ฉากดำมืดของ STARK

ก่อนอื่น “โมนิก้า” ต้องขออภัยเพื่อนสนิทมิตรสหาย และแฟนคลับที่ตั้งตารอชมการขุดเบื้องหลังที่ดำสนิทของ STARK เมื่อสัปดาห์ก่อน


ก่อนอื่น “โมนิก้า” ต้องขออภัยเพื่อนสนิทมิตรสหาย และแฟนคลับที่ตั้งตารอชมการขุดเบื้องหลังที่ดำสนิทของ STARK เมื่อสัปดาห์ก่อน เพราะมัวแต่สาละวนอยู่กับภาวะตลาดหุ้นที่อยู่ในอาการเมาหมัดตลอดทั้งสัปดาห์ เดี๊ยนเลยถือโอกาสนี้มาบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผู้คนในตลาดหุ้นสงสัยมานาน ขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นความจริงบางอย่างที่ปรากฏให้เห็นทีละเล็กทีละน้อย เลยขอจัดเต็มเรื่องนี้ไปเลยดีกว่านะคะ

สำหรับประเด็นที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์ถึงในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของการตั้งคำถามมากกว่าการถล่มซ้ำเติม และตัวละครที่เกี่ยวข้องต้องออกมาตอบคำถามของสังคมกันเอาเอง เพราะทุกเรื่องมันเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่อย่างโปร่งใสไหม? ซึ่งไล่เรียงตั้งแต่ “ผู้บริหาร ผู้จัดการกองทุน ทริสเรทติ้ง ผู้สอบบัญชี” ซึ่งหลายคนสงสัยถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้นก่อนฝีแตกมันชวนให้สับสนยิ่งนักเจ้าค่ะ

เนื่องจากมันเหมือนหลุมพรางที่พาคนไปตายเป็นจำนวนมาก และทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครอ้าปากพูดความจริงให้ได้รู้ จึงทำให้สารพัดข่าวลือประเดประดังออกมาจากพวกสอดรู้เป็นจำนวนมาก “โมนิก้า” จึงต้องเป็นคนไล่ไทม์ไลน์แบบละเอียดให้ทุกคนได้รู้ เพราะหลังจากได้ขีดเขียนเรื่อง “ย้อนรอย STARK กลวงใน” ไปเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 66 พร้อมกับเล่าฉากสำคัญของเหตุการณ์เป็นที่เรียบร้อย ก็ถึงคิวที่ต้องลงรายละเอียดเสียทีพะยะค่ะ

รายละเอียดแรกที่ต้องเม้าท์ถึงคงเป็นสถานะของตัวเดินเกมอย่าง “เฮียโอ๋” เป็นลำดับแรก เพราะผู้คนในสังคมลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า รู้ดีสุด! จึงเป็นคนที่รู้ถึงต้นสายปลายเหตุของการปิดงบไม่ได้  รวมทั้งข้อมูลที่เล็ดลอดออกมาในทำนองสายไฟทิพย์ มันใช่เรื่องจริงเหมือนที่ร่ำลือไหม? ครอบคลุมถึงเรื่องราวของ “หุ้นกู้มรณะ” จะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งไหม? หรือแม้กระทั่งข่าวเม้าท์หลอกเพิ่มทุนมันอย่างไรกันแน่?..ใครพอรู้บ้าง ช่วยตอบทีจ้า!

ประเด็นถัดมาที่มีการตั้งคำถามกันมากก็เป็นในรายของผู้จัดการกองทุน เพราะเป็นคนที่มีได้มีเสียกับหุ้นตัวนี้โดยตรง พร้อมกับมีการยิงคำถามตรงไปยัง “บลจ.บัวหลวง” มีซัมติงอะไรหรือเปล่า? เพราะหลายครั้งจะเข้าไปอยู่ในดีลประหลาด ๆ เป็นประจำ และยังมีคนฝากถามว่า ขายหุ้นเปิดตูดไปหมดหรือยัง? เพราะในช่วงที่หุ้นตกหนักตอนปลายปี 65 เขาลือกันว่า โกยแน่บก่อนใครเพื่อน!..งานนี้เห็นทีแบงก์แม่ต้องลงมาดูเองเสียแล้วกระมัง!..ได้เรื่องอย่างไร บอกด้วยนะคะ

ส่วนเรื่องที่สงสัยถัดมาคงเป็นท่าทีของ “ทริสเรทติ้ง” ที่มีต่อการออกหุ้นกู้ 9,200 ล้านบาทนั้น ใช้วิธีการประเมินจากอะไร ถึงทำให้เรตติ้งของหุ้นกู้ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ BBB+” เดี๊ยนถึงอยากให้หน่วยงานดังกล่าวออกมาวิเคราะห์เรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะอย่างน้อยก็เป็นการเสริมสร้างเกร็ดความรู้ให้กับคนที่คิดจะซื้อหุ้นกู้ในอนาคต ขณะเดียวกันก็เป็นการสะท้อนให้เห็นมาตรฐานทำงานไปในตัวด้วยนะจ๊ะ

เรื่องมาตรฐานการทำงานนี้แหละ! ที่ทำให้คนในแวดวงการเงินตั้งคำถามกับผู้สอบบัญชีชั้นนำของประเทศอย่าง “ดีลอยท์” ซึ่งทำอีท่าไหนกันก็ไม่รู้ จึงชิงประกาศถอนตัวไปซะอย่างนั้น! พร้อมกับมีเสียงร่ำลือในทำนองทิ้งขี้ให้กับผู้สอบบัญชีรายใหม่อย่าง “ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์” แบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องการคำอธิบายกันอย่างจริงจังเสียที เพราะเป็นคนแรก ๆ ที่เห็นความผิดปกติของธุรกิจ จึงควรออกมาบอกเล่าเรื่องราวให้คลายสงสัยนะพ่อทูนหัว

ที่สำคัญคือ เรื่องนี้ก็พุ่งตรงไปยัง “สภาวิชาชีพบัญชี” แบบเลี่ยงไม่ได้เสียด้วย และควรมีบทลงโทษอะไรออกมาบ้าง?.ไม่ใช่ลงโทษแต่คนเซ็นเพียงอย่างเดียว เพราะบริษัทก็ควรโดนลงโทษเหมือนกัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเสียงเรียกร้องมาจากผู้คนที่เกี่ยวข้องกับแวดวงการเงิน “โมนิก้า” ในฐานะตัวกลางเลยอยากสื่อสารให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน เพื่อในภายภาคหน้าจะได้ไม่โทษกันไปมาเหมือนที่เห็นในเวลานี้นะจ๊ะ

สรุปสุดท้ายวันนี้เลยมีเสียงร้องขอเข้ามามากมายให้ “ป๋าประจักษ์” กระโดดลงมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแบบเต็มตัว เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยบรรเทาสถานการณ์ให้ดีขึ้น เพราะมองในแง่ของ “ฝีมือ” และ “ฐานทุน” ก็มีความเพียบพร้อมมากกว่าคนอื่น ๆ แต่ถึงกระนั้นก็ต้องเผื่อใจไว้ว่า ทุกอย่างยังเป็นเพียงแค่คำพูดลอย ๆ ส่วนเรื่องจริงจะเป็นเช่นไร? คงต้องดูไปเรื่อย ๆ เพราะฉากดำมืดยังไม่จางหายไปเลย (ที่แน่ ๆ คือพี่โอ๋หายเงียบเข้าหลุมดำไปเลย) นะตัวเอง

Back to top button