พาราสาวะถี

ไม่ต้องกั๊กอะไรกันแล้วมาถึงนาทีนี้ จึงไม่แปลกใจที่จะได้ยินพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. ยืนยันจากปากว่า “เดี๋ยวก็ต้องชวน” เมื่อถูกถามว่าเพื่อไทยส่งเทียบเชิญร่วมรัฐบาลหรือยัง


ไม่ต้องกั๊กอะไรกันแล้วมาถึงนาทีนี้ จึงไม่แปลกใจที่จะได้ยินพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. ยืนยันจากปากว่า “เดี๋ยวก็ต้องชวน” เมื่อถูกถามว่าเพื่อไทยส่งเทียบเชิญร่วมรัฐบาลหรือยัง หากเป็นไปตามสมการนี้ จะทำให้เสียงตั้งรัฐบาลที่ตั้งต้นไว้ 212 เสียง ได้เพิ่มจากพรรคสืบทอดอำนาจ 40 เสียง ก็จะเป็น 252 เสียงถือว่ามีเสียงข้างมากในสภา ที่จะขาดไม่ได้ในการเข้าร่วมขบวนแห่งอำนาจเที่ยวนี้คือ ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง และประชาชาติ 9 เสียง ถ้าจบตรงนี้รัฐบาลผสมจะมี 271 เสียง

หากยังไม่พอเพื่อให้รัฐบาลมีเสถียรภาพในแง่ของคะแนนเสียง ชวนประชาธิปัตย์ 25 เสียงมารวม ชาติพัฒนากล้าที่แต่งตัวรอตั้งแต่รอบก้าวไกลเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล 2 เสียง เพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง และพรรค 1 เสียงอีก 7 พรรค ทำให้เสียงซีกรัฐบาลมีทั้งหมด 307 เสียง ซึ่งก็ถือว่ามั่นคงแน่นอนในแง่ของเสียงในสภาผู้แทนราษฎร และการขาดเสียงโหวตเพื่อให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทยอย่าง เศรษฐา ทวีสิน สมหวัง จำนวน 68 เสียง เมื่อมีพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.เข้าร่วมจึงไม่น่าจะใช่งานยากอีกต่อไป

สแกนเสียงกันแบบนี้ก็จะทำให้ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านร่วมกับรวมไทยสร้างชาติ และไทยสร้างไทย แต่โจทย์ใหญ่จะเกิดขึ้นเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตกับเพื่อไทยทันที ไหนบอกว่าไม่มีเราและไม่มีลุง ซึ่งเราก็มีโอกาสที่จะได้ฟังคำอธิบายเหมือนกรณี “ไล่หนูตีงูเห่า” เป็นเพียงแค่เทคนิคการหาเสียงเพื่อไทยไม่เคยคิดว่าเป็นศัตรูกับใคร กรณีของพี่ใหญ่แก๊ง 3 ป.ก็เช่นกัน ภาพอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภายืนยันชัด ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรัฐประหาร เพราะลุงคนที่ประกาศวางมือไปแล้วยกมือยิ้มแป้นว่าข้าทำแต่เพียงผู้เดียว

คำแก้ตัวทางการเมืองคงไม่มีใครจับได้ไล่ทันนักเลือกตั้งแน่ แต่สิ่งที่ประชาชนหรือแม้แต่ สส.ภายในพรรคเพื่อไทยเองไม่ไว้วางใจคือ เมื่อรวมเสียงได้ตามที่วางเป้าหมายไว้แล้ว ไม่ใช่จะทำตัวเป็นแค่นั่งร้านแล้วยกตำแหน่งผู้นำประเทศให้กับพรรคอันดับ 3 และ 4 ไปเสียฉิบ ตรงนี้ต้องประเมินท่าทีของพวกลากตั้งไปด้วย เห็นได้จากขาประจำหน้าเดิมที่เริ่มโจมตีเศรษฐาต่าง ๆ นานา ล่าสุด ไม่หนีจากที่คาดประเด็นแก้รัฐธรรมนูญก็ถูกยกมาอ้างเพื่อที่จะสกัดกั้นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนายใหญ่

หากเป็นเช่นนั้นจริง ถามว่าคนแดนไกลพอใจเพียงแค่ที่จะได้เป็นผู้กุมความได้เปรียบในการเจรจาต่อรองคุมกระทรวงเศรษฐกิจ ดูแลกระทรวงที่สำคัญอย่างนั้นหรือ หากสามารถรุกคืบได้ขนาดนี้ขั้นตอนเจรจาแบ่งเก้าอี้คงไม่หมูอย่างที่คิด เรื่องนี้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ สมศักดิ์ เทพสุทิน น่าจะอธิบายให้นายได้เข้าใจถ่องแท้ เพราะเจอกับตัวเองมาเต็ม ๆ หักดิบกันซึ่งหน้าหลังจากที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ผ่านการโหวตเลือกให้เป็นนายกฯ เรียบร้อยแล้ว

ปมที่ทำให้ สส.ของเพื่อไทยคิดหนัก และต้องการได้รับความยืนยันจากแกนนำของพรรคที่ไปเจรจาตั้งรัฐบาลคือ การเสนอชื่อนายกฯ ต้องเป็นคนของพรรคเท่านั้น หากหลุดไปจากนี้เท่ากับเป็นการสมคบคิด ไม่ว่าจะสามารถเข้าสู่อำนาจได้ดูแลกระทรวงเกรดเอขนาดไหนก็ตาม ยามเลือกตั้งจะเป็นงานยากสำหรับคนในพื้นที่ มีโอกาสที่จะเจริญรอยตามประชาธิปัตย์เอาง่าย ๆ นั่นหมายความว่า จะต้องไปลุ้นกันในการโหวตนายกฯ หนที่ 3 เศรษฐาจะถึงฝั่งฝันหรือไม่

ความจริงอาจไม่ต้องรอถึงกระบวนการโหวต ถ้าท่าทีของ สว.ลากตั้งไม่ใช่เฉพาะขาประจำ พากันพร้อมใจแสดงอาการรังเกียจเศรษฐา เท่ากับว่าเก้าอี้นายกฯ เป็นหวยล็อก อนุทิน ชาญวีรกูล ก็ต้องหลบไป หลีกทางให้ผู้ใช้ใจบันดาลแรงแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น บรรลัยไม่ว่าขอให้ข้าได้เป็นใหญ่ ถูกใจขบวนการสืบทอดอำนาจก็พอแล้ว ใครไม่พอใจจะประท้วง ชุมนุมขับไล่ค่อยไปว่ากัน เห็นการแสดงออกของบางกลุ่มเคลื่อนไหวที่ไปป่วนพรรคเพื่อไทยแล้ว ท่วงทำนองอย่างนี้จะหมดความชอบธรรมก่อนที่จะไปเรียกร้องความเป็นธรรม

สถานการณ์กลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองจากการประเมินของแกนนำเพื่อไทย เวลานี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานหากพรรคยังเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล นายกฯ เป็นคนของตัวเอง แรงกระเพื่อมจะมีไม่มากนัก เนื่องจากบรรดากองเชียร์ที่มีอีกจำนวนไม่น้อย ยังรอคอยที่จะเห็นพรรคนายใหญ่ได้บริหารประเทศ เหมือนที่ สมบัติ บุญงามอนงค์ ประกาศยุติม็อบไว้ก่อนนั่นแหละ รอดูว่าพรรคอันดับสองเมื่อถือครองอำนาจแล้วจะสามารถกำราบเครือข่ายขบวนการสืบทอดอำนาจหรือพวกขั้วเดิมได้หรือไม่

จุดร่วมที่จะทำให้ 3 พรรคแกนนำหลักตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้ เดินไปด้วยกันได้โดยไม่เตะตัดขากันเองคือ การก้าวข้ามความขัดแย้ง เมื่อเป็นเช่นนี้จึงอยู่ที่การจัดวางตำแหน่งแห่งหน หลังจากที่ได้ตัวนายกฯ ที่ต้องเป็นคนของเพื่อไทยไปแล้ว เสี่ยหนูและลูกพรรคคงจะขอกลับไปดูแลงานที่กระทรวงเดิมโดยเฉพาะสาธารณสุข ซึ่งมีปมที่ต้องไปสะสางให้เรียบร้อยคือกฎหมายกัญชา ส่วนคมนาคมต้องรอดูชะตากรรมของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ หากไม่รอดหรือยังคาราคาซัง เพื่อไทยก็จะฮุบไว้ดูเอง แล้วให้ภูมิใจไทยส่งคนมาเป็นรัฐมนตรีช่วยแทน

ขณะที่พี่ใหญ่แก๊ง 3 ป. ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงแรงปะทะว่าด้วยไม่มีลุง ก็จะไม่รับเก้าอี้ในรัฐบาล แต่จะมีการแต่งตั้งให้เป็นผู้ขับเคลื่อนงานด้านการสร้างความสามัคคีของคนในชาติ อย่างน้อยก็เพื่อให้เห็นผลงาน ถ้าทำสำเร็จการจะกลับไปรับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีควบว่าการกระทรวงกลาโหมก็ถือว่าไม่สายเกินไป อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากทีมกุนซือของพี่ใหญ่ไม่อยากกลับไปดูงานแบบเดิม อาจขอไปยิ่งใหญ่ที่มหาดไทย พ่วงด้วยการกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อแล้ว

พรรคที่ถูกคาดหมายว่าจะได้ร่วมรัฐบาล แต่ยังติดขัดว่าด้วยการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดใหม่อย่างประชาธิปัตย์ ถ้ายังยืดเยื้ออยู่แบบนี้ ท้ายที่สุดก็ต้องอาศัยข้อบังคับพรรคที่รักษาการกรรมการบริหารและ สส.ของพรรคจะร่วมกันตัดสินใจ ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการจะสร้างวาทกรรมเพื่อร่วมงานกับเพื่อไทยที่เป็นคู่แค้นกันมาโดยตลอด อย่างที่บางคนในพรรคบอกเวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน คนส่วนใหญ่ในพรรคก็เปลี่ยนไปแล้ว แม้จะมีส่วนน้อยที่เสียงดัง แต่สุดท้ายก็ต้องเลือกระหว่างอยากจะเป็นฝ่ายค้านดักดานเหมือนเดิม หรือร่วมขบวนบริหารประเทศเพื่อสะสมกระสุนและหาทางฟื้นความนิยม

Back to top button