สิงคโปร์แอร์ไลน์..รักษ์โลกไม่รอด.!?

หลังจาก “สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์” ทดสอบการใช้กล่องกระดาษบรรจุอาหาร ที่จะเสิร์ฟให้ผู้โดยสารชั้นประหยัด จนกลายเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์


หลังจาก “สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์” ทดสอบการใช้กล่องกระดาษบรรจุอาหาร ที่จะเสิร์ฟให้ผู้โดยสารชั้นประหยัด (Economy) จนกลายเป็นประเด็นบนโลกออนไลน์ว่า สายการบินต้องการลดต้นทุน อีกทั้งบรรจุภัณฑ์กระดาษ ทำให้ภาพลักษณ์สายการบินดูแย่ลง 

นั่นจึงทำให้ Goh Choon Phong ซีอีโอสายการบิน Singapore Airlines (SIA) ออกมายอมรับว่าสายการบินควรทำได้ดีกว่านี้ รวมถึงตัดสินใจว่าจะเลิกใช้กล่องกระดาษสำหรับเที่ยวบินระยะกลางและระยะไกลแล้ว

“สายการบินควรจะใส่ใจกับมุมมองที่ผู้โดยสารมีต่อภาชนะกระดาษมากกว่านี้ไม่ใช่เฉพาะแค่รสชาติอาหาร”

โดยชาวเน็ตที่เดินทางด้วยสายการบินดังกล่าว ต่างแสดงความไม่พอใจและมีการกดรูป Thumbs Down (แสดงความไม่พอใจและตำหนิ) ให้กับสายการบิน รวมถึงเกิดคอมเมนต์จำนวนมากเกี่ยวกับการใช้กล่องกระดาษ เช่น กล่องกระดาษ เมื่อเจอกับความชื้นของอาหารทำให้ดูไม่น่ารับประทาน

การเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ ในการเสิร์ฟอาหารชั้น Economy สำหรับเที่ยวบินระยะต่าง ๆ (รวมถึงระยะกลางและระยะไกล) มีขึ้นเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา โดย Goh Choon Phong ซีอีโอของสายการบิน ระบุว่า สายการบินได้รับฟังความคิดเห็น และตัดสินใจยกเลิกการใช้บรรจุภัณฑ์ดังกล่าวแล้ว เนื่องจากมีประเด็นเรื่องมาตรฐานของอาหารและภาพลักษณ์ของอาหารที่ไม่เหมาะสม

อีกทั้งยังถูกนำไปเปรียบเทียบกับบรรจุภัณฑ์สายการบินโลว์คอสต์ ที่บรรจุอาหารในกล่องพลาสติกและผู้บริโภคมองว่าทำให้อาหารน่ารับประทานมากกว่าด้วย..

สิ่งที่ทำให้แรงตำหนิมากขึ้น อาจมาจากการที่สายการบินแถลงผลประกอบการปี 2022/2023 ช่วงเดือน พ.ค. ปรากฏว่า สามารถทำกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 1,630 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 55,000 ล้านบาท ทั้งที่ช่วง 3 ปีก่อนหน้า สิงคโปร์แอร์ไลน์ขาดทุนมาโดยตลอด

สิ่งเหล่านี้ทำให้ชาวเน็ตยิ่งไม่พอใจสายการบินมากยิ่งขึ้น..!!

อย่างไรก็ดีสิงคโปรแอร์ไลน์ พยายามชี้แจงและให้ข้อมูลว่า สาเหตุที่ทำกำไรได้สูงขนาดนี้ เป็นเพราะสายการบินรักษาพนักงานไว้ รวมถึงไม่ได้มีการขายเครื่องบินออกไป เมื่อความต้องการการเดินทางกลับมาดีขึ้น สายการบินจึงสามารถรับมือและทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมาก

โดยปี 2565 สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ และ Scoot ให้บริการผู้โดยสารจำนวน 26.5 ล้านคน เป็นจำนวนที่มากกว่าปี 2564 กว่า 6 เท่า

แต่ว่าคำชี้แจงดังกล่าว..ไม่ได้ทำให้ชาวเน็ตรู้สึกดีขึ้นกับสายการบินแต่อย่างใด..!!

บทเรียนจากการรักษ์โลกของ “สิงคโปร์แอร์ไลน์” น่าจะทำให้สายการบินอื่น ๆ ที่ต้องการลดใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและหันมาใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ เพื่อหวังร่วมแก้ปัญหา Climate Change อาจต้องทบทวนหรือคิดกันใหม่ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยเหมือนดังเช่นสิงคโปร์แอร์ไลน์ดังกล่าว…!!

Back to top button