PROUD-NOBLE ปิดจุดอ่อน-เปิดจุดโต.!

ถือเป็น 2 หุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกถามไถ่กันเยอะในช่วงที่ผ่านมา..!! รายแรกเป็นบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ซึ่งหลังจากเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่มาอยู่กับ “ธงชัย บุศราพันธ์” (ปัจจุบันปรากฏชื่อ RAFFLES NOMINEES (PTE) LIMITED เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยสัดส่วน 20.46% แต่ “ธงชัย” ยังนั่งเป็น CEO ร่วม) หุ้นก็เงียบหายไปหลบอยู่ในซอกตึกซะงั้น…

ส่วนอีกรายเป็นบริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD ของ “กลุ่มลิปตพัลลภ” ที่ปล่อยให้มิตรรักแฟนหุ้นชะเง้อคอยกำไรมา 2 ปีเต็ม สุดท้ายก็เทิร์นอะราวด์ได้สักทีเมื่อปีที่แล้ว…

แต่จู่ ๆ ทั้ง 2 บริษัทก็โคจรมาเจอกันผ่านธุรกรรม PROUD จะไปเซ้งต่อ 2 บริษัทจาก NOBLE ด้วยการซื้อหุ้น 50% ในบริษัท คูคต สเตชัน อัลไลแอนซ์ จำกัด (KK) ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการนิว ครอส คูคต สเตชั่น คอนโดมิเนียม Low-rise สูง 7-8 ชั้น จำนวน 6 อาคาร และบริษัท พระราม 9 อัลไลแอนซ์ จำกัด (R9) ผู้พัฒนาโครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม High-rise ขนาดใหญ่สูง 33 ชั้น และ 41 ชั้น จำนวน 2 อาคาร พร้อมภาระหนี้เงินกู้ยืม มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,578.07 ล้านบาท

ส่วนหุ้น KK และ R9 ที่เหลืออีกครึ่ง จะซื้อจากบริษัท ทีเอ็นแอล อัลไลแอนซ์ จำกัด (TNLA) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL

ที่น่าสนใจสำหรับ PROUD ถ้าสังเกตในช่วงที่ผ่านมาจะเน้นพัฒนาโครงการที่ไม่ใหญ่มาก (อาจมีบทเรียนจากโครงการ Park 24 มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท ที่ต้องตัดใจขายให้กับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ไปเมื่อหลายปีก่อนล่ะมั้ง) จึงปรับกลยุทธ์เน้นความคล่องตัว สร้างเร็ว ขายเร็ว และรับรู้เร็ว..!!

โอเค…แม้การซื้อ 2 บริษัทของ PROUD ครั้งนี้ ต้องแลกกับ 1) การเพิ่มทุนแบบ RO ราว 624 ล้านบาท 2) การกู้เงินแบงก์โดยบริษัทเอง 450 ล้านบาท 3) การกู้เงินแบงก์โดย KK และ R9 ราว 840 ล้านบาท และการเสนอขายหุ้นกู้บุริมสิทธิ์โดย R9 ราว 600 ล้านบาท

ทำให้นักลงทุนตื่นตระหนกพากันขายหุ้น PROUD จ้าละหวั่น ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ราคาทรุดไปกว่า 5%

แต่ถ้าดูจากโอกาสทางธุรกิจ โดยโครงการนิว ครอส คูคต สเตชั่น มูลค่าโครงการ 2,104 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 100% คาดจะเริ่มโอนกรรมสุทธิ์ได้ช่วงไตรมาส 1/2567 ขณะที่โครงการนิว ดิสทริค อาร์ 9 มูลค่าโครงการ 6,519 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 83% คาดจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 1/2568 คงช่วยทำให้ PROUD ที่เข้าสู่โหมดการเติบโตเร่งสปีดได้มากขึ้น..

ส่วนในมุมของ NOBLE การขาย 2 บริษัท อาจเป็นเพราะคาแรกเตอร์ของ NOBLE ไม่ถนัดพัฒนาโครงการแนวดิ่งอ๊ะป่าว..? ก็เลยขายออกมา แล้วหันไปโฟกัสโครงการที่เป็นแนวราบแทนล่ะมั้ง

เบื้องต้นก็จะได้เงินก้อนใหญ่มาเติมสภาพคล่องที่ค่อนข้างจำกัดจำเขี่ย…ดูได้จากสถานะทางการเงิน ณ สิ้นปี 2565 ที่มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 878.42 ล้านบาท แต่มีส่วนของหนี้สินระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี 4,770.58 ล้านบาท

ดีลนี้จึงเป็นการปิดจุดอ่อน..เสริมจุดโตของกันและกัน..!!

อ้อ…ไม่ต้องสงสัยนะว่า NOBLE กับ PROUD โคจรมาเจอกันได้ไง..?

เพราะถ้าย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน “ธงชัย” เคยไปนั่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารให้กับบริษัท พราวด์ เรสซิเดนซ์ จำกัด หรือ PROUD ในปัจจุบันมาก่อนนะ…

แหม๊…ที่แท้ดีลนี้เกิดจากสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง “ธงชัย” กับ “กลุ่มลิปตพัลลภ” น่ะเอง…

เข้าใจตรงกันแล้วนะ..!!

…อิ อิ อิ…