GRAMMY สปินออฟ ‘มิวสิค’

แหม๊..!! พอดิบพอดีกับคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ GRAMMY X RS : 90’s Versary Concert จบลงไปท่ามกลางความมันส์ของแฟนคลับยุค 90


แหม๊..!! พอดิบพอดีกับคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์ GRAMMY X RS : 90’s Versary Concert เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา (29–30 ก.ค. 2566) จบลงไปท่ามกลางความมันส์ของแฟนคลับยุค 90…ถัดมาเช้าวันจันทร์ที่ 31 ก.ค. 2566 บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY ของ “อากู๋”–ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ก็แจ้งข่าวสารต่อตลาดหลักทรัพยฯ ว่าด้วยเรื่องเตรียมจะหย่านมลูก อุ๊ย Spin-Off บริษัท จีเอ็มเอ็ม มิวสิค จำกัด (GMM MUSIC) เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ทันควัน..!!

งานนี้ไม่รู้เป็นความบังเอิ๊ญบังเอิญหรือจงใจของ GRAMMY อะนะ…

แต่ที่รู้ ๆ ดูเหมือนตอนนี้อุตสาหกรรมเพลงกำลังกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง (ละมั้ง) รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของธุรกิจ Digital Streaming บวกกับกระแส Y2K (กระแสย้อนยุคช่วงก้าวข้ามผ่านระหว่างปี 1990–2000) ที่กำลังฮอตฮิตติดลมบนในขณะนี้..!?

ทำให้ GRAMMY ต้องรีบคว้าโอกาสทางธุรกิจ โดยมี GMM MUSIC ซึ่งเพิ่งยกสถานะจากสายงานธุรกิจหนึ่งของ GRAMMY ขึ้นเป็นบริษัทเต็มรูปแบบเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถูกวางให้เป็นเรือธงในการปั๊มรายได้จากธุรกิจเพลงแบบครบวงจร…

น่าเสียดายที่ยังไม่มีรายละเอียดการขายไอพีโอ GMM MUSIC มากนัก ระบุแค่ว่าจะเสนอขายไอพีโอคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 30% ของทุนชำระแล้วทั้งหมด โดย GRAMMY ยังคงมีสถานะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่ก็น่าสนใจกับความเคลื่อนไหวของ GRAMMY ครั้งนี้…

ซึ่งถ้าดูโครงสร้างรายได้ของ GMM MUSIC จะแบ่งเป็น 1) Music Digital Business มียอดรายได้ที่ 1,152 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 34% 2) Music Artist Management Business มียอดรายได้ที่ 1,177 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 35% 3) Showbiz Business มียอดรายได้ 678 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20% 4) Right Management Business มียอดรายได้ 234 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 7% และ 5) Physical Business มียอดรายได้ 147 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่ 4%

ส่วนผลงานในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ…ปี 2564 มีรายได้รวม 1,811.12 ล้านบาท กำไรสุทธิ 43.28 ล้านบาท และปี 2565 มีรายได้รวม 3,056.04 ล้านบาท กำไรสุทธิ 269.27 ล้านบาท ขณะที่งบงวดไตรมาส 1/2566 พลิกมีกำไรสุทธิ 98.26 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2565 ที่ขาดทุน 12.71 ล้านบาท

โดยปี 2566 มีเป้าหมายที่ต้องพุ่งชนตัวเลขรายได้ 3,800 ล้านบาท…ซึ่งจะทำได้หรือเปล่า..? ไม่รู้ ๆ ๆ ๆ

โอเค…ในมุมของ GRAMMY ยังสามารถรับรู้รายได้และกำไรของ GMM MUSIC ตามสัดส่วนการถือหุ้น ที่สำคัญไม่ต้องกระเตง GMM MUSIC อีกต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของเงินลงทุน

ฟาก GMM MUSIC ก็จะมีความคล่องตัวในการบริหารจัดการมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเงินทุนจาก GRAMMY เนื่องจากมีทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งทุนมากขึ้น ทั้งจากการออกหุ้นกู้ การเพิ่มทุน หรือกู้เงินจากแบงก์…อันนี้เป็นข้อดี

ส่วนข้อเสียก็มีนะ อันดับแรก GRAMMY จะสูญเสียความเป็นเจ้าของใน GMM MUSIC และจากที่เคยกินรวบก็จะเปลี่ยนมาเป็นกินแบ่งแทน

แต่เชื่อว่า “อากู๋” คงตีลังกาคิดมาดีแล้วล่ะ..!?

จะว่าไปนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ๆ ที่ GRAMMY พยายามดันลูกเข้าตลาดฯ นะ เพราะถ้ายังจำกันได้ เมื่อปี 2545 ก็เคยพยายามปั้นบริษัทลูกที่ชื่อบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ GMMM ประกอบธุรกิจสื่อวิทยุ โทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์ เข้าตลาดฯ มาแล้ว

น่าเสียดายที่ GMMM อยู่ในตลาดฯ ได้ไม่นาน ในปี 2551 ก็มีการถอนหุ้นออกจากตลาดฯ ซะงั้น…

หลังจากนั้นก็หันมาปั้นบริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ONEE เข้าตลาดฯ แทน

ส่วนเคสของ GMM MUSIC ก็ต้องลุ้นว่าจะอยู่ยงคงกระพันอ๊ะป่าว..? หรือจะซ้ำรอยรุ่นพี่ GMMM…ก็ไม่รู้สินะ

ว่าแต่ระหว่าง GMM MUSIC ของ “อากู๋” กับ RS MUSIC ของ “เฮียฮ้อ”–สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซึ่งวางแพลนจะเข้าตลาดฯ เหมือนกัน ใครจะเข็นลูกเข้าตลาดฯ ได้ก่อนกัน

ชักอยากรู้แล้วสิ..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button