CH ปี 66 ยังสดใสซาบซ่า!

คุณค่าบริษัท

บริษัท เจริญอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ CH เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ ประกาศงบปี 2565 มีกำไรสุทธิ 103.27 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,831.35 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 67.07 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,442.28 ล้านบาท

ปัจจัยที่หนุนการเติบโตมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง เพิ่มขึ้น 26.66% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการขายในประเทศ 156.14 ล้านบาท คิดเป็น 48.22% และเพิ่มขึ้นจากการขายต่างประเทศ 180.91 ล้านบาท คิดเป็น 19.23% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อน

โดยในช่วงต้นปี 2565 สถานการณ์ขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์สำหรับการส่งสินค้าระหว่างประเทศคลี่คลายลง อันเนื่องมาจากการปิดประเทศของจีนตามนโยบาย Zero-COVID ทำให้จีนมีความต้องการใช้เรือและตู้คอนเทนเนอร์ลดลง อีกทั้งสถานการณ์โควิดในประเทศเริ่มคลี่คลายหลังจากภาครัฐมีนโยบายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 4/2564 ทำให้บริษัทมีรายได้จากการขายเติบโตขึ้นมากกว่าปี 2564

สำหรับปี 2566 คาดจะเติบโตได้ต่อ ด้วยเป้าหมายจะมีรายได้เติบโต 10% จากปี 2565 รับอานิสงส์จากจีนประกาศเปิดประเทศและการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาสดใสอีกครั้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน รวมทั้งเตรียมบุกตลาดส่งออกไปยังกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย

กลยุทธ์ที่จะหนุนการเติบโตของ CH จะประกอบด้วย 1) การเพิ่มกำลังการผลิตผลไม้อบแห้ง โดยเฉพาะมะม่วง แบรนด์ Bangkok Tasty ซึ่งเป็นผลไม้ที่ชาวจีนชื่นชอบและนิยมซื้อเป็นของฝาก

2) เพิ่มการรับผลิตผลไม้อบแห้งภายใต้แบรนด์ของลูกค้า (OEM) มากขึ้น ขณะนี้เริ่มมีการติดต่อและออเดอร์ทยอยเข้ามาบ้างแล้ว 3) การพัฒนาและออกสินค้าใหม่ที่หลากหลายอย่างสม่ำเสมอ ตลอดจนขยายตลาดสินค้าของฝากของที่ระลึกให้ครอบคลุมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจุดหมายปลายทางแหล่งพักผ่อนยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจีนในแต่ละภูมิภาค

และ 4) มีแผนไปร่วมงานแสดงสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าและขยายตลาดต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2566 จะไปร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมจะไปร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศจีน และในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมจะร่วมงาน THAIFEX ในประเทศไทย

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น CH ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 26.18 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 19.09 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 2.15 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ส่วนใหญ่ P/BV จะอยู่ที่ระดับ 1.58 เท่า