เล่นรอบ PTT
ปตท. หรือ PTT เป็นอีกหุ้นที่มีนักลงทุนถามกันเข้ามาค่อนข้างมาก แต่ส่วนตัวมองว่า สำหรับ ปตท.ในช่วงนี้เหมาะต่อการ “เล่นรอบ”
บมจ.ปตท. หรือ PTT เป็นอีกหุ้นที่มีนักลงทุนถามกันเข้ามาค่อนข้างมาก
แต่ส่วนตัวมองว่า สำหรับ ปตท.ในช่วงนี้เหมาะต่อการ “เล่นรอบ”
ราคาที่เหมาะต่อการเล่นรอบจะอยู่ระหว่าง 29.75–32.75 บาท
ส่วนระดับ 33.00 บาทน่าจะผ่านยาก
หากย้อนกลับไปดูกราฟ 3 เดือนย้อนหลังของ ปตท.
ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ
ราคาที่เหมาะสมต่อการรับมากสุดน่าจะอยู่ที่บริเวณ 29.75–30.00 บาท
ซื้อ ถือแล้วรอเด้งขึ้น
อย่างวันนี้ราคาหุ้นน่าจะดีดตัวขึ้นได้
เพราะล่าสุดทางการประเทศซาอุดีอาระเบีย ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากประมาณ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน พ.ค.นี้ จะลงเหลือ 9 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นทันที
น่าจะทำให้หุ้น PTTEP และ PTT ดีดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
แต่หากเป็นนักลงทุนระยะกลางถึงยาว
ระดับราคาหุ้น 30.00-32.00 บาท จัดเป็นระดับน่าสนใจที่จะซื้อเพื่อรับเงินปันผล
ปตท.จ่ายเงินปันผลปีละสองครั้ง
ให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลหรือ Dividend Yield ประมาณ 6.4% ต่อปี
ไตรมาสแรกมีกำไรแล้ว 2.8 หมื่นล้านบาท
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2566 นักวิเคราะห์คาดกันว่า กำไรอาจจะอ่อนตัวลงบ้างเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อน (จากฐานปีก่อนที่สูงกว่าปกติ) และไตรมาสก่อนหน้า
ทว่า แนวโน้มทั้งปี 2566 ปตท.น่าจะมีแรงหนุนจากธุรกิจก๊าซตามปริมาณขายเพิ่มขึ้นและต้นทุนก๊าซลดลงตามการผลิตจากอ่าวไทยที่เร่งตัวขึ้นและราคา LNG นำเข้าลดลง
ยิ่งไปกว่านั้น ราคาหุ้นของปตท. มีมูลค่าทางบัญชี 37.7 บาท
ราคาหุ้นล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 30.35 บาท
หรือราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี
โดย ปตท. เป็นหุ้นที่เทรดอยู่เกณฑ์ต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีมาประมาณ 2 ปีแล้ว
และมีค่าเฉลี่ย PBV ย้อนหลังสองปีอยู่ที่ 1.06 เท่า และสามปีอยู่ที่ 1.11 เท่า
ทำให้ราคาหุ้น ปตท. มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเอสแอล จำกัด ประเมินกำไรปีนี้ของ ปตท. จะอยู่ที่ประมาณ 1.07 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อนไม่มากนัก หรือประมาณ 12-13%
ทำให้คาดการจ่ายเงินปันผลของปี 2566 น่าจะอยู่ประมาณ 2 บาทต่อหุ้น
คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 6.50%
ส่วนประเด็นเชิงลบเกี่ยวกับระบบการจัดสรรก๊าซจากอ่าวไทย จากนโยบายของพรรคว่าที่รัฐบาล
มีการวิเคราะห์กันว่า “เป็นไปได้ยาก”
เพราะสัญญามีการตกลงกันมาไว้นานแล้ว
และในทางเทคนิคเอง การนำก๊าซไปเผาไหม้เพื่อผลิตไฟฟ้าจะไม่คุ้มในทางเทคนิค เพราะเป็นก๊าซที่เหมาะต่อการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมากกว่า
ขณะที่หากนำมาใช้ในการผลิตไฟฟ้า (เพิ่มขึ้น)
ก็จะช่วยลดค่าใช้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หากประเด็นลบดังกล่าวหมดไป น่าจะทำให้ราคาหุ้น ปตท. กลับมาเคลื่อนไหวในกรอบสูงขึ้น
หรือระหว่าง 33.00 บาท บวก/ลบ