เกิดอะไรกับ BLC และ TBN
วานนี้ BLC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก ราคาไอพีโออยู่ที่ 10.50 บาท ในช่วงของราคา ATO ตัวเลขกระพริบอยู่ระหว่าง 10.20–10.50 บาท
วานนี้ บมจ.บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก
ราคาไอพีโออยู่ที่ 10.50 บาท
ในช่วงของราคา ATO หรือเปิดตลาดภาคเช้า
ตัวเลขกระพริบอยู่ระหว่าง 10.20–10.50 บาท
และมาเปิดตลาดที่ระดับ 10.50 บาท เท่ากับราคาไอพีโอพอดี
ที่ระดับราคาดังกล่าวนี้มี “ออเดอร์” แบบสาดออกมาแบบไม้เดียว 12 ล้านหุ้น
หลังจากนั้น เกิดการแพนิก จึงมีการสาดหุ้นตามกันมาเรื่อย ๆ ก่อนที่จะหลุดระดับ 8.00 บาท หรือมาอยู่ที่ประมาณ 7.70-7.90 บาทต่อหุ้น
ที่บริเวณราคาดังกล่าว
หากดูฝั่ง Offer จะพบว่า มีการปูเสื่อนั่งรอรับ (จากรายใหญ่)
และพอแมทช์หรือได้หุ้นแล้ว เกิดการดันราคากลับมาที่บริเวณ 8.50-8.80 บาทอีกครั้ง
ส่วนกลุ่มรายใหญ่ที่สาดหุ้นออกตอน ATO กับที่มารอรับระดับ 7.70–7.90 บาท เป็นกลุ่มเดียวกันหรือเปล่า
ข้อมูลตรงนี้ไม่ทราบจริง ๆ
หลังจากนั้นในช่วงภาคบ่าย ราคาหุ้น BLC อยู่ในภาวะ “ทรง” กับ “ทรุด”
และมาปิดตลาด -3.30 บาท มาที่ 7.20 บาท เปลี่ยนแปลง -31.43%
BLC มีระดับ PE Ratio ประมาณ 47 เท่า
หากจะถามว่าสูงไปหรือเปล่า
คงยากที่จะตอบ…
ส่วนราคาปิดวานนี้ที่ 7.20 บาท ทำให้ระดับ PE ของ BLC ลงมาอยู่ระหว่าง 32-33 เท่า
หากเทียบกับหุ้นอื่น ๆ ที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน ถือว่า เป็น PE ที่น่าจะพอรับได้
แต่ผลประกอบการในอนาคต จะต้องออกมาเป็นไปตามคาดการณ์ของผู้บริหารและนักวิเคราะห์ด้วยนะ และปัจจัยที่เป็นความเสี่ยงต่าง ๆ ที่ระบุไว้ จะต้องไม่เกิดขึ้น
แนวโน้มวันนี้ มีความเป็นไปได้ที่อาจเป็นการปรับขึ้นทางเทคนิคได้บ้าง
Ceiling อยู่ที่ 9.35 บาท ดังนั้น ใครติดที่ราคาไอพีโอ ต้องหาจังหวะถัวดี ๆ หรือต้องยอมขายตัดขาดทุนไปก่อน
ส่วนราคา Floor อยู่ที่ 5.05 บาท
สมมุติว่าหากราคาลงมาที่ Floor จริง ๆ ทำให้ PE ลงมาเหลือ 23-24 เท่า
สำหรับ BLC ที่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
มาที่หุ้น บมจ. ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น (TBN) กันบ้าง
วันแรกเล่นชักเย่อกับนักลงทุนกันสนุกสนาน
วันแรก (19 มิ.ย.) เข้าเทรดราคาต่ำสุด 24.90 บาท และสูงสุด 45.25 บาท ก่อนจะมาปิดตลาด 42.50 บาท
เปิดมาเช้าวันที่ 20 มิ.ย. ราคาหุ้นถูกกระชากขึ้นไปที่ 45.25 บาทอีกครั้ง ก่อนจะตบลงอย่างรวดเร็ว
หากใครตามไปซื้อ แล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้
น่าจะมีการยอมตัดขาดทุนกันพอสมควร
ทว่า หลังจากนั้น มีการทำราคาขยับ หรือดีดกลับขึ้นไปอีก จนปิดตลาดภาคเช้า
และนี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะ เมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกโรงเตือนการเข้าลงทุนในหุ้น TBN ส่งผล เมื่อเปิดตลาดภาคบ่าย ราคาร่วงลงไปจน Floor ที่ราคา 29.50 บาท
ส่วนวานนี้ (21 มิ.ย.) หุ้น TBN ราคายังไม่ฟื้น และลงไปที่ระดับ Floor อีกครั้ง (20.70 บาท)
ก่อนที่จะมีมือมืดไป “งัด” ขึ้นมาเพื่อเล่นใหม่
และราคามาปิดที่ 20.80 บาท เปลี่ยนแปลง -29.49% หรือเกือบ Floor อีกครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงเย็น TBN แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า “สยาม สีวราภรณ์สกุล” และ “วิสุทธิ์ อุดมปิติทรัพย์” ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง กรรมการบริษัท และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท
ประเด็นที่น่าสนใจคือ มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย. 2566
หรือวันที่ TBN เริ่มเข้าซื้อขายวันแรก
ก่อนหน้านี้เคยเขียนบอกไปแล้วว่า หุ้นไอพีโอที่เริ่มซื้อขายวันแรกและช่วงแรก ๆ
จะดีหรือไม่ดีนั้น
ขึ้นอยู่กับ “เจ้ามือ” หรือผู้ดูแลสภาพคล่องเป็นหลัก
และเจ้ามือที่ว่านี้อาจจะเป็นกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่
หรืออาจเป็นกลุ่มที่เป็นกลุ่มของเจ้าของนั่นแหละ
ลำพังรายย่อยทำแบบนี้ไม่ได้แน่นอน