ้นยังมีแก๊ปให้ไปต่ออีกเยอะพอสมควร “โมนิก้า” จึงเห็นด้วยที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.94 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 211 ล้านบาท เพราะหุ้นเทรดบน PE 11 เท่า และมียิลด์ 3% แบบนี้..มิต้องวอรี่อะไรอีกล่ะ..คุณพระ!
สำหรับคนที่ชอบแนว “โป้งป้าง โป้งป้าง แล้วเลิก” คงต้องมองไปที่สีทนได้อย่างหุ้น TOA อย่างรวดเร็ว เพราะเที่ยวก่อนก็ไล่หุ้นขึ้นไปถึงบริเวณ 34-36 บาท เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ระดับ 3.94 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท เหมาะต่อการเข้าไปตะลุมบอนขนาดไหน? เพราะเมื่อเหลือบดูค่า PE 44 เท่า มันทำให้เกมหุ้นเที่ยวนี้ไม่น่ายาวสักเท่าไหร่จ้า!
ไหน ๆ ก็ชอบลุยกันทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น SVR เพื่อชี้ให้เห็นการกระชากขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.04 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 12.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 202 ล้านบาท ถือเป็นเกมที่น่าจะเล่นกันอีกสักพักหนึ่ง เพราะปีนี้จะมีโครงการที่โอนเยอะมาก และการได้เงินไอพีโอมาต่อยอดโครงการใหม่แบบนี้..มันไฉไลแน่นอนอยู่แล้ว แต่ต้องพึงระวังไว้ว่า กลุ่มผู้บริหารจะสาดหุ้นออกอีกหรือเปล่า? เพราะภาพการเทรดวันแรกแล้วขาย ยังติดตาเดี๊ยนอยู่เลยแม๊!
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น SAF แบบไม่ลังเลใจ เพราะมีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกันเหลือเกิน และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิด 1.85 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 75 ล้านบาท พร้อมกับแสดงอาการว่า ได้เวลาขึ้นรอบใหม่แบบนี้ “โมนิก้า” ถึงกับเกิดอาการ “ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม” เพราะไม่รู้ว่า เรื่องราวในอดีตมันลบล้างกันได้หรือเปล่า?..จึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก..เจ็บคอเจ้าค่ะ