องค์กรคนดีเสื่อมทายท้าวิชามาร
โพลล์ประชาชนสนับสนุนให้ร่างรัฐธรรมนูญตัดสิทธิคนโกงตลอดชีวิต แต่ถามนิด ใครจะเป็นผู้ตัดสินตัดสิทธิ ถ้าศาลและองค์กรอิสระเสียความเชื่อถือจากสังคม
ใบตองแห้ง
โพลล์ประชาชนสนับสนุนให้ร่างรัฐธรรมนูญตัดสิทธิคนโกงตลอดชีวิต แต่ถามนิด ใครจะเป็นผู้ตัดสินตัดสิทธิ ถ้าศาลและองค์กรอิสระเสียความเชื่อถือจากสังคม
กกต.อยู่ดีๆ ไม่มีเลือกตั้งก็ปลดเลขาธิการแล้วโดนแฉ ไม่ต้องปักใจเชื่อใครดีใครแย่ แต่ฟังแล้วเห็นปัญหาองค์กรอิสระ ซึ่งอิสระซะจนใช้เงินภาษีไปดูงาน แต่งตั้งที่ปรึกษา เลขา ผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ ตามแต่พวกท่านออกระเบียบเอง
ซึ่งน่าจะเป็นทุกหน่วยงาน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตั้งลูกเป็นเลขาฯ แล้วอนุมัติให้ลาไปเรียนนอก แต่ ป.ป.ช.บอกไม่ทุจริต แค่ผิดทางแพ่งต้องเรียกเงินคืน
ฝั่ง กกต.หาว่าเลขาทำงานไม่เอาไหน ฝั่งเลขาซัดกลับไป “กกต.ล้วงลูก” ไม่ว่าใครผิดใครถูก สิ่งที่ประชาชนเห็นคือองค์กรที่ต้องจ่ายแพงกว่าข้าราชการทั่วไป มีปัญหาในความเป็น “อิสระ” ถ้าสำนักงานเป็นอิสระเสียจนไม่มีใครตรวจสอบดูแลได้ ก็ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้ากรรมการเข้ามา 5 ปี 7 ปี สามารถล้วงลูกแต่งตั้งโยกย้าย มันจะไม่วุ่นวายไปหมดหรือ
ไม่ใช่แค่ กกต.หรอกครับ เท่าที่ทราบ บางองค์กรพอกรรมการเข้ามา ก็ย้ายโอนคนของตนมานั่ง 7 ปีผ่านไปจากซี 7 เลื่อนขั้นเทียบซี 10 อ้าว แล้วกรรมการใหม่เข้ามา ถ้าอยากได้คนของตัวอีกจะทำไง
หันไปดู ป.ป.ช.นึกว่าไม่มีอะไร ที่ไหนได้ เลือกประธานใหม่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ กระทั่งสื่อที่เชียร์ คสช.ยังเห็นว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ไม่สง่างาม เพราะมาจากรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
แต่ข้อนี้ผมไม่ติดใจนะ แหม ยังไงๆ ป.ป.ช.ก็ไม่ตรวจสอบรัฐบาล คสช.อยู่แล้ว ไม่เห็นจะทับซ้อนตรงไหน ฮิฮิ
ไม่กี่วันก่อน วิลาศ จันทรพิทักษ์ อดีต ส.ส.ปชป. เป็นข่าวพาดหัวใหญ่เพราะวิพากษ์หลักสูตรพิเศษองค์กรอิสระ ว่าสร้างล็อบบี้ยิสต์ สร้างคอนเน็กชั่นระหว่างองค์กรอิสระ ตุลาการ พ่อค้า นักการเมือง จากการอบรมและไปดูงานเมืองนอกด้วยกัน
อันที่จริงไม่ใช่เรื่องใหม่ หลายปีก่อน อ.นวลน้อย ตรีรัตน์ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ เสนองานวิจัยเรื่อง “เครือข่ายผู้บริหารระดับสูง” ผ่านหลักสูตรผู้บริหารต่างๆ ว่าทำให้เกิด fast tract สังคมอำนาจของชนชั้นนำ ไม่ว่าหลักสูตร วปอ. หลักสูตร บยส.ของศาลยุติธรรม หลักสูตร ปปร.ของสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตร พตส.ของ กกต. หลักสูตร วตท.ของตลาดหลักทรัพย์ หลักสูตร TEPCoT ของหอการค้าไทย โดยตอนหลังยังมีหลักสูตร บยป.ของศาลปกครอง หลักสูตร นธป.ของศาลรัฐธรรมนูญ
นักธุรกิจไทยคงรู้นะครับว่า “คอนเน็กชั่น” มีราคาขนาดไหน แค่ได้เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับทหารตำรวจข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็ดีใจแย่ แต่ที่เยี่ยมกว่าคือได้เป็นเพื่อนกับผู้พิพากษา ตุลาการ กรรมการองค์กรอิสระ (ซึ่งต้นสังกัดควักงบประมาณให้มาอบรม)
ความจริงไม่ใช่เรื่องแปลก ศาล องค์กรอิสระ ก็เป็นมนุษย์ธรรมดาไม่สามารถห้ามคบค้าสมาคม เรื่องแปลกคือสังคมไทยต่างหากที่เชื่อว่าจะมีองค์กรเทวดา มีเปาบุ้นจิ้น มีผู้วิเศษชี้ถูกชี้ผิดโดยปราศจากรักโลภโกรธหลง ซึ่งต่างกับทัศนะประชาธิปไตย ที่เชื่อว่าเราอยู่ในสังคมทุนนิยม การตัดสินใจทุกอย่างมีคนได้ประโยชน์ ไม่สามารถฝากความเชื่อใคร ไม่ว่านักการเมือง ข้าราชการ ทหาร หรือองค์กรใด
สังคมไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ต้องผ่านการ “ล้มละลายทางความเชื่อ” จึงก่อร่างสร้างประชาธิปไตยใหม่ ปัญหาคือเราไม่รู้ว่ากระบวนการนี้นานเพียงไร และไม่รู้จะเสียหายมากขนาดไหน