พาราสาวะถี
ความวัวปัญหาเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ทันหาย ความควายว่าด้วยการยิงเลเซอร์โฆษณาพรรครวมไทยสร้างชาติบนเสาของสะพานพระราม 8 ก็โผล่มาท้าทายการพิจารณของกรรมการการเลือกตั้ง
มีเรื่องให้กุมขมับได้ตลอดเวลาสำหรับผู้คุมการเลือกตั้งอย่าง กกต. ความวัวปัญหาเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ทันหาย ความควายว่าด้วยการยิงเลเซอร์โฆษณาพรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมหมายเลขสมัครปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคบนเสาของสะพานพระราม 8 ก็โผล่มาท้าทายการพิจารณาและวินิจฉัยของกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 6 คนจะชี้ชัดให้เป็นความผิดหรือไม่ ถ้าไม่ผิดจะอ้างเหตุผลใดก็ตาม มันย่อมจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ทำให้พรรคการเมืองอื่นทำตาม
เหมือนอย่างที่ สมชัย ศรีสุทธิยากร แจกแจงให้ฟังพร้อมขู่ไว้ล่วงหน้า กฎหมายเลือกตั้งกำหนดขนาดป้ายเฉพาะป้ายที่คงทนถาวร การยิงเลเซอร์จึงไม่น่าผิดระเบียบหาเสียงของ กกต. แต่การยิงเลเซอร์ในสถานที่ราชการ หน่วยราชการที่เป็นเจ้าของสถานที่ต้องอนุญาต มิเช่นนั้น ยิงกันเปรอะแน่ ดังนั้น กกต.จะต้องออกมาให้ความเห็นว่า การใช้เลเซอร์ยิงโฆษณาหาเสียงบนพื้นที่สาธารณะสามารถทำได้หรือไม่ได้ หาก บอกทำได้ พรุ่งนี้พรรคเสรีรวมไทยจะไปยิงเลเซอร์โฆษณาเบอร์ 25 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า
จึงมองไม่เห็นทางลงของ กกต.ว่าจะใช้ข้ออ้างใดมาทำให้การกระทำของพรรคต้นสังกัดผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่ให้เป็นต้นแบบของการเอาอย่าง ทำตามจากพรรคการเมืองอื่น แม้พรรคดังว่าจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษด้วยการโยนให้เป็นเรื่องส่วนตัวของ ทิพานัน ศิริชนะ ผู้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคดำเนินการเพียงคนเดียว พรรคไม่มีส่วนรู้เห็น เมื่อไปไล่ดูเอกสารที่ขอใช้สถานที่กับ กทม.ก็อาจเป็นเช่นนั้นจริงเพราะเจ้าตัวเป็นผู้ขอใช้จริง แต่เป็นการใช้เพื่อกิจกรรมของพรรค
สิ่งสำคัญคือ ที่ กทม.อนุญาตเป็นเรื่องการใช้สถานที่สวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่เกี่ยวกับการยิงเลเซอร์ขึ้นไปบนสะพานพระราม 8 ความจริงก็บอกมาตั้งแต่แรกต่อการทำงานของผู้สมัคร ส.ส.หญิงรายนี้ เป็นคนรุ่นใหม่แต่ใช้วิธีการให้ข่าวเหมือนนักการเมืองดึกดำบรรพ์ ด้อยค่าคู่แข่ง ยกหางผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ สุดท้ายก็มาตกม้าตายด้วยความเดียงสาทางการเมือง จากที่คิดว่าไม่มีอะไรแต่กลับเป็นเรื่องใหญ่ที่ กกต.ต้องมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ถ้าชี้ไม่ชัดฟันธงไม่ขาดโค้งสุดท้ายหาเสียงเราจะได้เห็นพรรคการเมืองยิงเลเซอร์หาเสียงตามสถานที่ราชการกันสนุกแน่
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้อาจกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วและ กกต.ก็จะหาข้อพลิกแพลงทางกฎหมาย เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองไหนทำตามได้ ที่ต้องจับตามองมากกว่ายังคงเป็นประเด็นปัญหาความผิดพลาดจากการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนมีการมองกันว่า ถ้ามีใครไปยื่นร้องให้ตรวจสอบและนำไปสู่การวินิจฉัยจะส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้หรือไม่ ตรงนี้ก็น่าขีดเส้นใต้ไม่ใช่น้อย ความบกพร่องไม่ใช่บอกว่าแก้ไขได้ เพราะมีการตรวจสอบก่อนส่งบัตรเลือกตั้งไปยังภูมิลำเนาของคนมาใช้สิทธิ์ถึง 3 ชั้น
แต่หากมีการพิสูจน์และพบว่า บัตรเลือกตั้งล่วงหน้าที่ประชาชนไปใช้สิทธิส่วนหนึ่งถูกส่งไม่ถูกต้องตามเขตเลือกตั้งของตัวเอง ตรงนี้เท่ากับคะแนนที่ลงไปกลายเป็นเสียงตกน้ำ พรรคการเมืองและนักการเมืองที่จะได้เสียงย่อมเสียสิทธิไปด้วย จึงน่าคิดอยู่ไม่น้อยหากมีปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นจริง มันย่อมส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และทำให้อดคิดต่อไปไม่ได้ว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นมันคือเจตนาที่จะให้เป็นปัญหาหรือไม่ เพราะเห็นอยู่แล้วว่า ใครจะได้ประโยชน์จากตรงนี้
คนที่ลิ่วล้อพยายามทำทุกทางเพื่อให้ได้ชัยชนะ รวมทั้งเล่นงานฝ่ายตรงข้ามให้มีอันเป็นไป จะได้อานิสงส์ไปเต็ม ๆ เพราะสามารถรักษาการกันต่อไปจนกว่าการเลือกตั้งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ถ้ารู้อยู่แล้วว่ายังไงก็แพ้ คะแนนเสียงไม่กระเตื้อง เล่นแร่แปรธาตุกันขนาดไหน จะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยกันอย่างไร ก็ไม่น่าจะไปรอด จำเป็นต้องใช้วิชาสามานย์แต่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้เล่น ใช้ความมีพระคุณให้พวกที่ต้องตอบแทนดำเนินการแทน มันก็เป็นวิธีการที่แนบเนียนและไม่เสียหายแต่อย่างใด
ทว่ามาถึงนาทีนี้คนที่มองภาพการเมืองออก ย่อมเห็นแล้วว่าหากผู้คุมกติกาเล่นไม่ซื่อ หรือเกิดกระบวนการใดก็ตามทำให้การเลือกตั้งมีปัญหา มีใครกล้าการันตีหรือไม่จะไม่เกิดการลุกฮือของประชาชน ย้ำอีกครั้งว่าเห็นปรากฏการณ์คนหลั่งไหลไปฟังการปราศรัยของพรรคก้าวไกลในหลายจังหวัด ทั้งที่ไร้หัวคะแนนและขบวนการจัดตั้ง ถือเป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่า ไม่เฉพาะคนรุ่นใหม่เท่านั้นที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง คนทั่วไปที่มีสิทธิ์เลือกตั้งก็เบื่อหน่ายสภาพบ้านเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้เต็มทน
ส่วนเพื่อไทยการตอกย้ำปมเดินทางกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร ล่าสุดว่าจะเกิดขึ้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้ ในทางการเมืองถือว่าไม่ได้รับผลกระทบในแง่ของคะแนนเสียง เพราะคนที่ต่อต้านยังไงก็ไม่เลือกพรรคแลนด์สไลด์อยู่แล้ว มิหนำซ้ำ ยังจะเป็นการปลดล็อกปมกล่าวหาที่คาดว่าจะถูกโจมตีในช่วงไม่กี่วันก่อนหย่อนบัตรว่าพรรคนายใหญ่เตรียมที่จะนิรโทษกรรมกันอีกกระทอก การลั่นวาจาเช่นนี้อีกครั้งของคนแดนไกลก็เพื่อย้ำให้ชัดว่า ยินดีกลับมารับโทษ พร้อมติดคุก ประเมินแล้วว่าน่าจะเป็นผลบวกมากกว่า
สถานการณ์ว่าด้วยความมั่นใจของพรรคการเมืองในเวลานี้ สี่พรรคที่ถูกคาดหมายว่าจะเข้าป้ายไล่เรียงกันไปนั้น ไม่ได้หนักใจอะไรในการหาเสียง ปล่อยให้ทุกอย่างลื่นไหลไปตามเกมที่ควรจะเล่น มีการพาดพิงถึงกันบ้างถือเป็นสีสัน เพราะความจริงปลายทางหลังเลือกตั้งหากไม่เกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็รู้กันอยู่แล้วว่าจะมีพรรคไหนที่จับมือกันตั้งรัฐบาลบ้าง มันจึงเหลือเพียงสองพรรคที่พรรคหนึ่งต้องดิ้นรนให้ได้ ส.ส.ตามเกณฑ์ของการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี กับพรรคที่ต้องรักษาเสียง ส.ส.เพื่อให้ได้ไม่น้อยกว่าเดิม
เป็นโจทย์หินของทั้งคู่เพราะพื้นที่เป้าหมายดันทับซ้อนและมีฐานเสียงเดียวกัน ช่วงชิงกันไปมาสุดท้ายจะโดนตาอยู่ฉกเก้าอี้ไปครองเสียฉิบ ด้วยแรงบีบทางการเมืองเช่นนี้พวกที่ถนัดใช้เกมใต้ดิน หรือจะเรียกว่ามีการวางแผนอยู่ยาวกันมาโดยตลอด จึงหวังว่าตัวช่วยที่เป็นกลไกซึ่งใช้ได้ผลมาแล้วเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 น่าจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็คงต้องช่วยกันภาวนาผลแห่งการกระทำจะไม่ทำให้บ้านเมืองบอบช้ำไปมากกว่านี้