ดราม่า..ค่าไฟแพง.!?
กระแสดราม่านี้เอง กลับกลายเป็นเครื่องมือให้เหล่าบรรดาพรรคการเมืองต่าง ๆ บังเกิดความเห็นอกเห็นใจประชาชนขึ้นมาทันควัน
ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 เม.ย. 66 สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีการประกาศค่าไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย (ไม่เคยมีการปรับเปลี่ยนระหว่างกาล) แต่ทว่าช่วงปลายเดือน มี.ค.มาจนถึงปัจจุบัน (25 เม.ย. 66) กลับเกิดกระแส “ดราม่าค่าไฟแพง” ขึ้นมาซะอย่างนั้น
ด้วยกระแสดราม่านี้เอง กลับกลายเป็นเครื่องมือให้เหล่าบรรดาพรรคการเมืองต่าง ๆ บังเกิดความเห็นอกเห็นใจประชาชนขึ้นมาทันควัน หยิบยกวิธี “แก้ปัญหาค่าไฟแพงกันแบบสุดลิ่มทิ่มประตู” เพื่อเรียกคะแนนเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น 14 พ.ค. 66
แต่สิ่งที่พรรคการเมือง..หรือแม้แต่บรรดาผู้ใช้ไฟเอง..ไม่ฉุกคิด..ขบคิด..หรือไม่ยอมคิด..นั่นคือพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 66 มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่
หากดูตามข้อเท็จจริงคือค่าไฟยัง 4.77 บาทต่อหน่วยเท่าเดิมนะ..แต่ในบิลค่าไฟฟ้าทำไมตัวเลขมันเพิ่มขึ้นได้ล่ะ..!?
เหตุผลในเชิงวิทยาศาสตร์ คือ มันมีเรื่องฤดูกาล..เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยช่วง มี.ค.-เม.ย. 66 ของทุก ๆ ปี เป็นช่วงอากาศโคตรร้อน หรือที่เรียกแบบภาษาชาวบ้านคือ “ร้อนตับแตก” นั่นเอง
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ..เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศเมื่อเจออากาศร้อนจัด..การทำงานของคอมเพรสเซอร์ก็หนักขึ้น ทำให้ “อัตราการกินไฟ” สูงกว่าทุกช่วงอื่น ๆ ของปี
ตามมาด้วยพฤติกรรมการใช้ไฟของแต่ละคน ช่วงฤดูร้อนหลายคนเข้าถึงบ้านปุ๊บเปิดแอร์ทันที ต่างจากช่วงฤดูกาลอื่น ๆ อาจเปิดแค่พัดลม..ส่วนเครื่องปรับอากาศค่อยมาเปิดช่วงก่อนเข้านอน..
หรือช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์..หลายคนเลือกที่จะอยู่กับบ้าน เครื่องไฟฟ้าอื่น ๆ ก็จะถูกเปิดใช้งานมากขึ้น และเมื่อร้อนก็ต้องเปิดใช้เครื่องปรับอากาศ
นี่ยังไม่รวม “อัตราก้าวหน้า” (ที่การไฟฟ้าฯ ไม่เคยบอกให้ชาวบ้านเลย) ของค่าไฟที่จะผันแปรขึ้นแต่ละหน่วยอีกนะ..!!!
นั่นคือคำตอบว่า..ทำไม๊ทำไม..!? บิลค่าไฟงวดเดือน มี.ค.และเดือน เม.ย. 66 ตัวเลขค่าไฟมันถึงสูงกว่าปกติ..ทั้งที่ค่าไฟฟ้าอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย..เช่นเดิมนะ
ก่อนจะโหนกระแส “ดราม่าค่าไฟแพง” อาจต้องกลับมาสำรวจพฤติกรรมการใช้ไฟของตัวเองก่อนดีหรือไม่.!?
อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่า “ต้นตอ” มันเกิดจากอะไรกันแน่..
ที่สำคัญมันช่วยเป็น “ภูมิความรู้ที่คุ้มกัน” เพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของนักการเมืองช่วงนี้ ที่พยายามประดิษฐ์วลีสวยหรูเรื่องแก้ปัญหาค่าไฟแพง..เพื่อเรียกคะแนนเสียงให้ตัวเอง..!!
โดยไม่มีการสะท้อนปัญหาหรือต้นตอที่แท้จริงว่ามันเป็นอย่างไร..!!??
หรือ “เลือกที่จะพูด” ให้สิ่งที่ตนเองได้ประโยชน์มากที่สุด
และสวมอ้างว่า “ทำเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน” จริง ๆ นะ
เฮ้อ..การเมือง..ก็คือการเมือง..นิยายน้ำเน่าสิ้นดี..!?