ดักซื้อ SET50

วานนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ บวก 3.75 จุด มาที่ 1,543.95 จุด

มีหุ้นในกลุ่ม SET50 ปิดบวกได้ 34 หุ้น

ไม่เปลี่ยนแปลง 4 หุ้น

และหุ้นที่ราคาปิดลบ จำนวน 12 หุ้น

แนวโน้มวันนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่า ตลาดน่าจะไซด์เวย์

หรือแกว่งตัวในกรอบแคบ

เหตุผลเพราะนักลงทุนยังคงรอตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนทั้งของไทย และสหรัฐฯ

และอาจจะรวมถึงทางยุโรป

และยังมีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ของสหรัฐฯ ด้วย

สมมุติว่า หากตัวเลขที่ว่ามาทั้งหมดนั้น ออกมาดีกว่าคาด หรือเป็นไปตามคาด

ดัชนีหุ้นของไทยน่าจะเริ่มกลับตัวเป็นขาขึ้นได้

ส่วนกลุ่มหุ้นที่จะพาดัชนีขึ้นมาในรอบนี้ จะอยู่ในกลุ่ม SET50 นั่นแหละ

อย่างช่วงที่หุ้นเป็นขาลง

กลุ่ม SET50 คือกลุ่มฯ ที่พาหุ้นทั้งตลาดลงมา รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็กด้วย

ทว่า พอหุ้นกลับเข้าสู่ช่วงขาขึ้น

หรือมีการดีดกลับของดัชนี

หุ้นกลุ่ม SET50 จะวิ่งนำขึ้นมาก่อน จากการเข้ามาไล่ซื้อของนักลงทุนสถาบัน และต่างชาติ

มีคำแนะนำว่า ให้ควานหาหุ้นในกลุ่ม SET50 นั่นแหละ

ดูว่า หุ้นตัวไหนที่มีแนวโน้มผลประกอบการดี กราฟสวย แต่ราคาปรับลงตามภาวะตลาด ทำให้เกิดอัพไซด์สูงจากราคาเป้าหมายเฉลี่ยของ IAA Consensus

น่าจะเป็นจังหวะทยอยสะสมได้

หุ้นในกลุ่ม SET50 ที่ว่านี้

บางตัวเด้งเร็ว เด้งแรง หากก่อนหน้านี้ราคาลงมาแรง (เกินไป)

แต่หากยังไม่มั่นใจ

นักวิเคราะห์แนะนำว่า ทยอยสะสมได้ เข้าทีละไม้

กลุ่มธนาคาร ช่วงราคาย่อตัว นี่ก็มีคำแนะนำเช่นกันว่า สะสมได้ เช่น KTB KBANK SCB และ BBL

และแบงก์เล็ก เช่น TISCO

ส่วนหุ้นบางตัวในกลุ่มกลุ่มน้ำมัน ปิโตรเคมี ผลประกอบการไตรมาสแรก บางโบรกฯ บอกว่า อาจจะยังไม่ค่อยดีนัก จึงแนะอาจจะเลี่ยง ๆ ไปก่อน

กลุ่มท่องเที่ยว เช่น สายการบิน ร้านอาหาร นี่ก็เข้าสะสมได้เช่นกัน

จะเห็นว่าช่วงที่ดัชนีหลุด 1,600 จุดลงมา

หุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ยืนแข็งแรงมาก ๆ

บางวันวิ่งสวนกับภาวะตลาดด้วย

AOT มีแนวรับ 71.50 บาท และแนวต้านถัดไป 74.25 บาท กราฟกำลังมาสวย ๆ

หรืออย่าง “พี่ปอ” หรือ PTT ราคา 30-31 บาท ใครที่พอจะ “ซื้อถือยาว” ดักกินปันผล (จ่าย 2 ครั้งต่อปี) ที่ระดับราคานี้ ได้อัตราผลตอบแทน 6.50-7% ต่อปี ถือว่าคุ้ม

ดังนั้น ช่วงหุ้นขาลง ดักซื้อ SET50 น่าจะค่อนข้างปลอดภัยสุด

ส่วนหุ้นกลางเล็ก (หลายตัว) ราคาจะไม่ฟื้นในทันที

หากเข้าลงทุน เสี่ยงติดดอยสูง