ขายหนีตาย?
ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เพราะผู้เล่นหลัก ๆ พากันขายหุ้นหนีตายแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ดูเหมือนสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เพราะผู้เล่นหลัก ๆ พากันขายหุ้นหนีตายแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น จนทำให้ดัชนีหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,570 จุดไปเมื่อสองวันก่อน และแสดงอาการจะทรุดตัวลงไปทดสอบแนวรับสุดท้ายที่บริเวณ 1,520 จุดแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่บั่นทอนกำลังใจของผู้เล่นแบบเต็ม ๆ และมีความเป็นไปได้ที่แนวรับดังกล่าวจะต้านทานแรงขายที่ไหลออกมาเรื่อย ๆ ไม่ไหวนะจ๊ะ
สาเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นเป็นผลมาจากอารมณ์ของผู้เล่นไม่สู้เอาเสียเลย (คล้ายกับนกเขาไม่ขันตอนเช้า) ผนวกกับปัจจัยบวกใหม่ ๆ ก็เหือดแห้งเหลือเกิน หรือแม้กระทั่งค่าสัญญาณเทคนิคก็ปักหัวลงกันเป็นแถว “โมนิก้า” ถึงมองการลงทุนทำดับเบิลโลว์ที่บริเวณ 1,520 จุดอาจกลายเป็นการลงมาแตะแล้วลงต่อ มากกว่าแตะแล้วขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องไปคิดเป็นการบ้านอีกครั้งเจ้าค่ะ
ส่วนความคิดเห็นส่วนตัวของอีฉันออกไปในโทนลบตั้งแต่ดัชนีเริ่มหลุด 1,600 จุด และเริ่มมองในมุมที่แย่ลงไปอีก ก็อีตอนที่จวนเจียนจะหลุด 1,570 จุด จนสุดท้ายวานนี้เห็นดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 1,540.20 จุด ลบไป 17.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.63 หมื่นล้านบาท จึงไม่มีมุมไหนที่จะทำให้ “โมนิก้า” เปลี่ยนใจไปมองในมุมบวกได้เลย และเริ่มทำใจยอมรับกับความเลวร้ายที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นะจะบอกให้
ขนาดแบงก์ตัวท็อปที่ทำผลงานได้เสมอต้นเสมอปลายอย่างหุ้น KKP ยังถูกรินเทขายไม่เลี้ยงเป็นแรมเดือน จนสุดท้ายลงมายืนปิดที่ระดับ 62.75 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 755 ล้านบาท โดยที่ราคาหุ้นเทรดบน PE 7 เท่าแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องราวที่สุดแสนจะรันทดใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ต่อให้ถูกขนาดไหน..ก็จะขายต่อไปน่ะซี
อีกรายที่ชอกช้ำระกำทรวงไม่แพ้กัน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น JMART เพื่อชี้ให้เห็นการลงมาทำ “โลว์แล้ว โลว์อีก” มันหมายถึงทิศทางขาลงยังดำเนินต่อไปไม่มีกำหนด และถ้ามองในมุม PBV ที่อยู่ในระดับ 1.40 เท่า ก็ทำให้รู้สึกน่ากังวลใจอย่างมาก เพราะในภาวะปกติถือว่า การเทรดในระดับนี้ค่อนข้างอุ่นใจพอสมควร เดี๊ยนเลยเม้าท์ได้แค่ว่า อยู่ห่างไว้ก่อน! หลังหุ้นทรุดฮวบลงมาปิดที่ 17.40 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 10.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 782 ล้านบาทอีกแล้วครับท่าน!
เช่นเดียวกับในรายของสื่อโฆษณายักษ์ใหญ่อย่าง VGI ก็ถูกทิ้งแบบไม่ดูดำดูดีอะไรทั้งสิ้น จนเสมือนว่า น่าจะมีอะไรซ่อนไว้ใต้พรมแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ไม่โอเคเอาเสียเลย และโจทย์นี้ก็พุ่งตรงไปหา “เฮีย.ค” แบบเลี่ยงไม่ได้ เพราะน่าจะเป็นคนที่ตอบคำถามสังคมได้ดีว่า บริษัทเกิดแอคซิเดนท์อะไรหรือเปล่า? หลังราคาหุ้นทิ้งตัวลงมาปิดที่ 3.38 บาท ลบไป 0.58 บาท หรือลงไป 14.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 304 ล้านบาทไงล่ะคะ
ส่วนรายที่โดนรินขายออกมาไม่ว่างเว้นอย่าง SABUY ก็มีมุมที่ทำให้ต้องคิดมากเช่นกัน หลังราคาหุ้นโรยตัวลงมาปิดที่ระดับ 9.85 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 361 ล้านบาท แถมระหว่างวันก็ลงไปทำโลว์ที่ระดับ 9.40 บาทเสียด้วย และกลายเป็นสัญญาณเตือนที่ทำให้แมงเม่ารู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที! เพราะโมเมนตัมของหุ้นเริ่มเสียทรงมากขึ้นเรื่อย ๆ พะย่ะค่ะ
ส่วนรายที่พังยับเยินจนมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาดีดังเดิม คงไม่มีใครเละเทะเกินไปกว่าหุ้น ZIGA อีกแล้วในเวลานี้! ยิ่งได้เห็นคำชี้แจงเกี่ยวกับผู้บริหารบริษัทย่อยโกงเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง จนต้องปิดเหมืองบิตคอยน์ที่ลงทุนไปกว่า 130 ล้านบาทแบบนี้ มันหมายถึงระบบหลังบ้านมั่วเหลือเกิน จึงโดนลงโทษด้วยการกระหน่ำขาย จนราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ระดับ 2.06 บาท ลบไป 0.88 บาท หรือลงไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145 ล้านบาทแบบนี้.. “ฝังกลบ จบทีเดียว”..อิอิอิ
ในเมื่อมู้ดแอนด์โทนมาเวย์นี้ ก็ขอปิดท้ายกันที่หุ้น DPAINT เพื่อชี้ให้เห็นการทรุดตัวเป็นเวลาเดือนครึ่ง มันสะท้อนให้เห็นอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไปจากเดิม บวกกับเจอดราม่าของคนในกงสีเข้ามาอีกดอก ส่งผลให้ทุกอย่างมันขมุกขมัวไปหมดทุกอย่าง หวยเลยมาออกด้วยการขายหุ้นทิ้งอีกตามเคย หุ้นถึงทรุดลงไปทำโลว์ของวันที่ 5.30 บาท ก่อนจะตีกลับขึ้นมาปิดที่ 5.95 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ยืนเหนือ 10 บาทแบบนี้..มันคืออะไร..มันคืออะไร?