ยุคน้ำมันถูกพลวัต 2015
ราคาน้ำมันที่ร่วงลงลึกสุดในรอบทศวรรษเมื่อคืนวันจันทร์ในนิวยอร์ก ก่อนถูกแรงซื้อของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ดันกลับไปบวกเหนือ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ไม่สามารถปิดบังความจริงที่ว่า ตลาดน้ำมันกำลังเหวี่ยงกลับไปสู่อำนาจในมือของโอเปกอีกครั้ง
ราคาน้ำมันที่ร่วงลงลึกสุดในรอบทศวรรษเมื่อคืนวันจันทร์ในนิวยอร์ก ก่อนถูกแรงซื้อของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ดันกลับไปบวกเหนือ 35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง ไม่สามารถปิดบังความจริงที่ว่า ตลาดน้ำมันกำลังเหวี่ยงกลับไปสู่อำนาจในมือของโอเปกอีกครั้ง
พิสูจน์ความเชื่อเชิงกลยุทธ์ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ว่า การปล่อยผลิตน้ำมันเสรีเพื่อทำสงครามราคานั้น ท้ายสุดแล้วโอเปกจะชนะ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ราคาน้ำมันในตลาดนิวยอร์กหรือ NYMEX ที่เคยถ่างต่ำกว่าราคาน้ำมันดิบเบรนต์ในทะเลเหนือที่ระดับมากกว่า 4 ดอลลาร์ลดช่องห่างเหลือต่ำกว่า 2 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกเมื่อคืนวันจันทร์เช่นกัน เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในรอบทศวรรษ หากยังคงดำเนินต่อไป แสดงว่าอิทธิพลในการกำหนดราคาน้ำมันของสหรัฐลดต่ำลงในตลาดโลก
ที่น่าสนใจคือ แม้ราคาล่วงหน้าในตลาดน้ำมันดิบในตลาดกลางอย่างNYMEX หรือเบรนต์ จะสูงกว่า 35 ดอลลาร์ แต่เป็นที่รู้กันว่า ราคาเสนอขายจริงในท้องตลาดระหว่างตัวแทนผู้ผลิตน้ำมันดิบของชาติต่างๆ นั้น ถูกกว่าราคาตลาดกลางมากถึง 3-12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลขึ้นกับเหตุผลและต้นทุนที่แบกรับไหวหรือไม่ (ดูตารางประกอบ)
ไม่ต้องพูดถึงออยล์แซนด์ หรือบิทูเมน (Bitumen) ที่เหลือราคาเสนอขายจริงล่าสุดที่ระดับต่ำติดพื้นเพียงแค่ 13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้น ร่วงลงมากจากปีก่อนถึง 80%
นักค้าในตลาดน้ำมันดิบทั่วโลกรู้ดีว่า ราคาเสนอขายจริงนั้นเป็นราคา“กลืนเลือด” ของบรรดาผู้ผลิตที่ขุดเจาะขึ้นมาเพราะเป็นราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนทั้งสิ้น
เมื่อโอเปกทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนคือเปลี่ยนจากการดันราคาน้ำมันให้แพง มาเป็นการทุ่มราคาให้ต่ำเพื่อทำลายล้างคู่แข่งออกจากการแข่งขัน จึงเป็นสถานการณ์ใหม่ที่จบสิ้นช่วงเวลาน้ำมันแพงนานกว่า 10 ปี
ยุคของราคาน้ำมันถูกได้เกิดขึ้นแล้ว โดยที่ผู้บริโภคจะเริ่มคุ้นชินกับยุคนี้ไปอีกนาน แม้ผู้เชี่ยวชาญจะบอกว่าจะกินเวลาเพียงแค่ประมาณปลายปี 2559 เท่านั้นเอง แต่ก็ถือว่าเหมาะสมกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังย่ำแย่ต่อไปยามนี้
คำถามก็คือ ยุคน้ำมันราคาถูกจะแสนสั้นตามที่ผู้เชี่ยวชาญบอก หรือว่าจะยาวนานออกไป เพราะการแสวงหาพลังงานทดแทนใหม่ที่สะอาดกว่า กำลังเป็นกระแสที่มาแรงกว่า และไม่แพ้กัน โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตประจำวันผู้คนบนโลกไปแล้ว
ยุคน้ำมันถูกเปิดแผลเป็นที่สะท้อนความสามารถในการเอาตัวรอดของชาติที่ส่งออกน้ำมันได้ชัดเจน ชาติที่ประมาทเลินเล่อต่ออนาคตอย่างเวเนซุเอลา ที่ตั้งงบประมาณประชานิยมบนสมมติฐานราคาน้ำมันที่มากกว่า 40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เริ่มพบว่าเมื่อราคาน้ำมันต่ำลงกว่า 40 ดอลลาร์ ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศที่เคยมีมาก หายไปมากถึง 32% ภายในปีงบประมาณเดียว
การที่กลุ่มโอเปก เชื่อว่ายิ่งราคาน้ำมันถูกเท่าใด ยิ่งต้องเพิ่มการผลิตน้ำมันชดเชยรายได้ที่หดหายไปต่อหน่วยเอาไว้ จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสม โดยเฉพาะอิหร่าน ที่บอกว่าพร้อมจะส่งออกน้ำมันที่คั่งค้างล้นประเทศมานานกว่า 5 ปีทันทีในเดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป ยิ่งทำให้ภาพรวมอนาคตของราคาน้ำมันถูกชัดเจนยิ่งขึ้น
ราคาน้ำมันดิบที่รีบาวด์กลับเหนือ 35 ดอลลาร์เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นแค่ภาพลวงตาระยะสั้น เพราะแม้ว่าจะมีข่าวดีจากจีนในด้านเสถียรภาพทางการผลิตที่มากขึ้นในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าเศรษฐกิจจีนยังคงเปราะบาง เนื่องจากการทุ่มล้างผลาญงบประมาณของรัฐบาลจีนพยุงเศรษฐกิจให้ผ่านหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ตัวเลขบอกจ่ายงบเพิ่มขึ้น 25% เทียบกับยอดรายรับ 11% เพื่อชดเชยการลงทุนเอกชนที่เหือดแห้งลง ไม่ใช่หลักประกันว่าเศรษฐกิจจีนจะมีการบริโภคพลังงานปิโตรเลียมมากขึ้น เหมือนระดับเดิมหลายปีก่อน
การประเมินว่าราคาน้ำมันมาถึงช่วงเวลา “ก้นเหว” แล้ว จึงเป็นสถานการณ์ที่นักค้าน้ำมันดิบทั่วไปไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง อาจจะต้องรอเวลาจนกระทั่งสถานการณ์หลังจากความวุ่นวายเมื่ออิหร่านเริ่มส่งออกน้ำมันดิบขนาดใหญ่ครั้งแรกในรอบหลายปีผ่านไปแล้ว 4-6 เดือน ซึ่งน่าจะเป็นช่วงหลังจากเดือนมิถุนายนปี 2559 ผ่านไปแล้วโน่นแหละ ภาพของตลาดน้ำมันจะชัดเจนยิ่งขึ้นว่าราคาถึงก้นเหวแล้วหรือยัง
ยุคของราคาน้ำมันถูกครั้งล่าสุดในขณะนี้ อาจจะทำให้คนทั่วโลกพากันลืมอิทธิพลของเงินเปโตรดอลลาร์ ในรูปกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (SWF) ที่เคลื่อนย้ายจากกำไรสะสมของชาติส่งออกน้ำมันขนาดใหญ่ ออกไปลงทุนในตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดสินค้าหรือบริการทั่วโลกเพื่อหลบหนีภาวะเงินเฟ้อในประเทศของตนเองไปชั่วคราว และกองทุนเหล่านั้น อาจจะต้องวุ่นวายกับปัญหาความร่อยหรอทางด้านความมั่งคั่งของตนเองลงไปมาก จนหมกมุ่นลืมความสนใจจะแผ่ขยายอำนาจออกไปเหมือนในช่วงผ่านมา
สถานการณ์เช่นนี้ มีรายละเอียดซับซ้อนที่ต้องทำความเข้าใจ เพราะราคาน้ำมันถูกหมายถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นย่ำแย่ทำนองเดียวกันด้วย