CRC รัศมีเปล่งปลั่ง
CRC ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลายในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม
คุณค่าบริษัท
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ซึ่งดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลายในประเทศไทย ประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแฟชั่น เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน กลุ่มฮาร์ดไลน์ เช่น เพาเวอร์บาย ไทวัสดุ และกลุ่มฟู้ด เช่น ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท เป็นอีกบริษัทที่เติบโตโดดเด่น หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย
สะท้อนได้จากงบงวดไตรมาสแรกปีนี้ ที่มีรายได้รวม 63,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ที่มีรายได้รวม 56,274 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,312 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 1,324 ล้านบาท เนื่องจากการกลับมาดำเนินการได้ตามปกติของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และจากการปรับปรุงสาขาเก่าและการขยายสาขาใหม่
ที่น่าสนใจ ในมุมมองของนักวิเคราะห์ต่างมองเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 โดย Morgan Stanley มองว่า CRC จะยังได้ผลประโยชน์จากการฟื้นตัวของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งในไทยและอิตาลี ซึ่งการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วน 8-9% ของรายได้ทั้งหมดในช่วงก่อนเกิดโควิด อีกทั้งได้รับผลกระทบที่จำกัดจากเรื่องของเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันคาดว่ารายได้ค่าเช่าจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ หลังมีการให้ส่วนลดน้อยลง รวมถึงการเติบโตในสินค้ากลุ่มแฟชั่นและการขยายช่องทางการขายจะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตได้มากยิ่งขึ้น
โดยประเมินรายได้จากการขายปี 2566 จะอยู่ที่ 244,171 ล้านบาท, มี EBITDA จะอยู่ที่ 32,639 ล้านบาท และจะมีกำไรสุทธิ 9,204 ล้านบาท
ด้านบล.คิงส์ฟอร์ด ระบุว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลังของ CRC เบื้องต้นคาดจะฟื้นตัวได้ดีต่อเนื่อง จาก 1)การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะมีการเดินทางเข้ามาในไทยเฉลี่ยเดือนละมากกว่า 2 ล้านราย (ระดับปกติ Precovid-19 ที่ราว 3 ล้านราย) และจะไป peak ในไตรมาส 4/2566
2)รายได้ค่าเช่าที่กลับมารับรู้ได้เต็มที่มากขึ้น (ปี 2565 บางส่วนยังให้ Discount ผู้เช่าอยู่) โดยในส่วนของรายธุรกิจ คาดว่าจะฟื้นตัวได้ FASHION จะยังคงแข็งแกร่งได้ต่อเนื่องหลังการ renovate ห้างฯ เดิมในไทย/อิตาลีต่อเนื่องทั้งปี 2565 และ 2566 (CAPEX ราว 32% ของการลงทุนปี 2566) รวมถึงการจัดทำโปรโมชั่นการขายใหม่ ๆ ขณะที่ฝั่ง Food/Hardline เองก็มีโอกาสฟื้นตัวจากไตรมาส 2/2566 โดยเฉพาะในส่วนของเวียดนามที่เริ่มเห็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายอย่างการลด VAT ลงเหลือ 8% (จาก 10%) ในช่วงก.ค.-ธ.ค. 2566 นี้
ขณะที่ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2566 จะเติบโตที่ระดับ 12-15% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 236,245 ล้านบาท โดยแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ในช่วงที่เกิดโควิด ซึ่งบริษัทมีการปรับปรุงการดำเนินงานในหลายส่วน รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้มากขึ้น และภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่อง
สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น CRC ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 30.38 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.60 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 3.78 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.51 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 50.95 บาท จากราคาต่ำสุด 49.00 บาท และราคาสูงสุด 54.00 บาท