‘เฮียฮ้อ’ ดันอาร์เอส มิวสิค-อาร์เอส เพ็ท ออล เข้า SET

เมื่อเร็ว ๆ นี้ อาร์เอส มิวสิค ได้พาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่างยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป เข้ามาลงทุนในรูปแบบกิจการร่วมค้า


เส้นทางนักลงทุน

การเดินหน้าขยายอาณาจักรของ “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) ในด้านธุรกิจเพลง เมื่อเร็ว ๆ นี้ อาร์เอส มิวสิค ได้พาร์ตเนอร์ระดับโลกอย่างยูนิเวอร์แซล มิวสิค กรุ๊ป (UMG) เข้ามาลงทุนในรูปแบบกิจการร่วมค้า (Joint Venture) เพื่อบริหารลิขสิทธิ์เพลงของอาร์เอสทั้งหมด

UMG เป็นบริษัทดนตรีรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกและเป็นผู้นำในตลาดเพลง การร่วมลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ดนตรีของอาร์เอสได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ

“เฮียฮ้อ” ประกาศจะเดินหน้ารุกธุรกิจเพลงอีกครั้งในจังหวะเวลาที่เหมาะสม ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน จากการมีพาร์ตเนอร์ใหม่ที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นกลยุทธ์เชิงรุกที่แตกต่างและไร้กรอบ ภายใต้เป้าหมายเพื่อสร้างรายได้จากหลายช่องทาง

ดีลในครั้งนี้ RS ได้รับเงินลงทุนจาก UMG ราว 1.6 พันล้านบาท เพื่อร่วมกันตั้งกิจการร่วมค้า โดยทาง UMG จะมีสัดส่วนถือหุ้น 70% และ อาร์เอส มิวสิค จะถือหุ้น 30% ซึ่งจะมีสิทธิในการบริหารจัดการแค็ตตาล็อกเพลงกว่า 10,000 เพลง รวมถึงคอนเทนต์เกี่ยวเนื่อง

ได้แก่ มิวสิควิดีโอ เนื้อเพลงและบทประพันธ์ (compositions) รูปภาพและภาพถ่ายต่าง ๆ รวมถึงสิทธิภายใต้สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ (rights under license agreements) และยังจะเป็นโอกาสสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่ธุรกิจหรือโปรเจกต์ใหม่ในรูปแบบอื่น ๆ ร่วมกันในอนาคต

ความร่วมมือกับ UMG จะช่วยขยายรายได้จากช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญ เมื่อรวมกับรายได้จากการจัดกิจกรรมและคอนเสิร์ต การสร้างแคมเปญการตลาดกับลูกค้า และการบริหารศิลปิน คาดว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้ของอาร์เอส มิวสิค เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ที่ 700 ล้านบาท

นอกจากการผลิตคอนเทนต์ใหม่จากโปรเจกต์ RS Homecoming และ RS Newcomers รวมถึงความร่วมมือด้านลิขสิทธิ์เพลงกับ UMG แล้ว อาร์เอส มิวสิค ยังมองหาโอกาสใหม่ ๆ กับพาร์ตเนอร์คู่ค้า ทั้งที่ทำงานร่วมกันอยู่แล้วและคู่ค้าอื่น ๆ เพื่อต่อยอดการทำ Music marketing ทั้งยังจะจับมือกับศิลปินอิสระหรือจากค่ายต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสในการทำเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังของไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจเพลงให้ครบวงจร

อาร์เอส มิวสิค มีเป้าหมายทางธุรกิจชัดเจน ภายใน 3 ปี หรือปลายปี 2568 ต้องการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และผลักดันการเติบโตรายได้แตะ 1,200 ล้านบาท ภายในระยะเวลาดังกล่าว จากปีนี้คาดการณ์รายได้เพลงอยู่ที่ 720 ล้านบาท

หลังปรับโครงสร้างใหม่ เช่น การสร้างรายได้จากออนไลน์และออฟไลน์ ทั้งผลิตผลงานเพลงจากศิลปินรุ่นใหม่และตำนาน การสร้างผลงานเพลงร่วมกับศิลปินชื่อดังจากภายนอก จะทำเงินสูงสุดสัดส่วน 40% การทำตลาด สร้างแบรนด์สัดส่วน 25% โชว์บิสและคอนเสิร์ต 25% การบริหารและดูแลศิลปิน 10%

ก่อนหน้านี้ “เฮียฮ้อ” ก็เกิดแพสชันรุกขยายพอร์ตโฟลิโอธุรกิจเวลเนสสัตว์เลี้ยง ส่งบริษัท อาร์เอส เพ็ท ออล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เข้าลงทุนในบริษัท ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จำกัด สัดส่วน 51% มูลค่าการลงทุน 117 ล้านบาท โดยเข้าทำรายการในเดือน ก.ค. 2566 นี้ จากนั้นจะเปิดตัวร้านแฟลกชิปสโตร์ให้บริการสัตว์เลี้ยงครบวงจรสาขาแรก เบื้องต้นปีนี้ต้องการเปิดให้ได้ประมาณ 6-7 สาขา ใช้งบลงทุนไม่เกิน 10-15 ล้านบาทต่อสาขา มีเป้าหมายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมนี้

หลังจากเริ่มต้นธุรกิจสัตว์เลี้ยงในปลายปี 2564 ด้วยการเปิดตัวอาหารหมา-แมว แบรนด์ Lifemate (ไลฟ์เมต) และการรุกเข้าสู่ธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ เปิดตัวโรงพยาบาลสัตว์กรุงเทพ ชัยพฤกษ์ ศูนย์สุขภาพสัตว์เลี้ยงครบวงจร

ฮาโตะ เพ็ท เวลเนส เซ็นเตอร์ จะมีการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมที่หลากหลาย รองรับความต้องการกลุ่มคนรักสัตว์ เพื่อสนับสนุนให้อาร์เอส เพ็ท ออล สามารถ Spin-off เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ภายใน 3 ปี

ดังนั้น ในอนาคตอาณาจักร “เฮียฮ้อ” จะกว้างขวางยิ่งขึ้น มีบริษัทมหาชนในเครือข่ายเพิ่มอีก 2 บริษัท จากปัจจุบันที่มี 3 บริษัท คือ บมจ.อาร์เอส (RS), บมจ.แกรททิทูด อินฟินิท (GIFT) และ บมจ.เชฎฐ์ เอเชีย หรือ CHASE

Back to top button