ASIAN เติมความหลาก.!
ดูเหมือนหลังมรสุมโควิด การฟื้นตัวของ ASIAN หรือหุ้นอาหารทะเลแช่แข็งจะหายไป เนื่องด้วยเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อเหือดแห้ง
ดูเหมือนหลังมรสุมโควิด การฟื้นตัวของบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN หรือหุ้นอาหารทะเลแช่แข็งจะหายไป เนื่องด้วยเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อเหือดแห้ง ส่งผลกระทบต่อ ASIAN รายได้หายกำไรหดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..!!
สะท้อนได้จากงบไตรมาส 1/2566 ที่มีรายได้ 2,272 ล้านบาท ลดลง 19.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,837 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 51 ล้านบาท ลดลง 79.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 248 ล้านบาท
ในขณะที่บริษัทลูก บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ทำธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเพิ่งหย่านมเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปลายปีที่แล้ว เพื่อหวังจะออกไปหากินด้วยลำแข้งของตัวเอง ก็ยังไม่สำแดงศักยภาพในการทำกำไรได้เต็มที่…
นี่อาจจะเป็นเหตุให้ ASIAN ต้องหันมาเติมความหลากหลาย…กระจายความเสี่ยงของธุรกิจ หนึ่งในนั้นคือ การแตกไลน์ไปสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์..!!
ผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ที่ชื่อ บริษัท เอเชี่ยน เวลเนส เรสซิเดนส์ จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจการลงทุนโดยการถือหุ้นในโครงการที่เกี่ยวกับธุรกิจโรงแรม เซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม และวิลล่า…
จุดที่น่าสนใจ ถ้าสังเกตจะเห็นว่าการเดิมเกมสู่ธุรกิจอสังหาฯ ของ ASIAN ไม่ใช่เน้นการสร้างบ้าน สร้างคอนโดมิเนียม สร้างโรงแรม หรือเซอร์วิสอะพาร์ตเมนต์ขายเองหรอกนะ…แต่จะใช้วิธีไปจับมือกับคนอื่น ถือหุ้นในโครงการต่าง ๆ แทน…
สาเหตุที่ ASIAN เลือกเดินเกมอย่างนี้ ถ้าให้เดาอาจเป็นเพราะไม่มีความเชี่ยวชาญ หรือโนว์ฮาวทางด้านอสังหาฯ เนื่องจากตลอด 40 กว่าปีที่ผ่านมา ASIAN เติบโตมากับการขายกุ้ง ขายปลา (ธุรกิจส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง) และขายอาหารหมา อาหารแมว (ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง) ก็เลยปิดความเสี่ยงด้วยการไปถือหุ้นในโครงการต่าง ๆ แทน
ที่สำคัญ ถ้าดูแนวโน้มธุรกิจอสังหาฯ โอเค…แม้ตลาดจะฟื้นตัวต่อเนื่องหลังโควิดคลี่คลาย แต่ก็ไปไม่สุด เพราะยังมีปัจจัยถ่วงรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ดอกเบี้ยขาขึ้นที่เป็นอุปสรรคในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย รวมถึงมาตรการ LTV ที่เข้มงวดขึ้น และมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน ที่ปรับจาก 0.01% เป็น 1% ในปีนี้ ทำให้ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจากเดิมล้านละ 100 บาท เพิ่มเป็นล้านละ 10,000 บาท เป็นต้น
ต้องบอกว่า ขนาดค่ายอสังหาฯ ที่ทำอยู่แล้ว ก็หืดขึ้นคอเหมือนกัน…
ครั้น ASIAN ซึ่งเป็นน้องใหม่ในตลาดนี้ จะกระโดดมาเล่นเต็มตัว ก็ดูจะเสี่ยงเกินไป ก็เลยอาศัยตัวช่วยมาปิดความเสี่ยง
แต่หากในอนาคตสถานการณ์ต่าง ๆ ดีขึ้น ตลาดอสังหาฯ กลับมาเติบโตร้อนแรงอีกครั้ง ไม่แน่ ASIAN อาจเปลี่ยนใจลุกขึ้นมาสร้างบ้าน สร้างคอนโดฯ หรือโรงแรมขายเองก็ได้…ใครจะไปรู้
อ้อ…ต้องหมายเหตุไว้ว่า ต้องมีความแตกต่างนะ ถึงจะสู้ในสมรภูมินี้ได้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้น ธุรกิจอสังหาฯ อาจเป็นแฟล็กชิปใหม่ของ ASIAN ก็ได้…แต่ถ้าไม่ดี ก็อาจกลายเป็นตัวถ่วงได้เหมือนกัน
แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ดีกว่า ASIAN ไม่ทำอะไรเลยนะ…ว่าป๊ะล่ะ
…อิ อิ อิ…