ฟองสบู่ที่ตลาดหุ้นโตเกียว
ตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดบวก 289.35 จุด ทำจุดที่สูงสุดเป็นนิวไฮต่อไปทั้งที่เรื่องราวร้าย ๆ เพียงเพราะมีข่าวเกี่ยวเนื่องที่
ตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดบวก 289.35 จุด ทำจุดที่สูงสุดเป็นนิวไฮต่อไปทั้งที่เรื่องราวร้าย ๆ เพียงเพราะมีข่าวเกี่ยวเนื่องที่ คาดว่าธนาคารของญี่ปุ่นหรือ BoJ คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
ความหมายของคำว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในแบบบริบทของญี่ปุ่นนั้น มีลักษณะพิเศษ ซึ่งหมายถึงการแทรกแซงตลาดเงินด้วยมาตราพิมพ์ผ่านบัตรเพิ่มอีกเพื่อให้ค่าเงินเยนอ่อนลง เทียบกับสกุลเงินสำคัญของโลกเพื่อรับการส่งออกสินค้าของประเทศเอาไว้ให้ได้มา
นโยบายการเงินผ่อนคลายนี้ ทำให้หนี้สินสาธารณะของญี่ปุ่นเพิ่มสูงกว่า 130% ของ GDP เข้าไปแล้ว จึงเป็นหนี้ภายในประเทศ ทำให้ไม่ปลอดภัยกันต่อไปอีกยาวนาน
เจ้าหนี้หลักของรัฐบาลญี่ปุ่นกู้ คือ บริษัทประกันชีวิตและสถาบันการเงินทั้งหลายนั่นเอง
การที่ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นโตเกียวยังพุ่งขึ้นต่อเนื่องท้าทายทฤษฎีเรื่อง “เวลาของมินสกี้” หรือ
mjnsky moment จึงเกิดจากกดดันนักลงทุนสถาบันพากันเชื่อว่า ช่วงเวลาดังกล่าวจะยังไม่เกิดขึ้นอีกยาวนานนั่นเอง
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับดัชนีตลาดหุ้นโตเกียวยามนี้จึงมีลักษณะเฉพาะอย่างยิ่ง ห้ามนำไปอธิบายกรณีของตลาดหุ้นโตเกียว
ดัชนีกรณีที่นิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก 5 วันทำการติดต่อกัน แตะระดับสูงสุดในรอบ 33 ปี ถือเป็นกรณีพิเศษจริง ๆ เพราะท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษต่อไป หลังข้อมูลค่าจ้างออกมาซบเซา
ตลาดแรงงานของญี่ปุ่นนั้นมีการนำเข้าแรงงานต่างชาติต่ำมาก ในขณะโรงงานที่เข้าสู่ตลาดในประเทศมีคุณภาพต่ำลงเพราะปัญหาสังคมสูงวัยที่ยังน่ากังวลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
การที่ตลาดแรงงานไม่สมดุลเพราะส่วนเพิ่มของผลิตภาพของแรงงานเดิมต่ำลงกว่าอัตราการจ้างงาน เป็นปัญหาที่หมักหมมของสังคมที่จะกินเวลายาวนานในการแก้ไข หรือแก้ไขยากมาก เพราะอัตราการเกิดของประชากรต่ำลงมากเนื่องจากคนโสดแต่งงานน้อยลง
ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับใกล้เคียงกับ 33,000 จุด จึงเป็นกรณีที่เข้าข่ายฟองสบู่ของตลาดหุ้นครั้งใหม่ที่ไม่มีใครรู้ แน่ชัดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะถังแตกเมื่อใดกันแน่
การที่หนี้แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค. 2533 ซึ่งเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นเผชิญภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ โดยมีหุ้นที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดคือหุ้นบวกได้แก่ กลุ่มค้าส่ง, กลุ่มเหมืองแร่ รวมถึงกลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า
กรณีนี้เกิดขึ้นพร้อมกันกับที่กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า ค่าจ้างที่แท้จริง (real wages) ซึ่งปรับค่าเงินเฟ้อแล้วนั้น ลดลง 3% ในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 13 สะท้อนให้เห็นว่า การฟื้นตัวของค่าจ้างในญี่ปุ่นยังคงชะลอตัวลง ท่ามกลางเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน
ภาวะฟองสบู่แตกของญี่ปุ่นเมื่อครั้งสุดท้ายกินเวลายาวนานประมาณ 20 กว่าปี และอาเบะโนมิกส์ไม่สามารถช่วยได้ในพื้นฐาน แต่ก็นำมาสู่ภาวะฟองสบู่ระลอกใหม่ที่น่าสยดสยองยิ่ง แต่ในยามนี้ตลาดหุ้นโตเกียวกำลังมีราคาต่อภาวะฟองสบู่ของราคาหุ้นกลุ่มหนึ่งในตลาด ในลักษณะอนาคตไม่ทั่วฟ้า
ทำให้มุมมองทางลบเกิดขึ้นยามนี้มาก ว่าฟองสบู่ของตลาดหุ้นโตเกียวรอบนี้น่าจะนำไปสู่หายนะของตลาดหุ้นทั่วโลกได้
พิจารณาดูแล้วน่าสยดสยองยิ่งนัก เพราะห้ามไม่ทันเสียแล้วจนกว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะออกมาบอกตรง ๆ ว่าหมดตัวเพราะหนี้สาธารณะท่วมหัวจนแก้ไม่ตก