4 คำตอบของเฟดพลวัต 2015

เช้านี้ ทุกคนรู้แล้วว่า สถานการณ์ขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ออกหัวหรือก้อย และอาจจะรู้ผลอีกด้วยว่าการประมูลคลื่นมือถือ 4G ย่านความถี่ 900MHz ใครเป็นผู้ชนะ และที่ราคาเท่าใด


เช้านี้ ทุกคนรู้แล้วว่า สถานการณ์ขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ออกหัวหรือก้อย และอาจจะรู้ผลอีกด้วยว่าการประมูลคลื่นมือถือ 4G ย่านความถี่ 900MHz ใครเป็นผู้ชนะ และที่ราคาเท่าใด

คำตอบไม่ต้องรอคอยอีกแล้ว และตลาดหุ้นก็ไม่รอเช่นกัน พากันทะยานแรงเป็นขาขึ้นทั้งโลกด้วยคำอธิบายที่นักวิเคราะห์สรุปง่ายๆ คือ ซึมซับข่าวร้ายหมดแล้ว อันคุ้นหู

ส่วนจะขึ้นแรงต่อวันนี้ หรือขายเมื่อข่าวจริงออกมาชัดเจน ก็คงต้องติดตามลุ้นกันต่อไปตามประสาตลาดเก็งกำไรที่ต้องคาดเดาจิตวิทยากันตลอด

มีคนให้ข้อสังเกตว่า คำตอบที่จำต้องชัดเจน 4 ข้อที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด แถลงเมื่อคืนที่ผ่านมาจะต้องครอบคลุมสาระ 4 ข้อดังนี้คือ

  นโยบายดอกเบี้ย ต้องการบรรลุเป้าหมายอะไรบ้าง แค่ไหน อย่างไร

  ขั้นตอนการปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะต่อไป จะมีอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือเข้มข้นแค่ไหน

 การดำเนินการ อย่างค่อยเป็นค่อยไป จะตั้งบนพื้นฐานอะไร

 ระดับของอัตราขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 9 ปีนี้ จะเป็นต้นแบบของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปหรือไม่

ทั้ง 4 ข้อ ล้วนเป็นคำตอบเชิงเทคนิคทั้งสิ้น และคาดว่า นางเยลเลนคงจะต้องตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ไม่ให้รู้เรื่องชัดเจน ปล่อยให้ตลาดตีความกันต่อไปในภายหน้าด้วยภาษานามธรรมใหม่ๆ

โดยข้อเท็จจริง การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ก็เหมือนการตัดสินใจสำคัญระดับนโยบายทั้งหลายในโลกคือตัดสินใจบนข้อมูลที่ขัดแย้งกันและไม่สมบูรณ์ แต่ต้องเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด มีความเสี่ยงต่ำสุด และบรรลุเป้าหมายเฉพาะหน้าบางส่วน ระยะกลางบางส่วน หรืออิงทฤษฎีบางส่วน

แน่นอนว่าการตัดสินใจรูปกรรมการของเฟด ที่มีจำนวนทั้งหมด 17 คน และสามารถออกเสียงลงมติทุกครั้งได้ไม่เกิน 10 คน หมุนเวียนตามปี จะต้องมีเสียงส่วนน้อยปะปนมาด้วยเสมอ ยากนักที่จะเป็นเอกฉันท์

ผู้ที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ ยืนยันว่า การขึ้นดอกเบี้ยของเฟดรอบนี้เป็นแค่การ ทดสอบความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ เหมือนการทดลองปฏิกิริยาของคนป่วยโดยหมอ เพื่อดูว่าสนองตอบการรักษาดีขึ้น เฉยเมย หรือแย่ลง เท่านั้น หากเป็นอย่างหลัง ก็คงสามารถทบทวนใหม่ว่าจะไม่ขึ้นอีกเร็วๆ นี้

หลายคนบอกว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ดีขึ้นมาในสหรัฐหลังเดือนกันยายน ตัวเลขการฟื้นตัวของโซนในไตรมาส 4 และเสถียรภาพเศรษฐกิจจีนที่ยืนยันว่าจะปลอดจากการ ฮาร์ด แลนดิ้ง แม้ว่าปัจจัยลบในเรื่องความอ่อนแอของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สร้าง แรงกดดันในช่วงขาลงต่อเงินเฟ้อในระยะใกล้”จะหนักหนาสาหัสกว่าเดิม ก็เพียงพอสำหรับการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของตลาดได้

การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด มีความสำคัญต่ำกว่าประสิทธิภาพของการใช้ดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือบริหารเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ข้อเท็จจริงนี้คนที่ไม่ได้นั่งในที่ประชุมเฟดอาจจะไขว้เขวได้ง่ายมาก

ถ้าเป้าหมายของเฟดเป็นแค่การทดลองยา หรือที่เรียกกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์ว่า การหยดสารเหลวบนกระดาษลิทมัส” litmus test ไม่ได้มีเป้าหมายสกัดเงินเฟ้อที่ยังต่ำกว่าเป้า2.0% อย่างมาก ก็ไม่แปลกที่ตลาดหุ้นจะขานรับเชิงบวกต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แทนที่จะกลัวกันดังเช่นแต่แรก เพียงแต่การขานรับดังกล่าวจะเป็นแค่ปฏิกิริยาเข่ากระตุก ระยะสั้นหรือไม่ ต้องขึ้นกับรายละเอียดเพิ่มเติม

โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่นั้น การขึ้นดอกเบี้ยเฟดอาจทำให้ต้นทุนการเงินในโลกสูงขึ้นไม่มากนัก แต่เงื่อนไขสำคัญกว่านั้นคือ ส่งผลต่อกระแสการไหลของทุนเก็งกำไรอย่างไร

หากการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด มีผลทำให้ทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่กลับไปที่สหรัฐจากการแข็งค่าดอลลาร์ที่รุนแรง จะส่งผลให้เกิดภาวะถดถอยของตลาดทุน และ หายนะของตลาดเกิดใหม่ง่ายดายมาก และในทางกลับกัน ทำให้ผลกำไรของบริษัทข้ามชาติอเมริกันในต่างแดนลดลงเป็นห่วงโซ่ต่อเนื่อง

ประเด็นนี้สำคัญและน่าห่วงใย เพราะด้านหนึ่ง การแข็งค่าของดอลลาร์มากเท่าใด จะเร่งสร้างแรงกดดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลกเลวร้ายลงสวนทางกัน ทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดประเทศส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์รุนแรง

อีกด้านหนึ่งชาติใหญ่อย่างจีน ญี่ปุ่น หรือยูโรโซน ที่ค่าเงินอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์ไม่ว่าโดยเจตนาหรือโดยธรรมชาติ ก็จะได้รับประโยชน์เต็มที่จากค่าดอลลาร์เช่นกัน

ผลสะเทือนที่ไม่เท่ากันนี้ จะเป็นตัวชี้วัดว่าเป้าหมาย “ทดลองยา” เพื่อหยุดยั้งกระแส “เงินดอลลาร์ต้นทุนต่ำ” ที่มีมายาวนาน 9 ปี น่าจะเป็นสิ่งที่คาดเดาผลลัพธ์ได้ยากเพราะต้องดูว่ายาที่ให้นั้นออกฤทธิ์แรงแค่ไหน

สำหรับหมอนั้น ยาที่ให้แรงเกิน เกิดผลข้างเคียงจนคนไข้แพ้ ก็ต้องลดยาหรือเปลี่ยนยา แต่ถ้าหากได้ผลน้อยไป หรือไม่ได้ผลเลย ก็คงต้องเพิ่มความเข้มข้นของยาเพื่อดูผลต่อไปครั้งใหม่กรณีของเฟดก็เช่นกัน

สถิติเก่าๆ ของเฟดที่การขึ้นดอกเบี้ยไม่เคยมีครั้งเดียว และขึ้นแต่ละครั้งก็ไม่เท่ากัน น่าจะเป็นต้นแบบที่พอส่อเค้าให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับขาขึ้นดอกเบี้ยเฟดในปีหน้า

4 คำตอบของเฟดเมื่อคืนที่ผ่านมา อาจจะมีอะไรมากกว่าคำอธิบายที่เฟดเคยให้ไว้เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งแสดงว่าเฟดเองก็มี “ทางเลือกสำรอง” หลายทางล่วงหน้ารับมือกับผลของการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยที่ “รู้อยู่แล้ว” พอสมควร เพียงแต่ยังอุบไต๋เอาไว้เท่านั้นเอง

หากตลาดหุ้นจะขึ้นแรงชั่วคราวจากอานิสงส์ของเฟดครั้งนี้ ก็ถือเสียว่าเป็น “ของขวัญคริสต์มาส” ล่วงหน้าจากเฟดก็แล้วกัน

Back to top button