แตกกระเจิง?โมนิก้าและทีมงาน
*ดูเหมือนผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นจะแตกกระเจิง กระซ่านสานเซ็นไปคนละทิศคนละทาง หลังจากเจอแรงเทขายถล่มออกมาไม่ขาดสาย จนดัชนีรูดทะลุแนวรับ 1,300 จุด ลงมาปิดที่ 1,297.82จุด ลบไป 9.16 จุด ด้วยมูลค่า 3.43 หมื่นล้านบาท ซึ่งตามตำรามีการวิเคราะห์เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไว้ว่า ลงหนักแบบไม่มีวอลุ่ม แสดงว่าไม่มีใครอยากจะถือหุ้นติดไว้ในพอร์ตนะจะบอกให้
*ดูเหมือนผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นจะแตกกระเจิง กระซ่านสานเซ็นไปคนละทิศคนละทาง หลังจากเจอแรงเทขายถล่มออกมาไม่ขาดสาย จนดัชนีรูดทะลุแนวรับ 1,300 จุด ลงมาปิดที่ 1,297.82จุด ลบไป 9.16 จุด ด้วยมูลค่า 3.43 หมื่นล้านบาท ซึ่งตามตำรามีการวิเคราะห์เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไว้ว่า ลงหนักแบบไม่มีวอลุ่ม แสดงว่าไม่มีใครอยากจะถือหุ้นติดไว้ในพอร์ตนะจะบอกให้
*วันนี้ถึงต้องถามกับทุกคนอย่างเป็นกลางว่า ในเมื่อกองทุนยังสาดหุ้นออกมาไม่เลิก และฝรั่งตาน้ำข้าวยังเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก มันทำให้ “โมนิก้า” มองภาพใหญ่ของการลงทุนเที่ยวนี้เป็นมุมลบ และอย่าหวังว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เพราะหุ้นพลังงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงหล่นอย่างต่อเนื่อง จากที่เคยยืนอยู่ในระดับ 108 เหรียญต่อบาร์เรล ล่าสุดเหลือแค่ 37 เหรียญต่อบาร์เรล..กำไรเลยหายไปบานเจ้าค่ะ
*นั่นหมายความว่า ตลาดหุ้นจะอ่อนตัวลงไปเรื่อยๆ บวกกับแนวรับที่กูรูหลายรายมองไว้อยู่ที่ 1,200 จุด มันคือข้อมูลที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดความรู้สึกห่อเหี่ยวอย่างรุนแรง และหนทางเดียวที่ทำได้ในเวลานี้คือ อยู่เฉยๆ เพื่อรอให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสียก่อน เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเก็บปากเก็บคำไม่ยอมให้ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางของตลาดหุ้นไทยนะซี
*ตรงนี้คือข้อเสียที่ทำให้นักลงทุนขาดข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการลงทุน เพราะคนที่มีข้อมูลด้านต่างๆ มากที่สุดคือ โปรโมเตอร์ ขณะที่ขุนคลังยุคนี้ก็ไม่ใช้ตลาดหุ้นเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ “โมนิก้า” ถึงเกิดอาการมืดแปดด้านครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมกับตั้งข้อสงสัยขึ้นมาในทันทีว่า การซื้อ LTF & RMFในภาวะเช่นนี้ คุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้รับไหม?..ใครรู้ช่วยตอบให้หน่อยนะจ๊ะ
*เหมือนกับในรายของ PTT PTTEPจนป่านนี้ยังมองไม่ออกเลยว่า ก้นเหวอยู่ตรงไหน? แถมโบรกเกอร์ต่างชาติมีแนวความคิดเกี่ยวกับหุ้นพลังงานเป็นลบ “โมนิก้า” ถึงมองเรื่องนี้ว่ายังมีราคาต่ำกว่าให้เห็นอีกแน่นอน งานนี้ให้นักลงทุนไปคิดกันเอาเอง? ส่วนประเด็นที่ไม่ต้องคิดเลยในเวลานี้คือ กองทุนยังสาดหุ้นออกไม่เลิก วันนี้ถึงเห็นหุ้นทำ new lowอย่างต่อเนื่องเจ้าค่ะ
*ส่วนที่มาตามนัดในเที่ยวนี้คือ SPRCหลังจากพรายกระซิบย้ำว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังกอดหุ้นไว้ในพอร์ต แรงเทขายก็แปรเปลี่ยนเป็นแรงซื้อจนหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 8.25บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 800 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนตัมที่ทำให้แฟนคลับได้ลุ้นอีกเที่ยวหนึ่งว่า จะขึ้นไปยืนเท่ากับราคา IPOที่ระดับ 9 บาท..จริงหรือไม่ วันนี้รู้ผลนะคะ
*สำหรับในรายของ TKN มาแบบเรื่อยๆ สไตล์หุ้นที่มีขาใหญ่สิงสถิตอย่างคับคั่ง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 6.70บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 9.80% ด้วยมูลค่า 1.50 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่นักเล่นเข้าใจเป็นอย่างดี และเป็นจังหวะในการโหนกระแสเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุนให้กับตัวเอง วันนี้ถึงต้องถามตัวเองว่า กล้าตามกระแสไหม?
*เช่นเดียวกับในรายของ J วันนี้กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และไม่ต้องถามถึงปัจจัยพื้นฐานให้เสียเวลา เพราะอารมณ์ของผู้เล่นในเที่ยวนี้เป็นแบบ สุดซอย! จึงเห็นหุ้นเดินหน้าขึ้นมาปิดที่ 2.82บาท บวกไป 0.18บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นพอตัวแบบนี้ มันเป็นจังหวะของนักเล่นที่ต้องพิจารณาให้ดีว่า ตัวนี้ใช่ทางเลือกในช่วงดัชนี side way downหรือเปล่า?..คุณเท่านั้นที่รู้..อิอิอิ
*เหมือนกับในรายของ JASหากดูผ่านๆ ไม่คิดอะไรมากมาย หุ้นตัวนี้ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สำคัญในเที่ยวนี้ และการกระชากขึ้นมาปิดที่ 4.76บาท บวกไป 0.22บาท หรือขึ้นไป 4.80% “โมนิก้า” มองเป็นอีกหนึ่งเกมหุ้นที่เหมาะสำหรับพวกใจกล้า เพราะไซเคิลของหุ้นกำลังก่อตัวเป็นลักษณะ w-shapeวันนี้ถึงต้องถามใจตัวเองว่า สิ่งที่เดี๊ยนแสดงความคิดเห็นไว้นั้น..โดนใจหรือเปล่า?
*ส่วนหุ้นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกงงเป็นไก่ตาแตกในเที่ยวนี้คือ BWGเพราะในช่วงต้นปีทะยานขึ้นไปถึง 2.50 บาท แต่ราคาล่าสุดที่เห็นในกระดานอยู่ที่ 1.29 บาท มันไม่หลงเหลือความยิ่งใหญ่ให้เห็นอีกต่อไป บวกกับหุ้นยังอยู่ในทิศทางขาลงอย่างเต็มตัว มันเป็นภาพที่คล้ายคลึงกับหุ้นร้อนอย่าง NUSAอะไรประมาณนี้กระมัง เดี๊ยนถึงอยากให้ทุกคนหันมามองความจริงที่เกิดขึ้นเวลานี้ว่า เจ้ามือโกยอ้าวไปตั้งนานแล้ววันนี้ถึงต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง..ระหว่าง “กอดหุ้น” กับ “ตัดขาย” หลังหุ้นหล่นลงมาอยู่ที่ 0.75 บาท ทั้งที่เดือนก่อนอยู่ที่ 1.30 บาทพะยะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ TAKUNIวอลุ่มหดหายไปดื้อๆ พร้อมกับเกิดกระแสเม้าท์มอยอย่างหนาหูว่า จบเกม!หลังขึ้นเครื่องหมาย XR-XWหุ้นถึงรูดลงมาปิดที่ 4.98บาท ลบไป 5.02บาท หรือลงไป 50% “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่ทุกคนรู้ดีว่าจะลงเอยแบบนี้ แต่สิ่งที่อยากจะเตือนให้ทุกคนรับรู้คือ เห็นตัวอย่างข้างต้นไหมล่ะ! แล้วตัวนี้จะไม่ลงเอ่ยแบบนั้นได้อย่างไร..จริงไหม?