เพื่อนรักพาจน ชื่อ คุณตลาด
ชะตากรรมของนักลงทุนหัดใหม่ ที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ แถมขาดทุนมากกว่ากำไร จนสูญเสียความมั่นใจ หรือเสียศูนย์ เปรียบเสมือนคนที่ลอยคอในกระแสน้ำเชี่ยวกราก
ชะตากรรมของนักลงทุนหัดใหม่ ที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ แถมขาดทุนมากกว่ากำไร จนสูญเสียความมั่นใจ หรือเสียศูนย์ เปรียบเสมือนคนที่ลอยคอในกระแสน้ำเชี่ยวกราก ที่ไม่มีแม้กระทั่งขอนไม้ผุ ๆ ให้พึ่งพา ทำให้นิทานเปรียบเปรยระดับคลาสสิกเก่าแก่ของ เบนจามิน แกรห์ม ต้นธารของนักลงทุนเน้นคุณค่าหรือ VI ยังคงต้องถูกนำกลับมาเล่าซ้ำซาก
เหตุผลเพราะทุกคนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ซึ่งเป็นตลาดเก็งกำไร 1 ใน 4 ประเภทบนโลกนี้ ไม่สามารถหลบเลี่ยงกระทบไหล่กับเพื่อนที่ไม่ได้เชื้อเชิญที่มักจะพานักลงทุนยากจนลงตลอดเวลา
เมื่อใดที่นักลงทุนระดับแมงเม่า สามารถรับมือกับเพื่อนคนนี้ได้อย่างช่ำชอง เมื่อนั้น คืออิสรภาพทางการลงทุนที่แท้จริง
เป็นเรื่องเล่าที่ “ต้องอ่าน” ซ้ำแล้วซ้ำอีก อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
แกรห์ม ตั้งข้อสมมติว่า หากนักลงทุนมีเพื่อนรักร่วมชะตากรรมชื่อ คุณตลาด จะต้องเชิญสถานการณ์ดังต่อไปนี้
เพื่อนรักคนนี้ มีชื่อว่า คุณตลาด ซึ่งเข้ามาสร้างความสนิทสนมกับนักลงทุนในทุก ๆ เช้าอย่างคุ้นเคย แล้วก็บอกว่าราคาหุ้นที่ซื้อขายกันในตลาดเมื่อวานนี้ในตัวที่เขาสนใจเป็นอย่างไร ราคาเปิด ราคาปิด และความเคลื่อนไหวระหว่างวัน
จากนั้นเขาก็จะสาธยายออกมาว่า เส้นสัญญาณทางเทคนิคบอกเอาไว้ว่าอย่างไร และเบื้องหลังเหตุในการเปลี่ยนแปลงราคาเกิดจากปัจจัยอะไรบ้าง
แล้วคุณตลาดจะบอกอีกว่า เขามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้สามารถหากำไรจากราคาหุ้นที่เขาซื้อขายได้ จากนั้นเขาก็จะแนะนำหุ้นเด็ดสำหรับเปิดตลาดเช้าวันนี้ให้ โดยบอกว่ามีทีเด็ดอะไรบ้าง
ข้อมูลของคุณตลาดนั้น เขาบอกเอาไว้เลยว่า ไม่ต้องใส่ใจเลยว่ามันจะสัมพันธ์กับคุณค่าหรือตัวเลขทางบัญชีหรือผลประกอบการใด ๆ ของบริษัทที่เป็นเจ้าของหุ้นในตลาด เพราะราคามีความเคลื่อนไหวอย่างเป็นอิสระในระยะสั้น ๆ ตามกลไกของตลาดคือแรงขายกับแรงซื้อ
เขาย้ำว่า อารมณ์อยากซื้อหรือขาย มันเป็นอารมณ์ที่แก้ไขได้ยาก นักลงทุนที่ไหนก็มีกันในตัว แต่หากสังเกต จะพบได้ไม่ยากในหลาย ๆ ครั้งว่า คำชี้แนะ ความรู้สึก และอารมณ์ของคุณตลาดนั้น เกิดจากจินตนาการของเขาเองมากกว่าจากข้อเท็จจริง
ตัวอย่างเช่น เวลาที่เขารู้สึกอิ่มเอิบ เขาจะมองเห็นข้อดีเต็มไปหมด เวลาที่เขาตื่นเต้นคึกคัก เขาจะรีบร้อนซื้อขายมือเป็นระวิง ราวกับว่าจะถูกคนอื่นแย่งซื้อขายหรือชักผลประโยชน์จากเขามากเกินไป แต่ยามใดที่เขารู้สึกเศร้าหมอง เขาจะมองเห็นแต่เรื่องเศร้าสลดรอบด้าน แล้วก็จะสั่งขายอย่างเดียว
แม้นิสัยอย่างที่กล่าวมาข้างต้นจะน่าเบื่ออยู่บ้าง แต่คุณตลาดก็มีข้อดีคือ เขาไม่ใส่ใจกับอารมณ์แปรปรวนของคนอื่น ๆ
ช่วงเวลาที่มีคนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของเขา หรือ ไม่มีใครใส่ใจกับคำแนะนำให้ซื้อให้ขายของเขา เขาก็จะหายหน้าไปพักหนึ่ง แต่วันรุ่งขึ้น เขาก็จะกลับมาทักทายคน ๆ นั้นอีก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เป้าหมายของคุณตลาดก็คือ ให้เพื่อน ๆ ของเขาซื้อและขายบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเขาถือว่า ยิ่งซื้อขายมากเท่าใด จะเป็นผลดีกับทุกฝ่าย
แต่ก็นั่นแหละ เขาไม่เคยบอกกับใคร ๆ เลยว่า ซินเดอเรลล่าในงานเลี้ยงที่พระราชวังของเจ้าชายรูปงามนั้น หลังเที่ยงคืนไปแล้วจะกลายเป็นสาวใช้ และรถเทียมม้าโก้หรูที่โดยสารมา จะกลายเป็นแค่ฟักทองในสวน กับ หนูโสโครกในท่อระบายน้ำ
เขาบอกว่า หน้าที่ของเขาคือ ให้บริการข้อมูลกับเพื่อน ๆ ไม่มีหน้าที่ในการชี้นำเพื่อน ๆ ให้ไปตามที่เขาต้องการ เพราะเขาเป็นคนใจกว้าง จิตสงบนิ่ง และเป็นประชาธิปไตยเสมอ
เขาบอกเสมอว่า กระเป๋าเงินสำคัญกว่าก้อนไขมันที่อยู่ในสมองเสมอเพราะมันทำประโยชน์ให้ได้มากกว่า เนื่องจากจับต้องได้ ไม่ใช่สิ่งเลื่อนลอย
ที่สำคัญ เพื่อน ๆ อยากจะต่อว่าหรือด่าทอ หรือขัดคอเขาใด ๆ ก็ย่อมได้ทั้งนั้น เพราะเขาเป็นคนด้านชาที่ไม่เคยถือโกรธใครเลย
สิ่งที่คุณตลาดมักเตือนเพื่อน ๆ ก็มีอยู่เพียงแค่ว่า อย่ายอมตกอยู่ใต้อิทธิพลของเขา หรืออ้างว่าซื้อขายเพราะเขาชี้นำก็แล้วกัน เพราะเขาไม่มีหน้าที่แบกภาระความรับผิดชอบใด ๆ คำแนะนำที่เขาสรรหามาป้อน ก็เป็นแค่การให้ข้อมูลที่เป็นกลางด้วยสุจริตใจเท่านั้นเอง เพื่อให้เพื่อน ๆ รู้ว่ากติกาของเกมที่กำลังกระทำกันอยู่นั้น มันมีอะไรบ้าง
คุณตลาดจะพร่ำย้ำเสมอด้วยถ้อยคำของนักการพนันโป๊กเกอร์ว่า “หากคุณนั่งลงที่โต๊ะนานเกินครึ่งชั่วโมง แล้วยังไม่รู้ว่าคนในวงมีใครเป็นหมูตู้บ้าง ขอให้จำไว้เสมอว่า คุณนั่นแหละคือหมูตู้เสียเอง”
………….
สำหรับคนที่อ่านนิทานเรื่องเพื่อนไม่ได้เชื้อเชิญ นี้แล้ว หวังว่าจะได้ประโยชน์ตามสมควร