หุ้นรับเลือกตั้ง Election rally

ตลาดหุ้นไทยมักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าการเลือกตั้ง และยาวไปจนถึง 1 สัปดาห์หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น


จากสถิติในอดีตนับตั้งแต่ปี 2533 ตลาดหุ้นไทยมักให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้าการเลือกตั้ง และยาวไปจนถึง 1 สัปดาห์หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้น

จึงมีการให้คำจำกัดความในช่วงเวลานี้ว่า เป็นช่วงของปรากฏการณ์ “Election rally”

หรือมีค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ระดับ 6%

และมีระดับ Maximum และ Minimum return อยู่ที่ 16.5% และ 0.1%

หรือให้เข้าใจแบบง่าย ๆ คือว่าในช่วงเวลาดังกล่าวนี้ตลาดหุ้นไทยไม่เคยให้ผลตอบแทนติดลบแม้แต่ครั้งเดียว

ส่วนกลุ่มหุ้นที่มักจะปรับตัวได้ดีในช่วงปรากฏการณ์ Election rally ทุก ๆ ครั้ง

พบว่ากระจุกอยู่ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภายใน หรือ Domestic play

เช่นกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ กลุ่มการแพทย์ กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธนาคาร กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ และกลุ่มพาณิชย์

ล่าสุด บล.ทรีนีตี้ แนะนำกลยุทธ์ลงทุน

ให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภายในข้างต้น

เป้าหมายเพื่อรองรับกับปรากฏการณ์ Election rally

ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้

ทว่า สิ่งที่น่าสนใจคือว่า กลุ่มหุ้นเหล่านี้ยังไม่ได้มีการปรับขึ้นมามากนัก นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ในแง่มูลค่า (Valuation) ส่วนใหญ่ ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ตึงตัวมากนัก

หุ้นที่มีการแนะนำนั้น จะอยู่ในกลุ่ม SET100 และมีนอก SET100 บ้าง

เช่น ADVANC มีดีลซื้อ TTTBB คาดว่าจะจบไตรมาส 2/2566 ช่วยหนุนธุรกิจเน็ตบ้าน มีซินเนอร์จี้ พร้อมขยายธุรกิจไปดาต้าเซ็นเตอร์ ธุรกิจคลาวด์

BBL มีโอกาสโตจากการรุกตลาดบัตรเครดิต สำรองหนี้และเงินกองทุนแข็งแกร่งสุด แต่ PBV ต่ำสุดในกลุ่มฯ

BGRIM ไตรมาส 1/2566 พลิกกลับมากำไร จากค่า Ft ปรับมาอยู่ที่ 158 สตางค์ จาก 93.43 สตางค์

BH ยังคงทำรายได้และกำไรระดับนิวไฮต่อเนื่อง จากการปรับเพิ่มราคา และเพิ่มคุณภาพในการรับบริการ ด้านมาร์จิ้นยังทำได้กว่า 20% และมีอัพไซด์จากรายได้ของคนไข้ต่างชาติที่ยังกลับมาไม่ครบ 100%

CRC คาดกำไรไตรมาส 1/2566 เติบโตโดดเด่นสุดในกลุ่มจากนักท่องเที่ยวกลับมาและ มาตรการ “ช้อปดีมีคืน”

CBG รายได้ในประเทศและส่งออกมากขึ้นจากการทำโปรโมชั่น พร้อมการเปิดตัวสินค้าใหม่ ในขณะที่ต้นทุนขวดแก้วปรับตัวลดลงตามค่าก๊าซ

CENTEL คาดเติบโตได้ Double digits และสามารถบริหารต้นทุนได้ดีขึ้นแม้ค่าวัตถุดิบจะสูงขึ้น

ส่วนธุรกิจโรงแรมในประเทศยังฟื้นตัว

DOHOME ผลประกอบการ Q4/2565 Bottom แล้ว ไตรมาส 1/2566 ฟื้นตัวจากธุรกิจก่อสร้าง และต้นทุนค่าระวางเรือลดลง

PTG ค่าการตลาดปรับเพิ่มหลังลดเก็บเงินเข้ากองทุน แถมท่องเที่ยวบูมหนุนยอดขายน้ำมัน

ส่วนรายชื่อหุ้นแนะนำในดัชนี นอก SET100

เริ่มจาก BVG  มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มเติมจากการให้บริการด้วยระบบ AI การเติบโตค่อนข้างสดใส ทั้งในไทย และการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ

BWG คาดปี 2566 โอกาสพลิกกลับมากำไร ธุรกิจกำจัดขยะกลับมาปกติ

พร้อมขยายโรงเชื้อเพลิง SRF รองรับโรงไฟฟ้า ETC ซึ่งคาดจะประกาศผู้ชนะ 5 เม.ย.นี้

ETC ประกาศผู้ชนะโรงไฟฟ้าขยะ 5 เม.ย. นี้ คาดบริษัทจะชนะอย่างน้อย 5 โครงการ ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าอีก 3 เท่า และ EPS โตกว่า 5 เท่า

HTC ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว การปรับขึ้นราคาขาย การปรับสูตรน้ำตาล

MENA ร่วมทุนตะวันแดง ช่วยบริหารรถขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับบริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส พร้อมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรทันที 15-20 ล้านบาท เติบโต 30% ของกำไร

PR9 ทำรายได้และกำไรระดับ New High จากการเพิ่ม Ward การรักษา และเพิ่มศูนย์แพทย์เฉพาะทาง

SAPPE คาดไตรมาส 1/2566 โตแรงเมื่อเทียบกับปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา

หน้าร้อนหนุนรายได้เครื่องดื่ม พร้อมการเปิดตัวสินค้าใหม่ โมกุ โมกุ 2 รสชาติที่ขายดีในต่างประเทศ ด้านต้นทุน packaging ปรับตัวลดลงหนุนการขยายตัวของ GPM

และ SNNP ไตรมาส 1/2566 เติบโตจากการบริโภคในประเทศขยายตัว, หน้าร้อนสินค้าเจเล่ขายดี

รวมถึงรายได้ต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม

Back to top button