TISCO ตั้งสำรองหนี้ลดลง

TISCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 1,853.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.30% จากไตรมาส 2/2565 และขยายตัว 3.42% จากไตรมาส 1/2566


คุณค่าบริษัท

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 1.สินเชื่อรายย่อย 68.5% 2.สินเชื่อธุรกิจ 24.4% 3.สินเชื่อธุรกิจ SME 5.5% 4.สินเชื่ออื่น ๆ 1.7% จากสินเชื่อรายย่อย 68.5% จำแนกต่อได้ดังนี้ 1.สินเชื่อเช่าซื้อ 47.2% 2.สินเชื่อจำนำทะเบียน 17.1% 3.สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย 4.2% โดยสินเชื่อธุรกิจมีสัดส่วนที่สูงขึ้น สวนทางกับสินเชื่อรายย่อยที่มีสัดส่วนลดลง บ่งชี้ถึงการกระจายความเสี่ยงไปในสินเชื่อที่มีความมั่นคงและความเสี่ยงต่ำกว่า

TISCO รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 มีกำไรสุทธิ 1,853.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.30% จากไตรมาส 2/2565 และขยายตัว 3.42% จากไตรมาส 1/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 1,792.58 ล้านบาท โดยปัจจัยกดดันมาจากรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่ลดลง 4.3% จากไตรมาส 1/2566 และลดลง 9.2% จากไตรมาส 2/2565 หลังจากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจตลาดทุนปรับลดลง ทั้งค่าธรรมเนียมจัดการกองทุน, ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ และค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ จากภาวะตลาดหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายลดลงมาก รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 4.2% จากไตรมาส 1/2566 และเพิ่มขึ้น 11.9% จากไตรมาส 2/2565 ทำให้ Cost to Income Ratio เพิ่มขึ้นมาที่ 50.1% จาก 49.2% ในไตรมาส 1/2566 หลังเร่งขยายพนักงานและเปิดสาขาใหม่ของ “สมหวัง”

ส่วนปัจจัยบวกสนับสนุนจาก 1.รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิที่เพิ่มขึ้น 5.0% จากไตรมาส 1/2566 จากพอร์ตสินเชื่อขยายตัว 4.7% จากไตรมาส 1/2566 อีกทั้ง NIM ที่ขยับขึ้นเล็กน้อยมาที่ 5.0% จาก 4.8% ในไตรมาส 1/2566 ผลจากการเร่งขยายสินเชื่อจำนำทะเบียนและสินเชื่อภาคธุรกิจ 2.ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้ลดลง 49.7% จากไตรมาส 1/2566 และลดลง 54.9% จากไตรมาส 2/2565

แม้ตัวเลข NPL Ratio ขยับขึ้นเล็กน้อยมาที่ 2.2% จาก 2.1% ในไตรมาส 1/2566 แต่ด้วยนโยบายสำรองที่เข้มงวดต่อเนื่องมาหลายไตรมาส ทำให้ TISCO มองว่า Coverage Ratio ปัจจุบันที่ 224.0% เพียงพอที่จะรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจได้ เมื่อเทียบกับในไตรมาส 1/2566 ที่ 248.1% และเทียบกับไตรมาส 2/2565 ที่ 253.1% จากการประมาณการของ บล.กสิกรไทย ระบุว่า การก่อตัวของ NPL ใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 1.3% ในไตรมาส 2/2566 จาก 0.8% ในไตรมาส 1/2566

เงินให้สินเชื่อของ TISCO ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 มีจำนวน 230,494.38 ล้านบาท เติบโต 4.7% จากไตรมาส 1/2566 และขยายตัว 5.2% จากสิ้นปี 2565 เป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อจำนำทะเบียน และสินเชื่อเช่าซื้อรถมือสอง โดยสินเชื่อธุรกิจเติบโต 22.0% จากสิ้นไตรมาส 1/2566 จากการขยายตัวของสินเชื่อกลุ่มสาธารณูปโภคและการบริการ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง ขณะที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์เติบโต 4% จากไตรมาส 1/2566 ด้านผู้บริหาร TISCO คาดว่าสินเชื่อจะโตช้าลงในครึ่งหลังของปี 2566 หลังจากที่เพิ่มขึ้น 13% จากครึ่งแรกของปี 2565 (เทียบกับเป้าหมาย 5-10%)

ข้อมูลจาก Refinitiv Consensus สำหรับ TISCO ระบุว่า ประมาณการรายได้รวมปี 2566 ที่ 18,995.83 ล้านบาท และประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 7,381.90 ล้านบาท โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 106.87 บาท จาก 18 โบรกเกอร์

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดว่าทั้งปี 2566 TISCO จะมีกำไรสุทธิ 7,614 ล้านบาท โต 5.4% จากปี 2565 และในปี 2567 โตต่อ 4.1% จากปี 2566 TISCO มีจุดแข็งจากคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่แข็งแรงเมื่อเทียบกับหุ้นธนาคารขนาดกลาง/เล็กรายอื่น ผลจากการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังตลอด 2 ปีที่ผ่านมา

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) หุ้น TISCO ราคาปัจจุบัน (ราคาปิดวันที่ 18 ก.ค. 2566 ที่ 97.75 บาท) ซื้อขายกันที่ P/E 10.84 เท่า สูงกว่า P/E กลุ่มธนาคารที่ 8.99 เท่า ส่วนค่า P/BV ของหุ้น TISCO อยู่ที่ 1.75 เท่า สูงกว่า P/BV กลุ่มธนาคารที่ 0.71 เท่า

Back to top button