ลองเชิง! โมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” กล้าฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหก และไม่กลัวที่จะเม้าท์ในสิ่งที่เชื่อ เพราะเวทีของการลงทุนเที่ยวนี้เขาว่ากันด้วยเรื่อง VI..VI.. (ไวไว) ล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นเจือปน พร้อมกันนั้นก็ทำให้รู้ว่า ไม่มีความจำเป็นต้องกอดหุ้นไว้ในพอร์ตเยอะๆ หากวันไหนมีโอกาสเทขายหุ้นทำกำไร ก็อย่าชักช้าเป็นอันขาด เพราะนาทีทองไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในภาวะเช่นนี้นะคะ


*วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” กล้าฟันธงแบบไม่กลัวหน้าแหก และไม่กลัวที่จะเม้าท์ในสิ่งที่เชื่อ เพราะเวทีของการลงทุนเที่ยวนี้เขาว่ากันด้วยเรื่อง VI..VI.. (ไวไว) ล้วนๆ ไม่มีอย่างอื่นเจือปน พร้อมกันนั้นก็ทำให้รู้ว่า ไม่มีความจำเป็นต้องกอดหุ้นไว้ในพอร์ตเยอะๆ หากวันไหนมีโอกาสเทขายหุ้นทำกำไร ก็อย่าชักช้าเป็นอันขาด เพราะนาทีทองไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ในภาวะเช่นนี้นะคะ

*ประเด็นง่ายๆ ที่อยากให้แฟนคลับลองไป “นั่งคิด นอนคิด”  คงเป็นท่าทีของหุ้นกลุ่มสื่อสารที่สุดสวิงริงโก้อีโต้บานไปเมื่อวานซืน พอถัดมาอีกวันกลับง่อยเปลี้ยเพลียแรงกะทันหัน “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่เล่นกับอารมณ์ของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อน วันนี้ถึงต้องโฟกัสการลงทุนไปที่เรื่องไวไวคลิ๊ก!เพราะเป็นหนทางเดียวที่นักเล่นจะเอาตัวรอดได้พะยะค่ะ

*ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า การแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและในแดนลบ ก่อนจะมาลงเอ่ยที่ระดับ 1,299.12จุด ลบไป 1.39 จุด ด้วยมูลค่า 4.80 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อการอ่อนตัวลงอีกในวันนี้ เพราะเห็นได้ชัดว่า ไม่มีใครอยากจะเข้ามารับหุ้นไว้ในพอร์ต จึงปล่อยให้หุ้นร่วงหล่นราวกับใบไม้ร่วงแบบนี้ ยิ่งจะทำให้ไซเคิลของหุ้นค่อนไปในทาง side way downนะจะบอกให้

*นอกจากนี้ “โมนิก้า” ยังมองพฤติกรรมของกองทุนที่ซื้อหุ้นแบบครึ่งๆ กลางๆ มันเป็นเพียงการ “ลองเชิง”  ธรรมดาๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบได้บ่อยในช่วงที่กองทุนชอบสร้างภาพเป็นฮีโร่ เพื่อเข้ามากอบกู้สถานการณ์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่หารู้หรือไม่ว่ามักดีแต่ปาก!  แถมวันก่อนโชว์พาวเวอร์ด้วยการซื้อหุ้นไป 5.80 พันล้านบาท พอถึงวานนี้เหลือซื้อแค่ 2.40 พันล้านบาท แล้ววันนี้จะเหลือเท่าไหร่?..ลองไปคิดกันเอาเองเจ้าค่ะ

*งานนี้อย่าหาว่า “โมนิก้า” มีอคติกับผู้เล่นกลุ่มกองทุนเลย แต่ทุกครั้งที่ผู้เล่นกลุ่มนี้เริ่มพูดถึง “กองทุน คือ ทางเลือก” เดี๊ยนไม่เห็นกองทุนเข้ามาซื้อหุ้นอย่างจริงจังสักที แถมการซื้อส่วนใหญ่ยังเป็นลักษณะแค่ช่วงสั้นๆ จึงมองไม่เห็นโอกาสที่ดัชนีจะผงกหัวขึ้นอย่างถาวร วันนี้ถึงไม่ต้องถามว่า หุ้นตัวไหนดี?เพราะคำตอบที่จะได้รับกลับไปคือ ขึ้นอยู่กับเจ้ามือจะประทับองค์ที่ตัวไหน…อิอิอิ

*เหมือนกับการทะยานขึ้นของ AOTมันมาจากความเชื่อมั่นที่มีต่อบริษัท วันนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 331 บาท ลบไป 8 บาท หรือขึ้นไป 2.50% วอลุ่มแน่นเอี้ยด “โมนิก้า” ถือเป็นหุ้นที่ดีด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปง้อใครทั้งสิ้น บวกกับกองทุนเข้ามาตะลุยหุ้นอีกรอบ ทุกอย่างเลยสวยสดงดงามไปหมด เพียงแต่เที่ยวนี้จะฝ่าขึ้นไปยืนเหนือ 340 บาทได้หรือไม่..ต้องติดตามกันให้ดีๆ เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับรายของปูนใหญ่ SCCเห็นราคาหุ้นเด้งขึ้นติดต่อกัน 2 วันอย่างแข็งแกร่ง อย่าคิดว่า โพซิชั่นของหุ้นเปลี่ยนเป็นขาขึ้น เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้เป็นเพียงแค่การรีบาวด์ในระหว่างทางขาลง ภาพใหญ่ของหุ้นตั้งแต่เดือน พ.ค.-ธ.ค. ยังคงทำมุมลาดเอียงลงอย่างชัดเจน ขณะที่วานนี้หุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 450บาท บวกไป 16 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 950 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงไม่อยากฝันเฟื่องว่าทุกอย่างจะดีขึ้นในไม่ช้า! เพราะของจริงมันโหดร้ายกว่านี้หลายเท่านะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงเรื่องโหดๆ “โมนิก้า” ต้องหันกลับมาดูหุ้นปลากระป๋องออนไลน์ TUวันนี้ต้องมาเจอวิบากกรรมเรื่องสหรัฐฯ กำลังจะบอยคอตอาหารทะเลของไทย หลังไปสืบทราบมาว่า ใช้แรงงานทาสในการทำธุรกิจแปรรูปอาหารทะเล ซึ่งเรื่องนี้อาจจะเกี่ยว หรือไม่เกี่ยว ก็ได้ทั้งนั้น แต่ที่แน่ๆ เรื่องนี้ทำให้เจ้าของถึงกับกุมขมับ!ขณะที่ราคาหุ้นในกระดานดิ่งลงมาปิดที่ 16 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 5.90% ด้วยมูลค่า 630 ล้านบาท มันหมายถึงทุกคนค่อนข้างกังวลกับเรื่องนี้นะคะ

*เช่นเดียวกับหุ้นน้องใหม่ AMATAVวานนี้พยายามรักษาฟอร์มสดด้วยการทะยานขึ้นไปทำ highที่ระดับ 10.10 บาท แต่เผอิญบรรยากาศรอบด้านไม่เป็นใจให้หุ้นยืนระยะได้นานๆ จึงมีแรงเทขายกระหน่ำออกมาไม่ขาดสาย จนสุดท้ายหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 8.70บาท บวกไป 1.20บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่า 4.40 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่สามารถออกได้ทั้งสองหน้า จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะเฉพาะพวกมือไวเท่านั้นเจ้าค่ะ

*ส่วนคนที่ชอบหุ้นสไตล์มาเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก ไม่ไหวก็ลงไปก่อน มีแรงเมื่อไหร่ก็กลับขึ้นมาเอง “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ ASEFAเป็นลำดับแรกก่อนใครเพื่อน เพราะอาการของหุ้นในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาฟอร์มตัวเป็นลักษณะ w-shapeโดยมีกรอบด้านบนอยู่ที่ 6 บาท ส่วนกรอบด้านล่างอยู่ที่ 5 บาท ขณะที่ราคาปิดวานนี้อยู่ที่ 5.65บาท บวกไป 0.30บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท น่าเล่นหรือไม่..คุณเท่านั้นที่รู้..อิอิอิ

*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงหุ้นร้อน CPR เพื่อเตือนสติเหล่านักเล่นว่า อย่าได้ชะล่าใจเป็นอันขาด! เพราะรอบที่แล้วลากหุ้นขึ้นไปถึง 11 บาท ต่อจากนั้นปล่อยให้ร่วงลงมากองอยู่แถวๆ 5.30 บาท ถัดมาอีกวันก็ดันหุ้นขึ้นไปปิดที่ 6.95 บาท ขณะที่วานนี้ดันหุ้นต่ออีกนิดหน่อย จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.40บาท บวกไป 0.45บาท หรือขึ้นไป 6.50% ด้วยมูลค่า 195 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นเกมโหดที่ไม่ควรเข้าไปยุ่ง..จริงหรือไม่ คิดกันเอาเองได้นะคะ

Back to top button