‘จีน’ จีดีพีเติบโต..ดีมานด์อ่อนแอ.!?

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า GDP ของจีน ช่วงไตรมาส 1/66 เติบโต 4.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 2.9% เมื่อเทียบไตรมาส 4/65


สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีน ช่วงไตรมาส 1/66 เติบโต 4.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 2.9% เมื่อเทียบไตรมาส 4/65

ถือว่า…สูงกว่าคาดการณ์จากบรรดานักวิเคราะห์ประเมินว่า GDP ของจีนจะเติบโต 4%

จากตัวเลขเศรษฐกิจจีนไตรมาส 1/66 เป็นที่จับตามองของนักลงทุนอย่างกว้างขวางเพื่อเป็นการมองหาสัญญาณของความแข็งแกร่งในการฟื้นตัว หลังจากจีนยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิดเมื่อเดือน ธันวาคมที่ผ่านมา และผ่อนปรนมาตรการควบคุมบริษัทเทคโนโลยี และอสังหาริมทรัพย์ที่บังคับใช้มาอย่างยาวนานถึง 3 ปี

นักวิเคราะห์อาวุโสจาก City Index ระบุว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนที่ประกาศออกมาอยู่ในทิศทางที่ดี ส่งผลให้รัฐบาลปักกิ่งสามารถดำเนินตามเป้าหมายการเติบโต 5% ในปีนี้

ที่สำคัญตัวเลขนี้ช่วยยกระดับทัศนคติเชิงบวกในเอเชียได้ระดับหนึ่ง แต่จากสภาพโดยรวมที่ตลาดไม่ได้ตอบสนองเชิงบวกมากนัก แสดงให้เห็นความกังวลอยู่ว่าการเติบโตไตรมาส 1/66 อย่างก้าวกระโดดนี้อาจเป็นผลจากการเปิดประเทศ และการขยายตัวอาจชะลอตัวลงช่วงไตรมาส 2/66 และไตรมาส 3/66

ทั้งนี้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจีนยังคงไม่เสถียรมากนักแม้ว่าการบริโภค บริการและการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเห็นตัวเลขสูงขึ้น แต่ดัชนีราคาผู้ผลิตและผู้บริโภคเห็นการชะลอตัวลง รวมถึงเงินฝากธนาคารที่เร่งตัวสูงขึ้นอย่างมากสร้างความกังวลต่อดีมานด์ที่สั่นคลอนได้

ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายให้คำมั่นว่าจะยกระดับมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจปีนี้เพื่อป้องกันการว่างงาน แต่ต้องเผชิญกับความสามารถในการปรับใช้ที่จำกัดท่ามกลางความกังวลเรื่องความเสี่ยงของหนี้เห็นได้จากการเติบโตทางเศรษฐกิจปีที่ผ่านมาที่แตะระดับต่ำสุดรอบเกือบ 50 ปี จากการบังคับใช้มาตรการควบคุมโควิด-19

ธนาคารกลางจีน ระบุว่า จะยังคงสภาพคล่องในระบบที่สูงไว้ รวมถึงการสร้างเสถียรภาพด้านการเติบโต ตลาดแรงงานและมุ่งเน้นด้านการขยายดีมานด์เพิ่มขึ้น

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศอัดฉีดเงิน 1.7 แสนล้านหยวนหรือราว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่ระบบธนาคารผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ด้วยอัตราดอกเบี้ยคงเดิมที่ 2.75% นั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าหน่วยงานภาครัฐไม่มีความกังวลที่มากเกินไปที่จะเร่งการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

ผลสำรวจความเห็นจากนักวิเคราะห์ต่าง ๆ ระบุว่าจะเห็นการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนปีนี้เร่งตัวขึ้นแตะ 5.4% เพิ่มขึ้นจาก 3% เมื่อปี 2565 และสูงกว่าเป้าหมายที่ทางการจีนคาดไว้ 5% หลังจากปีที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

นอกจากนี้ มีตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ประกาศออกมา โดยตัวเลขการเติบโตของยอดค้าปลีกเร่งตัวขึ้นแตะ 10.6% สูงกว่าคาดการณ์และอยู่ระดับสูงสุดรอบเกือบ 2 ปี

ขณะที่ตัวเลขการเติบโตทางการผลิตยังเห็นการเติบโตสูงขึ้นแม้ว่าจะอยู่ระดับที่ต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ก็ตาม

“เหวิน ปิ่น” หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก China Minsheng Bank ระบุว่าความกังวลของตลาดขณะนี้คือภาวะเงินฝืดที่แสดงให้เห็นถึงความกังวลด้านความแข็งแกร่ง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนหลังจากยกเลิกมาตรการควบคุมโควิดแล้ว ตัวเลขการผลิตปรับตัวขึ้นอยู่ระดับเดียวกันกับช่วงก่อนที่จะเกิดโควิดแต่ด้านดีมานด์ยังอ่อนแอ..

ขณะที่นักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกนและซิตี้กรุ๊ป 2 สถาบันการเงินชื่อดังสหรัฐฯ มีการปรับเพิ่มคาดการณ์เต็มปีของเศรษฐกิจจีนหลังจากเปิดเผยรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/66 เติบโต 4.5% โดยเจพี มอร์แกนปรับเพิ่มมุมมองการเติบโตเศรษฐกิจจีนปี 2566 ที่ 6.4% จากคาดการณ์เดิมอยู่ที่ 6%

Back to top button