รวมหุ้นสุดเละ
วันนี้จะหาเรื่องดี ๆ มาเม้าท์กับนักลงทุนสักเรื่อง..ก็หายากเหลือเกิน “โมนิก้า” จึงขอเปลี่ยนอารมณ์ไปเม้าท์เรื่องแย่ ๆ เพื่อปรับจูนอารมณ์ให้เข้าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
วันนี้จะหาเรื่องดี ๆ มาเม้าท์กับนักลงทุนสักเรื่อง..ก็หายากเหลือเกิน “โมนิก้า” จึงขอเปลี่ยนอารมณ์ไปเม้าท์เรื่องแย่ ๆ เพื่อปรับจูนอารมณ์ให้เข้าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีทั้งเรื่องตัวผู้บริหารที่ทำอะไรแย่ ๆ เรื่องราคาหุ้นที่ลงเละเทะ และเรื่องผลงานที่ส่อแววจะทรุดฮวบ ล้วนเป็นประเด็นที่เดี๊ยนอยากเม้าท์ถึงมากสุดในห้วงเวลานี้ หลังทุกคนรับรู้อยู่เต็มอกตูม ๆ ว่า หุ้นไทยเละอีกนานเจ้าค่ะ
สถานการณ์ดังกล่าวถูกย้ำหัวหมุดด้วยการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ตลาดหุ้นไทยกลับแกว่งตัวผันผวนในทิศทางขาลง ก่อนจะยืนปิดไปที่ระดับ 1,494.02 จุด บวกไป 2.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.04 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังปักใจเชื่อว่า ดัชนีจะลงไปทำดับเบิ้ลโลว์ที่บริเวณ 1,460 จุดแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่บั่นทอนจิตใจนักลงทุนอย่างแรง จนบรรดาสิงห์เดย์เทรดเริ่มยอมแพ้ เพราะเข้าทีไร โดนทุกทีเลยจ้า!
ประกอบกับช่วงนี้นักลงทุนชอบเล่าแต่เรื่องเก่า ๆ “โมนิก้า” เลยรับรู้ได้ทันทีว่า นักลงทุนมองไม่เห็นอนาคตของการลงทุน จึงต้องปลอบใจตัวเองด้วยการรำลึกถึงวันวานที่เคยผ่านสมรภูมิรบมาทุกรูปแบบ เพียงแต่สนามรบในตลาดหุ้นเที่ยวนี้มันหินกว่าครั้งก่อน ๆ เลยเกิดอาการเมาหมัดมากกว่าครั้งไหน ๆ จึงขอปลีกตัวไปตั้งหลักข้างนอก เพื่อรอวันเวลาที่จะกลับเข้ามาใหม่นะตัวเอง
เหมือนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหุ้น NUSA ที่ส่อไปในทาง “ลับ ลวง พราง” เกี่ยวกับการลงทุน ก็ทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงเจตนาที่แท้จริงในการโยกเงินไปลงทุนธุรกิจโรงแรมต่างประเทศกว่า 600 ล้าน และยังมีเรื่องยืดหนี้ให้กับลูกค้าแบบงง ๆ หรือแม้กระทั่งเรื่องฟ้องร้องกว่า 1.70 พันล้าน กลายเป็นเผือกร้อนที่มองมุมไหน มันก็ผิดปกติอยู่ดี เพราะคนในสังคมหุ้นส่วนใหญ่ได้ตัดสินไปแล้วว่า ผ่องเงิน? น่ะซี
ประเด็นเหล่านี้เลยพุ่งตรงไปยัง “เจ๊หมวย” ซึ่งคนในแวดวงตลาดหุ้นรู้ดีว่า เจ๊เป็นคนอย่างไร? ขณะเดียวกันเรื่องนี้ยังไปพัวพันกับหัวเรือใหญ่อย่าง “ป.พาเพลิน” แบบเต็ม ๆ จึงเป็นชนวนเหตุที่ทำให้คนในสังคมสงสัยว่า รู้เห็นเป็นใจกับเขาหรือเปล่า? และความกังวลก็ได้รับการตอบสนองด้วยการทิ้งหุ้นไม่หยุด (ต้นปีเคยยืนที่ 1.20 บาท) จนวานนี้หุ้นลงมายืนปิดที่ 0.52 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลงไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาทแบบนี้ คุณ ๆ ท่าน ๆ ต้องทำให้มันเคลียร์นะจ๊ะ
ขนาดในรายของ SGC พยายามแก้หลังบ้านรั่วอย่างหนัก ก็ยังมีประเด็นให้ขาเผือกเม้าท์กันตลอด “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ความจริงใจในการอุดรูรั่ว และในระหว่างนี้ต้องปล่อยให้ราคาหุ้นไหลลงไปให้สุดก่อน เพราะสภาพจิตใจของนักลงทุนยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น เดี๊ยนถึงมองวันก่อนที่หุ้นลงไปทำ all time low ที่ระดับ 1.37 บาท แต่วานนี้ยืนปิดที่ 1.45 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 10 ล้านบาท มันสะท้อนอะไรบางอย่างกระมัง!
ส่วนหุ้นที่ทำ all time low ครั้งแล้วครั้งเล่า “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่ TLI เป็นรายถัดมา และหุ้นตัวนี้ก็เป็นหุ้นที่เดี๊ยนเอ่ยถึงบ่อยมากในช่วง 2 สัปดาห์นี้ โดยเหตุผลที่ต้องเอ่ยถึงอีกครั้ง เพราะราคาหุ้นไหลลงมายืนปิดที่ 10.60 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 207 ล้านบาท พร้อมกับแสดงอาการจะไหลลงอีกเรื่อย ๆ แบบนี้ มันทำให้นักเล่นต้องถอยห่างจากหุ้นตัวนี้ไปโดยปริยายเจ้าค่ะ
อีกรายที่ราคาหุ้นลงเละเทะ และมีเรื่องเม้าท์ถึงสต๊อกสินค้ากันสนุกสนาน “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น DOHOME เพื่อบอกเล่าถึงสิ่งที่แมงลือเม้าท์กันยกใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงผลงานต่อจากนี้ก็คงย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินกันว่า การเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.90 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 151 ล้านบาท เป็นการ “เด้งเพื่อลง” หรือเปล่า?..อิอิอิ
ตบท้ายกันที่หุ้นที่หายสาบสูญไปจากสารบบ หลังสร้างเรื่องโจษจันให้กับตลาดหุ้นช่วงกลางเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาดีกว่า และตัวที่น้องโมกำลังจะเม้าท์ถึงก็คือ PQS ซึ่งเป็นหุ้นไอพีโอที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ และในวันเดียวกันก็ม้วยมรณาชนิดนักเล่นตาตั้ง แต่ในวันนี้หุ้นเริ่มขยับตัวขึ้นมาปิด 3.30 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.85% ด้วยมูลค่าซื้อขายไม่ถึงล้านบาท และเป็นการเทรดบน PE 11 เท่า โดยมีราคาขาย IPO 6 บาทแบบนี้..,มันคืออะไร..มันคืออะร๊าย!