SMK ได้ทีเข้า..โอกาสออก.!
ดีเดย์วันนี้ไปจนถึง 9 พ.ค. 66 เป็นเวลาหนึ่งเดือนที่นักลงทุนจะได้ทั้งจังหวะซื้อและโอกาสขายหุ้นบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK
ดีเดย์วันนี้ (10 เม.ย.) ไปจนถึง 9 พ.ค. 2566 เป็นเวลาหนึ่งเดือนที่นักลงทุนจะได้ทั้งจังหวะซื้อและโอกาสขายหุ้นบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ SMK..!!
โดยคนที่มีหุ้น SMK อยู่ในพอร์ต จะมีเวทีตัดสินใจว่า ควรถือต่อหรือพอแค่นี้ (เป็นโอกาสในการขาย) ส่วนคนที่คาดหวังการกลับมาของหุ้นตัวนี้ ก็อาจซื้อความหวัง (เป็นจังหวะให้เข้าเก็บหุ้น) หลังจากตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเปิดให้ซื้อขายอีกครั้ง จากนั้นตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.เป็นต้นไป ก็จะแขวนป้าย SP ยาวไป…
โดยช่วงหนึ่งเดือนที่เปิดให้ซื้อขายหุ้น SMK นั้น มีเงื่อนไขให้ซื้อขายด้วยเงินสด หรือบัญชี Cash Balance เท่านั้น พร้อมจะขึ้นเครื่องหมาย NC กำกับ เพื่อเตือนนักลงทุนให้ใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยวันแรกที่เปิดซื้อขาย กำหนด Ceiling & Floor ไม่เกินหนึ่งเท่าจากราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (วันที่ 22 ก.พ. 2566 หุ้น SMK ปิดตลาดที่ 3.38 บาท) จากนั้นในวันถัดไป Ceiling & Floor ของหุ้น SMK จะถูกปรับให้เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ…
ก็คงเป็นช่วงเวลาหนึ่งเดือน ที่จะเห็นทั้งคนในอยากออก…คนนอกอยากเข้ากันอุตลุด..!!
ส่วนที่มาที่ไปของเรื่องนี้ ต้องเท้าความไปถึงการออกอาละวาดของโควิดที่เขย่าขวัญคนทั้งโลก…และกลายเป็นโอกาสในวิกฤตของธุรกิจประกันวินาศภัยของไทย ที่ปิ๊งไอเดียคลอดประกันโควิดแบบ เจอ จ่าย จบ…ซึ่งช่วงแรก ๆ ที่ยอดเคลมประกันโควิดน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนลูกค้าที่ทำประกันไว้จำนวนมาก บริษัทประกันก็รับเละพุงกางไปตาม ๆ กัน…หนึ่งในนั้นก็รวมถึง SMK ด้วย
แต่ดูเหมือนช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ของบริษัทประกันจะสั้นไปหน่อย เพราะผ่านมาได้ไม่กี่อึดใจ ยอดผู้ป่วยโควิดเริ่มเป็นกราฟขาขึ้น มีผู้ติดเชื้อวันละหลายหมื่นคน ส่งผลให้ยอดเคลมประกันโควิดพุ่งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ทำให้บริษัทประกันต้องแบกค่าสินไหมทดแทนโควิดหลังอาน…
ในส่วน SMK แม้พยายามแก้ไขสถานการณ์ แต่ดูเหมือนจะ “กลับตัวก็ไม่ได้…ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง” ซะแล้ว ผลพวงที่ตามมา ผลการดำเนินงานเละเทะ…งบงวดปี 2564 พลิกมาขาดทุน 4,753 ล้านบาท จากรายได้รวม 10,898 ล้านบาท ส่วนงบปี 2565 ขาดทุนเพิ่มเป็น 32,759 ล้านบาท จากรายได้รวม 8,239 ล้านบาท
สุดท้าย SMK มีสภาพไม่ต่างจากผู้ป่วยหนักในห้องไอซียู…ต้องเดินทางเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายกลางไปตามระเบียบ…
ขณะที่ผู้สอบบัญชีก็ไม่แสดงความเห็นต่องบงวดปี 2565 ของ SMK ซึ่งมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 30,487.77 ล้านบาท และสำรองเงินกองทุนของบริษัทต่ำกว่าเกณฑ์การดำรงเงินกองทุนตามความเสี่ยงที่กำหนด เลยเป็นที่มาของการขึ้นเครื่องหมาย NP และ SP อย่างที่เห็น…
ปัจจุบัน SMK ก็อยู่ระหว่างกู้ชีพ (ฟื้นฟูกิจการ) ซึ่งแนวทางก็มีทั้งการเพิ่มทุนจากผู้ร่วมทุนรายใหม่ การแปลงหนี้เป็นทุน และแผนการดำเนินงานเพื่อให้บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติ
แต่ที่น่าสนใจ…หลังจาก SMK ผ่านการกู้ชีพแล้ว (ออกจากแผนฟื้นฟูฯ) ก็จะกลายเป็นคนใหม่ที่เปล่งรัศมีกว่าเดิม…เพราะพอตัวเลขทางการเงินเปลี่ยน Valuation ก็จะเปลี๊ยนไป๋…ดังนั้น ถ้าใครเป็นสีทนได้ (มีเงินเย็นเต็มกระบุง) ก็คงได้เห็นผลตอบแทนที่เข้มข้นขึ้น…แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับแผนฟื้นฟูฯ อะนะ…
อย่าลืมว่า ธีมเทิร์นอะราวด์มันแรงงงส์…นะจิบอกให้..!!
…อิ อิ อิ…