เขย่าที..เสียววาบ

แทนที่เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ดัชนีจะทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เพื่อเป็นการสอดรับกับแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่เอาเข้าจริงดันกลายเป็นว่า เกิดอาการเครื่องสะดุดขึ้นมาดื้อ ๆ แรงซื้อแปรเปลี่ยนเป็นแรงขาย ดัชนีทำท่าจะยืนเหนือแนวต้าน 1,500 จุดไม่ไหว ซึ่งเป็นอาการที่มาพร้อมกับการเมืองที่แปรปรวนตลอดเวลานั้น มันเป็นเรื่องราวที่น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน แต่ก็ต้องทนอยู่กับประเด็นเหล่านี้ให้ได้นะคะ

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องนั่งทนดูตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวฉวัดเฉวียนทั้งวัน จนสุดท้ายดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,506.84 จุด บวกไป 3.74 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.27 หมื่นล้านบาท พร้อมกับทิ้งรอยบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้เป็นที่ระลึกแบบนี้ มันอาจเป็นภาพปกติที่พบเห็นได้เป็นประจำก็จริง แต่ก็ทำให้นักเล่นบางส่วนเกิดอาการนอยด์ได้เช่นกัน หลังดัชนีทิ้งตัวลงไปเรื่อย ๆ ก่อนจะตีกลับขึ้นมาช้า ๆ ไงล่ะคะ

งานนี้เลยสอนให้เดี๊ยนพึงสำเหนียกไว้ว่า อย่าชะล่าใจเป็นอันขาด เพราะสิ่งที่เห็นเมื่อวันก่อน  ไม่สามารถนำมาใช้ในวันนี้ และการที่ดัชนีหลุดลงไปอีกรอบ ก็เป็นการสอนให้ขาลุยต้องเล่นเร็ว และเมื่อดูจากมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ก็ทำให้เดี๊ยนชีช้ำกระแฉะมากกว่าเดิม เพราะอะไรต่อมิอะไร ดันไม่ดีเหมือนคิดไว้ จึงเดาเกมต่อจากนี้ไม่ออกจริง ๆ และไม่รู้ว่า ตลาดหุ้นกำลังคิดอะไรอยู่จ้า!

เหมือนกับแรงขายที่สาดใส่ ITC แบบไม่บันยะบันยัง จนราคาหุ้นร่วงเป็นนกปีกหัก ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 18.20 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 118 ล้านบาท พร้อมกับทำจุดต่ำสุดใหม่นับตั้งแต่เข้าเทรดในตลาดหุ้น มันเป็นภาพที่ทำลายขวัญนักเล่นอย่างรุนแรง และทำให้หลายคนตั้งคำถามในใจว่า all time low จะเกิดขึ้นเรื่อย ๆ นี้ใช่ไหม? จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องตัดใจอย่างเร่งด่วนแบบนี้เจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ TLI ก็ทำท่าจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่สุดท้ายก็โดนรินออกมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 12 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 295 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความกังวลที่มีต่อผลงานในอนาคต จึงทำให้นักเล่นเข้ามาเล่นเก็งกำไรเป็นรอบ ๆ จึงต้องมาลุ้นกันว่า เที่ยวนี้จะเด้งกลับตรงโลว์เดิมที่บริเวณ 11.30 บาทอ๊ะป่าว?

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น RS ก็เกิดอาการทรุดฮวบแบบไม่บอกกล่าว จนลงมาปิดที่ระดับ 14 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 256 ล้านบาท ทั้งที่มีข่าวดีเรื่องรับทรัพย์เข้ากระเป๋ามากถึง 1.60 พันล้าน มันทำให้กองเชียร์โซแซดกันเป็นแถว เพราะในมุมของสตอรี่เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ และในไตรมาส 3 ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญเกิดขึ้น แต่ดันมาเป็นแบบนี้เสียก่อน..หนูไปไม่ถูกเหมือนกันค่ะ

อีกรายที่ไหลลงเรื่อย ๆ จนมองไม่เห็นจุดเด้งอยู่ตรงไหน “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น SABINA เพื่อชี้ให้เห็นแรงขายที่ยังไม่ซาลง และภาพของความกังวลยังมีให้เห็นประปราย ทุกอย่างจึงต้องลงเอยด้วยยุทธวิธีขายหุ้นไว้ก่อน ส่งผลให้ราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 25.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 4.70% บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85 ล้านบาท มันเป็นเค้าลางที่ส่อไปในทางลงต่อนะตัวเอง

ส่วนรายที่ทำให้พอมีหวังขึ้นมาอีกครั้ง และมีจังหวะเริ่มฟื้นตัวให้เห็น แต่ทันทีที่บรรยากาศลงทุนไม่เป็นใจ ก็เริ่มมีอาการอ่อนแรงให้เห็นเล็กน้อย “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น GUNKUL แบบไม่ลังเลใจ หลังหุ้นถีบตัวขึ้นแรงมาสองวัน แต่วานนี้ย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 3.16 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70 ล้านบาท มันเหมือนการรอโอกาสขึ้นก็ได้ หรือจะมองเป็นหมดรอบก็ได้..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

ปิดท้ายวันนี้ขอมองไปที่เรื่องร้อนของหุ้น STARK อีกครั้ง เพราะเดี๊ยนได้ข่าวทางลับในทำนองที่ว่า บรรดาไอ้โม่งกำลังออกอาการดิ้นหนัก หลังอดีตซีเอฟโอออกมาแฉเส้นทางการตกแต่งบัญชีว่า เงินแต่ละก้อนไหลผ่านมาอย่างไร? และมีตัวละครไหนเป็นคนบงการ “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่วานนี้มีสายโทรศัพท์พรั่งพรูมาให้ข้อมูลเยอะแยะไปหมด และในไม่ช้าจะต่อจิ๊กซอว์ได้ครบว่า “โง่จริง” หรือ “แกล้งโง่”..อิอิอิ