สิ้นสุดทางเลื่อน..ดอกเบี้ยขาขึ้น.!?
สัปดาห์ที่ผ่านมา FED และ ECB ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ถือว่าเป็นไปตามความคาดการณ์ของตลาด และไม่ปิดโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีก
สัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (FED) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ถือว่าเป็นไปตามความคาดการณ์ของตลาด และไม่ปิดโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีก หากอัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงต่อเนื่องหลังจากก่อนหน้านี้ เริ่มเห็นการปรับตัวลงที่เร็วกว่าคาดทั้งในอเมริกาและฝั่งยุโรป
ล่าสุด..อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อยู่ที่ 5.2-5.50% และ ส่วนธนาคารกลางยุโรปอยู่ที่ 3.75%
มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งช่วงสัปดาห์นี้ หลังเริ่มเห็นสัญญาณเชิงบวกจากอัตราดอกเบี้ยทั่วไป ที่ขยายตัวน้อยกว่าคาด โดยอยู่ที่ 7.9% ช่วงเดือน มิ.ย. 66 ต่ำกว่าคาดการณ์ของรอยเตอร์โพล ที่มองไว้ 8.2% เป็นการลดลงจากระดับเงินเฟ้อสูงสุดรอบ 41 ปี ที่ระดับ 11.1% เมื่อเดือน ต.ค. 65
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเช่นกัน โดยอยู่ที่ 6.9% จากแบบสำรวจที่คาดว่าจะขยายตัว 7.1% โดย BOE วางเป้าหมายเงินฟ้อทั่วไปไว้ที่ระดับ 2%
แม้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำสุด แต่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดอย่างมากหลังมีการปรับนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อผ่อนคลายความกังวลสำหรับผลกระทบข้างเคียงที่เพิ่มขึ้นจากการคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำเป็นเวลายาวนาน
โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ -0.10% และตรึงเป้าหมายผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ที่ระดับ 0% อย่างไรก็ตามธนาคารกลาง ประกาศให้พันธบัตรอายุ 10 ปี ยังสามารถปรับตัวขึ้นหรือลงได้ 0.50% จากระดับเป้าหมาย 0% และเสนอซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 1% แทนการเสนอซื้อที่อัตราดอกเบี้ยเดิมที่ระดับ 0.50% นั่นแสดงให้เห็นถึงช่วงของการปรับขึ้นได้อีก 0.50%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น มีการปรับค่าเฉลี่ยเงินเฟ้อปีนี้ขึ้นเป็น 2.5% จากเดิมคาดไว้ 1.8% เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา..
อย่างไรก็ดีตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เริ่มเห็นการปรับตัวลดลงของอัตราเงินเฟ้อทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ โดยที่อัตราการจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจค่อย ๆ เติบโตได้อย่างช้า ๆ และสิ่งนี้เป็นจุดสำคัญสำหรับธนาคารกลาง ที่ส่งสัญญาณมากว่าหนึ่งปีว่า ต้องการเห็นการลดลงอย่างแน่ชัด เพื่อให้เห็นว่าการปรับนโยบายทางการเงินนั้นได้ผลอย่างแท้จริง..!!
“คริสติน ลาการ์ด” ประธานธนาคารกลางยุโรป ระบุว่า ถ้อยคำแถลงที่เปลี่ยนไปจากเดิมเพียงเล็กน้อยนั้น มีความหมายที่สำคัญ นั่นหมายถึงการที่ธนาคารกลางกำลังส่งสัญญาณว่า หลังจากปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นมาแล้วถึง 9 ครั้งติดต่อกัน อาจมีการหารือเพื่อหยุดการขึ้นชั่วคราวได้ช่วงการประชุมครั้งถัดไปคือเดือน ก.ย. 66
“เจอโรม พาวเวลล์” ประธานเฟด กล่าวในแถลงการณ์ว่า หลังจากธนาคารกลาง เพิ่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 จากการประชุมทั้งหมด 12 ครั้ง ล่าสุดปรับขึ้นอีก 0.25% โดยระบุว่า เมื่อดูจากการปรับขึ้นที่ผ่านมา สหรัฐฯ สามารถผ่อนคลายลงได้บ้างและปล่อยให้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ดำเนินด้วยตัวของมันเอง
และนี่..แสดงให้เห็นธนาคารกลางต่าง ๆ เริ่มมีการปรับท่าทีอย่างระมัดระวังต่อมาตรการทางการเงินในอนาคต นั่นเป็นสัญญาบ่งชี้ว่าเส้นทาง “อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น” ใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว..!!??