เหยื่อของสถานการณ์เพราะชื่อดันเหมือน
จะซื้อเพื่อถือ หวังเงินปันผลหรือส่วนต่างราคาก็ได้เพราะพ้นพงหนามแล้วที่ BTSGIF จะวิ่งสวนทางกับราคาของหุ้น BTS
BTSGIF เป็นหุ้นกองทุนโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ได้มีรายได้มาจาก BTS โดยตรง ดังนั้นเมื่อมีข่าวร้ายจากเงินลงทุนของ BTS ที่ผิดพลาดในกิจการที่มีความเสี่ยงจากการรับรู้ผลการขาดทุน กลุ่ม JMART-STARK จนกระทั่งรายหลังซึ่งพยายามทำตัวเป็นโฮลดิ้งเพื่อสนองตอบปรัชญาเกาะติด city solutions
ราคาหุ้น BTSGIF จึงต้องมีทิศทางแตกต่างจาก BTS เพราะฐานรากของกำไร-รายได้ที่ต่างกัน เรื่องนี้ต้องทำความเข้าใจกันให้ดี ก่อนที่ผล ทางจิตวิทยาจะพาเอาสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้
ผลข้างเคียงจากข่าว-อาณาจักร BTS หรือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าตลาดลดลงมากและคาดว่าข่าวร้ายจากเงินลงทุนในกิจการอื่นที่ผิดพลาดน่าจะยิ่งกดดันให้มาร์เกตแคปลดลงไปอีก
ล่าสุด (19 พ.ค.) ที่ผ่านมาหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือ Market Cap. ของ BTS หลุดแสนล้านบาทแล้วอยู่ที่ 96,123.76 ล้านบาท แล้วผลการดำเนินงานงวดล่าสุด ไตรมาส 4/66 และงบปี 66 (สิ้นสุด มี.ค. 66) ใกล้จะประกาศออกมาแล้วเนื่องจากและเป็นที่ทราบกันดีว่า BTS ได้เข้าลงทุนในหุ้นที่มีปัญหาด้านงบการเงินอย่าง STARK จำนวน 100 ล้านหุ้น ที่ต้นทุนราว 3 บาทแต่ราคาล่าสุดเหลือแค่ 1 สตางค์ซึ่งน่าจะไม่ได้กลับคืน
นอกจากนั้นยังต้องรับรู้ผลการขาดทุนใน JMART แบบไม่คาดคิดเพราะเป็นบริษัทธุรกิจที่มีอัตรากำไรสุทธิค่อนข้างสูงจากธุรกรรมทวงหนี้ และ ขายมือถือ พร้อมกับรับรู้กำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจขายตรงอย่างซิงเกอร์กำไรสวยงามผ่านทางการลงทุนทางอ้อม โดยผ่านทางบริษัทใต้ร่มเดียวกัน
อย่าง VGI และ RABBIT ที่เข้าถือหุ้นใน JMART 13.66% และ BTS ถือหุ้นใน VGI และ RABBIT ในสัดส่วน 52.6% และ 35.0% ตามลำดับ ก็จะได้รับส่วนขาดทุนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยพบว่า VGI ได้รับผลกระทบมากจากการถือหุ้นใน JMART หากสมมุติให้ VGI รับผลขาดทุนจาก JMART เข้ามาตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 13.66% จะเป็น -40 ล้านบาทและหากเทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนเป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้นถึง -85 ล้านบาทที่ -77 ล้านบาทและ -456 ล้านบาท จะคิดเป็นสัดส่วนถึง 52% และ 8.8% ตามลำดับ มีผลกระทบที่ค่อนข้างมาก จึงอาจยังต้องระมัดระวังในช่วงการประกาศงบการเงินปลาย พ.ค. 66 ที่จะกระทบต่อราคาหุ้น VGI ได้
กล่าวโดยรวมแล้ว การขาดทุนของ BTS ไม่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าของ BTSC แต่อย่างใดเพราะธุรกิจของขนส่งมวลชนของ BTSC กำลังขาขึ้นระลอกใหม่ เนื่องจาก รถไฟฟ้าสายสีเหลือง กำลังจะเริ่มทำรายได้ตั้งแต่เดือน มิถุนายนเป็นต้นไปนอกเหนือจากการที่จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น หลังจากยุคโควิด-19
รายได้เพิ่มขี้นของ BTSC จะส่งผลโดยตรงต่อราคาของ BTSGIF ที่ยังแกว่งอยู่ที่ฐานใต้ 4.00 บาทมายาวนานหลายเดือนแล้ว
จะซื้อเพื่อถือ หวังเงินปันผลหรือส่วนต่างราคาก็ได้เพราะพ้นพงหนามแล้วที่ BTSGIF จะวิ่งสวนทางกับราคาของหุ้น BTS