CK แบ็กล็อกในมือแน่น!

ผลพวงจากวิกฤตโควิด ทำให้เมกะโปรเจกต์ของภาครัฐหายไป ส่งผลกระทบต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึง CK


คุณค่าบริษัท

ผลพวงจากวิกฤตโควิด ทำให้เมกะโปรเจกต์ของภาครัฐหายไป ส่งผลกระทบต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้างอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 บิ๊กรับเหมาฯ ของไทย แต่เนื่องจากจุดแข็งของ CK ส่วนใหญ่จะรับงานต่อจากบริษัทลูก ประกอบกับมีบริษัทลูกช่วยหนุนผลประกอบการ ทั้งบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM, บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW และบริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ทำให้ยังสามารถประคองตัวได้

ขณะที่ แนวโน้มผลประกอบการปี 2566 น่าจะเติบโตได้ดี หลังงวดไตรมาส 1/2566 ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 234.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104.94% และมีรายได้จากสัญญาก่อสร้าง 9,425.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.89% โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 CK มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 149,000 ล้านบาท Backlog ที่เร่งขึ้นมาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง และคาดภายในไตรมาส 3 Backlog จะกลับมาที่ 250,000 ล้านบาท ถือเป็นการทำสถิติใหม่ (New High) ในรอบ 50 ปี

นอกจากนี้ คาดในปี 2567 CK มีโอกาสได้รับงานใหญ่อีก 2 โครงการ ได้แก่ งาน Double Deck และงาน M&E รถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย รวมมูลค่า 2 โครงการอยู่ที่ 62,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยหนุนให้ Backlog ของ CK แตะระดับ 300,000 ล้านบาท

สอดคล้องกับมุมมองของนักวิเคราะห์ โดยบล.ดาโอ ระบุว่า มีมุมมองเป็นกลางต่อ CK จากแนวโน้มรายได้ก่อสร้างปี 2566 จะขยายตัวโดดเด่น 67% จากปีก่อน หนุนโดย Backlog ล่าสุดทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.5 แสนล้านบาท จากการรวมโครงการหลวงพระบาง ซึ่งมีการเร่งงานอย่างมากในครึ่งปีแรก ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานอาจถูกกดดันบางส่วนจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของโครงการที่สูงขึ้นในไตรมาส 2-4/2566 เนื่องจากบริษัทต้องมีการสำรองเงินล่วงหน้าไปก่อนในช่วงต้น รวมถึงส่วนแบ่งกำไร CKP ปี 2566 ถูกกดดันจากสภาวะ El Nino

ทั้งนี้ ปรับกำไรปกติปี 2566 ลง 12% เป็น 1.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 55% จากปีก่อน เพื่อสะท้อนส่วนแบ่งกำไร CKP โตช้ากว่าคาด และต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น แต่ถูก offset บางส่วน โดยสมมติฐานรายได้ก่อสร้างเพิ่มขึ้นจากงานหลวงพระบางที่เร่งตัวได้ดีกว่าคาด สำหรับกำไรปกติในไตรมาส 2/2566 ประเมินจะดีขึ้นจากไตรมาสก่อน ตามธุรกิจก่อสร้าง แต่คาดการณ์ชะลอจากปีก่อน โดยหลักจาก CKP พลิกขาดทุน

ด้านบล.เมย์แบงก์ ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2566/2567 คาดจะเติบโตสูง 88%/22% ตามลำดับ แรงหนุนจากการเติบโตของบริษัทลูก และงานใหม่ที่เพิ่งลงนามคือ งานก่อสร้างโยธาโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำหลวงพระบาง 99,788 ล้านบาท ทำให้ Backlog เพิ่มเป็น 149,353 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ แนวโน้มคาดจะได้งานเพิ่มจากโครงการของบริษัทลูก ทำให้ Backlog เข้าสู่ New S-Curve

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น CK ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 28.22 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.04 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด อย่างไรก็ตามถ้าไปดู P/BV ที่ระดับ 1.40 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.47 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 25.83 บาท จากราคาต่ำสุด 24.00 บาท และราคาสูงสุด 28.00 บาท

Back to top button