8.7 เดือนของยอดนำเข้า

อำลาไม่อาลัยของ พลเอกประยุทธ์ การประกาศวางมือทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์ อดีตเผด็จการคนล่าสุดไม่ใช่เรื่องแปลกแต่จะแปลกถ้าหากว่าจากนี้ไป พลเอกประยุทธ์ เป็นองคมนตรี

การลาจากองค์การเมืองไทยที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่รู้กันก็คือพรรคการเมืองที่เขาสังกัดเป็นผู้ทำล่าสุดคือพรรครวมไทยสร้างชาติ สุเทพ เทือกสุบรรณ  ได้รับเลือกตั้งมาน้อยนิดเกินคาดเพียง 30 กว่าเสียง และโอกาสที่จะเข้าลงรัฐบาลนั้นเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยเผด็จการมีอยู่ในอำนาจเป็นเวลา 7 กว่าปีเศษ ย่อมทนไม่ได้ที่จะกลายเป็นสุนัขรองบ่อน เพราะอหังการของเผด็จการนั้นย่อมทนไม่ได้ที่จะตกเป็นฝ่ายค้านสู้ออกไปเป็นองคมนตรีไม่ดีกว่ามีทั้งเกียรติยศและภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะที่ปรึกษาของพระมหากษัตริย์

พลเอกประยุทธ์เอาเผด็จการทหารเก่ามาใช้แทนรัฐบาลที่เข้ามาด้วยการเลือกตั้งของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทยที่ไม่ได้รับการพิสูจน์จากกระบวนการยุติธรรมหลังจากรับอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญใหม่ที่พิลึก

เพื่อให้ตนเองกลับมามีอำนาจกระบวนการเลือกตั้งที่ถูกต้อง และให้อำนาจส.ว.มีการโหวตเท่ากับอำนาจส.ส.

เชื่อว่าตัวเองจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาใหม่ก็ไม่อาจเป็นจริงซึ่งยอมรับไม่ได้ทำให้เป็นที่มาลาออกจากการเมืองทั้งความรู้สึกเสียหน้าที่ถูกประชาชนซึ่งมีสิทธิเลือกตั้งปฏิเสธการจากไปของพลเอกประยุทธ์ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่ใช่เรื่องน่าสรรเสริญคนที่ทำสร้างประชาธิปไตยและเสรีภาพของประชาชนมาโดยตลอดย่อมไม่อาจทนได้ในการสูญเสียอำนาจ

สิ่งที่พลเอกประยุทธ์ได้สั่งสมไว้การถูกยึดอำนาจโดยประชามติ

ประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทยคงต้องบันทึกชื่อของพลเอกประยุทธ์เมื่อหนังสุนัขเหมาะสมกับพฤติกรรมของเขามา 8 ปี