รอดได้ก็ปาฏิหาริย์
อาการของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้แข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นอย่างไรหรือ? พอจะตอบได้ว่า เป็น “สาวน้อยตกน้ำ”
อาการของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้แข่งขันชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นอย่างไรหรือ? พอจะตอบได้ว่า เป็น “สาวน้อยตกน้ำ” เดี๋ยวตก ๆ จนเนื้อตัวเปียกโชก หน้าซีดตัวสั่น
เป็นแผ่นเป้า “ปาลูกดอก” เดี๋ยวปา ๆ จนแผ่นเป้าเป็นรูพรุน และ/หรือ เป็นเป้าที่ใช้คนยืนทดลองยิง โดยใช้กระสุนจริง ยิงถูกเป้าก็รอดตาย แต่ใจหาย
แต่หากยิงพลาดเป้า ก็ตายจริง เพื่อเซ่นสังเวยการเมืองหฤโหดครั้งนี้
ภาวะช่างต่างไปจากสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ภายหลังการเลือกตั้งใหญ่ปี 2562 แม้ว่าจะรวบรวมเสียงส.ส.สนับสนุนได้เกินกึ่งหนึ่งเพียงเล็กน้อยแค่ 6 คะแนน บัญชีทรัพย์สินก็ไม่ต้องแจ้งป.ป.ช. กล่าวปฏิญาณตนไม่ครบก็ไม่ผิดรัฐธรรมนูญ
แต่นี่ ก้าวไกล-เพื่อไทย รวมพันธมิตร 8 พรรค ได้เสียงหนุนรวมกันถึง 312 เสียง กลับต้องฝ่าด่านอุปสรรคนานัปการ ทั้งปัญหาในข้อกฎหมาย กรณีคุณสมบัติในการถือหุ้นสื่อ และปัญหานอกข้อกฎหมาย อาทิ ข้อหาล้มสถาบันฯลฯ
กรณีถือครองหุ้น ITV ที่ตายจากการทำหน้าที่ “สื่อ” ไปแล้วถึง 16 ปีนะ แท้จริงแล้วก็แจ้งการถือครองในฐานะผู้จัดการกองมรดก และในการเลือกตั้งปี 2562 พิธาก็ได้แจ้งป.ป.ช.โดยเปิดเผยมาแล้ว “นักร้อง” ก็ไม่มี กกต.ก็ปล่อยผ่านหูผ่านตามา พิธาได้เป็นส.ส.มาครบ 4 ปีเต็ม
แต่การเลือกตั้งปี 2566 ที่พิธานำทัพได้รับชัยชนะมาท่วมท้น กกต.ชุดเดียวกันกับปี 2562 กลับหยิบหุ้นสื่อที่ตายไปแล้ว 16 ปีมาพลิกชีวิต ฟ้องร้องกล่าวโทษต่อศาลรัฐธรรมนูญในระยะเวลาอันรวดเร็วกว่าปกติวิสัย หากศาลรัฐธรรมนูญรับลูกเร็วเป็นทอด ๆ ด้วย เส้นชีวิตทางการเมืองของพิธาก็อาจสิ้นสุดลงในเร็ววันนี้
นอกจากนี้ ก็ยังมีคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ “นักร้อง” ค่ายพุทธอิสระ กล่าวหาทั้งนายพิธาและพรรคก้าวไกล ว่าการเสนอแก้ไขมาตรา 112 เป็นการล้มล้างการปกครอง งานนี้ก็คงเร็วอีก เพราะศาลรัฐธรรมนูญลงมติรับคำร้องไว้แล้ว
คงไม่ได้ส่งผลกระทบแค่เฉพาะนายพิธาคนเดียว แต่อาจส่งผลกระทบไปถึงการยุบพรรค (อีกแล้ว) กันเลยทีเดียว
สิ่งที่พิธาและพรรคก้าวไกลเจอ มีทั้งด่านวุฒิสภา ด่านกกต. และด่านศาลรัฐธรรมนูญ ล้วนเป็น “ด่านโหด” ทั้งสิ้น
การตัดสินใจของกกต.ไม่แคร์เสียงประชาชน 14.2 ล้านเสียงจริง ๆ และไม่แคร์เสียงประชาชนที่เลือกพรรคฝ่ายเสรีประชาธิปไตย 26.5 ล้านเสียง คิดเป็น 72% ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งอีกด้วย ผมว่าพิธา และอาจจะเป็นพรรคก้าวไกลด้วย คงไม่รอดหรอกครับ
โอกาสจะรอดสัก 1 เปอร์เซ็นต์ มีหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมฯ แสดงความกังวลในการจัดตั้งรัฐบาล พร้อมกับออกความคิดเห็นในนามส่วนตัวว่า ทุกอย่างถูกทำให้เป็นขั้นเป็นตอนในการ “เชือด” นายพิธา
“วันอังคาร (11 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ประกาศวางมือทางการเมือง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น มาวันนี้ (12 ก.ค.) กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญคดีหุ้น ITV ให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ และในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) รัฐสภาลงมติโหวตนายกรัฐมนตรี”
ประเทศไทยของเราบริหารกันแบบนี้เหรอ? มันช่างสวนทางความรู้สึกและความหวังของประชาชนหลายสิบล้านคนจริง ๆ แล้วเศรษฐกิจของประเทศจะต้องหมักหมม รอคอยคนมาแก้ไขอีกนานเท่าไหร่ นายอิศเรศตบท้าย
ครับ ฝ่ารังสีอำมหิตซะขนาดนี้ นายพิธาคงไม่รอดหรอก และตามสคริปต์แล้ว พรรคก้าวไกลก็ต้องถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่ก็ยุบพรรค