กระเป๋าฉีกเป็นแถว?

ช่วงนี้ “โมนิก้า” ได้รับคำถามจากมิตรสหายในแวดวงตลาดหุ้นเยอะเหลือเกิน และหนึ่งในคำถามยอดฮิตประจำสัปดาห์ก็คือ ตลาดหุ้นจะลงไปถึงไหน?


ช่วงนี้ “โมนิก้า” ได้รับคำถามจากมิตรสหายในแวดวงตลาดหุ้นเยอะเหลือเกิน และหนึ่งในคำถามยอดฮิตประจำสัปดาห์ก็คือ ตลาดหุ้นจะลงไปถึงไหน? เพราะทุกครั้งที่เริ่มตั้งลำสวยทีไร ต่อจากนั้นโดนถล่มขายไม่เลี้ยงทุกที ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ดัชนีขึ้นไปไม่ถึงสักที จนกลายเป็นแรงบีบคั้นที่ทำให้ต้องตัดขายขาดทุน เพราะราคาหุ้นที่เห็นว่า ลงมาลึกเหลือเกินก่อนหน้านี้ เอาเข้าจริงก็ยังมีราคาที่ลงลึกกว่าให้เห็นน่ะซี

วันนี้ถึงอยากให้แฟนคลับทำความเข้าใจกับบรรยากาศการลงทุนที่ง่อนแง่น มันมาจากปัจจัยหลายอย่างไม่เป็นใจเหมือนที่คาดหวัง ผนวกกับตลาดหุ้นต้องการเห็นผลงานไตรมาส 1 สามารถเบ่งกำไรได้เหมือนกับที่โม้ไว้ได้หรือเปล่า? จึงทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกกลับมาเล่นหุ้นหลังสงกรานต์ เพราะภาพของตลาดหุ้นไทยในเวลานั้น น่าจะให้คำตอบที่ชัดเจนว่า “ลุยต่อ” หรือ “ถอนสมอ” ไงล่ะคะ

ที่แน่ ๆ เที่ยวนี้คือ หลายคนกำลังเผชิญกับภาวะ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” เพราะหุ้นที่เพิ่งซื้อเมื่อต้นสัปดาห์ดันร่วงเป็นนกปีกหัก ผนวกกับอาการที่ดัชนีเซถลาลงมาปิดที่ระดับ 1,571.13 จุด ลบไป 22.92 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.88 หมื่นล้านบาท มันเหมือนนักเล่นยอมจำนนต่อฟ้าดิน และเป็นภาพที่สวนทางกับความเชื่อที่ว่า ทุกอย่างกำลังดีขึ้นแบบนี้..กระเป๋าฉีกกันเป็นแถวเลยนะออเจ้า!

โดยเฉพาะในรายของ COM7 ก็มีประเด็นเกี่ยวกับกำไรไตรมาส 1 ลด 12% เป็นหนามทิ่มแทงหัวใจแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ทำให้ผู้คนจินตนาการไปถึงไตรมาส 2 อาจประสบปัญหาคล้ายกัน หุ้นเลยถูกขายออกมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมาปิดที่ระดับ 27 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 9.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.28 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 24 เท่า โดยที่ธุรกิจอยู่ในช่วงถดถอยแบบนี้..ลงยาวแหง ๆ นะคุณพี่

ขนาดหุ้น ITC ที่หลายคนลงความเห็นว่า ธุรกิจอาหารหมา อาหารแมว อยู่ในช่วงเติบโต และมองว่าผลงานในปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าปีก่อน แต่เอาเข้าจริงกลับโดนถล่มขายทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 22.80 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 160 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low ก็กลายเป็นประเด็นที่ทำให้นักลงทุนสงสัยขึ้นทันทีว่า เกิดอะไรขึ้น?…ใครรู้ช่วยตอบทีจ้า!

อีกรายที่อาการไม่ค่อยดี “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น HANA เป็นรายถัดมา เพราะราคาหุ้นทิ้งตัวแบบ “บันไดขาลง” ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างความหนักใจให้กับคนที่คิดจะรับหุ้น เพราะการลงแบบนี้เหมือนส่งสัญญาณให้รู้ว่า ราคาหุ้นพร้อมจะเด้งกลับ แต่สองครั้งที่ผ่านมากลับดิ่งลงหน้าตาเฉย เดี๊ยนถึงกังวลกับการยืนปิดที่ระดับ 47.25 บาท ลบไป 3 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.04 พันล้านบาท อาจเป็นการล่อเม่าให้มารับของ เพราะจุดเด้งอยู่แถว 46 บาทน่ะซี

ส่วนรายที่มีอาการไหลเป็นน้ำ และมองไม่เห็นจุดกลับตัว “โมนิก้า” ต้องเม้าท์ถึงอดีตดาวดังอย่าง BYD เพื่อชี้ให้เห็นการโรยตัวลงมาจากระดับ 13 บาท จนล่าสุดลงมายืนปิดที่ระดับ 8.25 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 6.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61 ล้านบาท มันกลายเป็นสถานการณ์ที่บีบหัวใจอย่างแรง เพราะทรงหุ้นมันทำให้เชื่อว่า ในภาวการณ์ลงทุนผันผวนแบบนี้ หุ้นมีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูงนะเจ้านาย

คล้ายกับสถานการณ์ขาลงของหุ้น IRPC ก็มาจากความกังวลเกี่ยวกับผลงานแทบทั้งนั้น แถมก่อนหน้านี้ก็เพิ่งตั้งลำขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน แต่ก็มาโดนบรรยากาศตลาดหุ้นเล่นงานจังเบ้อเร่อ ราคาหุ้นเลยร่วงลงแรงสองวันติด ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 2.58 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 212 ล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” กล้าพูดได้ทันทีว่า หากจุดเด้งไม่ทำงานที่บริเวณ 2.50 บาท ก็โกยเถอะโยม!

ก่อนจากกันขอเม้าท์ถึงอาการใจฝ่อของเจ้ามือที่ดันหุ้น SVR เมื่อสัปดาห์ก่อนกันสักหน่อย เพราะดูเหมือนเงินในกระเป๋าจะไม่หนาพอ จึงต้องรีบถอนสมอก่อนใครเพื่อน และเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้นเริ่มร่วง ก่อนจะไหลลงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 1.67 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82 ล้านบาทแบบนี้..มันจบแล้วครับนายจริงหรือเปล่า? คงต้องดูวันนี้อีกวันนะคะ

Back to top button