กองทุนลุยหนัก

สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในห้วงเวลาที่ทุกอย่างชื่นมื่น มักมีอะไรที่ทำให้เซอร์ไพรส์เป็นประจำ และทำให้ทุกคนลืมภาพสะเทือนใจอันแสนเจ็บปวด


สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในห้วงเวลาที่ทุกอย่างชื่นมื่น มักมีอะไรที่ทำให้เซอร์ไพรส์เป็นประจำ และทำให้ทุกคนลืมภาพสะเทือนใจอันแสนเจ็บปวดเป็นปลิดทิ้งแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนพร้อมจะเสี่ยงตายรอบใหม่กันอีกครั้ง ผนวกกับตัวเลขสำคัญที่เป็นไกด์นำทางการลงทุนออกมาดี จึงเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ เป็นทวีคูณ และทำให้ตลาดหุ้นไทยปิดเขียวขจีนะจะบอกให้

ประเด็นข้างต้นทำให้เดี๊ยนต้องถามนักลงทุนว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1,562.25 จุด บวกไป 28.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.46 หมื่นล้านบาท ของจริงไหม? และการกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นแบบจัดเต็มของกองทุนจะดำเนินต่อไปนานแค่ไหน? เพราะสิ่งที่พวกกองทุนทำไว้ก่อนหน้านี้ มันคือการลากไปออกของครั้งแล้ว..ครั้งเล่า เดี๊ยนถึงไม่กล้าออกตัวแรงเหมือนเช่นที่ผ่านมา เพราะคาดหวังทีไร..อกหักดังเปาะ ทุกทีน่ะซี

ถึงกระนั้นเดี๊ยนก็มีความเชื่อลึก ๆ ในใจว่า เที่ยวนี้ดัชนีมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุดอีกรอบ เพราะสภาพเศรษฐกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศเริ่มดีขึ้น ผสานกับหุ้นหลายตัวมีราคาต่ำกว่าระดับเหมาะสมค่อนข้างเยอะ หรือแม้กระทั่งประเด็นหุ้นขึ้นก่อนเลือกตั้ง และมักจะแรลลี่เมื่อเห็นโฉมหน้ารัฐบาลใหม่แบบนี้ มันกลายเป็นสตอรี่ที่ทำให้ขาลุยเดินหน้าใส่ไม่ยั้งพะย่ะค่ะ

เช่นเดียวกับการทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้นปูนใหญ่ SCC ก็หนีไม่พ้นเรื่องการกลับมาปั๊มกำไรอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะเป็นมูลเหตุจูงใจที่ทำให้กองทุนกลับมาไล่ซื้อหุ้น 5 วันต่อเนื่อง เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นพุ่งแรงอีกวัน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 335 บาท บวกไป 10 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท เพราะภายใต้สมมติฐานดังกล่าวมันอาจทำให้เชื่อว่า หุ้นมีโอกาสกลับขึ้นไปยืนแถว 360 บาทอีกหนเจ้าค่ะ

คล้ายกับการวิ่งขึ้นของหุ้นลีสซิ่งตัวแม่อย่าง SAWAD ก็มีมุมที่ทำให้เชื่อว่า กองทุนจะไล่กันยาว ๆ หลังหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 58.50 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 863 ล้านบาท พร้อมด้วยเรื่องราวในทำนองผลงานไตรมาส 2 น่าจะออกมาดี ผนวกกับหุ้นยังเทรดบน PE 17 เท่า จึงพออนุมานได้คร่าว ๆ ว่า การขึ้นเที่ยวนี้น่าจะมีนัยสำคัญบางอย่างนะตัวเอง

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น TRUE เพื่อชี้ให้เห็นการขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 734 ล้านบาท ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจในมุมของการเล่นแบบ follow buy เพราะเป็นหุ้นที่พวกกองทุนมักเข้ามาเล่นเป็นประจำเมื่อตลาดหุ้นฟื้นตัวแรง รวมทั้งคาดหวังถึงผลงานที่จะดีขึ้นเป็นลำดับเป็นแรงเสริม จึงทำให้ราคาระดับนี้น่าสนใจมาก ๆ..ส่วนจะเป็นจริงขนาดไหน? ต้องประเมินกันเอาเองจ้า!

ส่วนรายที่น่าผิดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ คงต้องมองไปที่หุ้นของ BTG หลังราคาหุ้นไหลลงแบบไม่มีหูรูด และทำท่าจะทำ all time low ให้เห็นตลอดเวลาแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมเสี่ยงที่ไม่ควรเข้าไปยุ่งเป็นอันขาด แถมในช่วงที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นว่า ทุกครั้งที่เด้งสู้ทีไร มักโดนตบกลับทุกที ผนวกกับผู้เล่นหลัก ๆ ไม่มั่นใจในความสามารถของธุรกิจขายไก่ เดี๊ยนเลยกังวลใจเมื่อเห็นราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 22.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65 ล้านบาทนะจ๊ะ

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น SINGER เพื่อชี้ให้เห็นการเคลียร์หลังบ้านที่เกิดขึ้น อาจทำให้หลายคนรู้สึกกังวลใจก็จริง! แต่อย่างน้อยการจากไปของ “กิตติพงศ์” ก็เป็นการเปิดทางให้มีการตรวจสอบธุรกรรมที่ซับซ้อนต่าง ๆ ทำได้สะดวกขึ้นหรือเปล่า? เดี๊ยนถึงมองการร่วงลงของหุ้นมาปิดที่ 12.80 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 175 ล้านบาท เป็นเรื่องที่ถูกต้องทุกประการ เพราะคนวงในกำลังรอความชัดเจนบางอย่างจ้า!

ก่อนจากกันเดี๊ยนขอเม้าท์ถึงหุ้น DEXON เพื่อสะท้อนให้เห็นพัฒนาการสำคัญที่จะทำให้เติบโตยังเป็นไปตามแผน โดยเฉพาะการควักเงินเพื่อตั้งบริษัทเพื่อตรวจสอบท่อน้ำมัน และไฮโดรเจนที่ประเทศสหรัฐฯ ถือเป็นใบเบิกทางสำหรับการปั๊มกำไรในอนาคต และราคาหุ้นก็ตอบรับเรื่องนี้ด้วยการขึ้นมาปิดที่ 3.14 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 9.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาทนะนายจ๋า!

Back to top button