แห่เข้ารพ.ใหญ่
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคง 3 วันดี 4 วันไข้!! เคลื่อนไหวแดนบวกสลับลบ เพราะยังอยู่ในช่วงเกิดสุญญากาศทางการเมือง
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังคง 3 วันดี 4 วันไข้!! เคลื่อนไหวแดนบวกสลับลบ เพราะยังอยู่ในช่วงเกิดสุญญากาศทางการเมือง ประกอบกับนักลงทุนคงเกาะติดตามพัฒนาการเมืองที่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีจำนวนเสียงเข้ามาเติมให้พรรคร่วมรัฐบาลได้อีกหรือไม่? เพื่อจะทำให้ทุกอย่างชัดเจนมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการเลือกนายกรัฐมนตรี การขับเคลื่อนเศรฐกิจในประเทศไทยเจ้าค่ะ
อย่างไรก็ตามแต่ระหว่างช่วงรอการเมืองนิ่ง เราจะเห็นดัชนีแกว่งตัวผันผวนจนกว่าความชัดเจนปรากฏ และนักลงทุนก็ยังคงเก็งกำไรในหุ้นรายตัวเข้าพอร์ต อย่างเช่นวานนี้มีการเก็งกำไรในหุ้นที่งบการเงินไตรมาส 2/66 ออกมาสวยตามคาด หรือดีกว่าคาดนั้นเอง โดยเฉพาะกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นทั่วหน้า รวมถึงรายตัวที่งบเลิศเข้ามาผลักดัน SET ปรับตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 1,533.41 จุด บวกไป 5.11 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.79 หมื่นล้านบาทพะยะค่ะ
สำหรับแรงเก็งกำไรเข้ามาหุ้นรพ.อย่าง BH จนทำให้ราคาเปิดแก๊ปขึ้นมาปิดที่ระดับ 246 บาท บวกไป 17 บาท หรือขึ้นไป 7.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.94 พันล้านบาท เดี๊ยนพูดได้คำเดียวว่า กำไรไตรมาส 2/66 ดีเกินคาดแม้อยู่ในช่วงโลว์ซีซั่นก็ตาม แถมใจป้ำมีการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 1.35 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 24 ส.ค. นี้ มิหนำซ้ำหากดูบทวิเคราะห์ยังมองว่าครึ่งปีหลังกำไรดีขึ้นเลยเจ้าคะ
เช่นเดียวกับรายของ BDMS ราคาหุ้นกับดี๊ด๊าวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 29.25 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.65 พันล้านบาท นับว่ายังเป็นตัวโดดเด่นในกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์จากผู้ป่วยต่างชาติ จนทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่านักลงทุนมองข้ามช็อตไปว่าผลประกอบการไตรมาส 3/66 จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง ที่สำคัญเข้าช่วงไฮซีซั่นเข้ามาสนับสนุนอีกด้วย ดังนั้นเมื่อราคาหุ้นกลับมาเบรกในราคา 29 บาทได้ลุ้นไปทดสอบแนวต้าน 30-30.75 บาทเลยจ้า
เหมือนกับในรายของ BCH ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรอบใหม่ชัดเจนมาปิดที่ระดับ 18.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.66% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 540 ล้านบาท ก็เชื่อว่ากำไรจะแข็งแกร่งขึ้นในครึ่งปีหลังจากโรคตามฤดูกาล และรับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากค่าเหมาจ่ายรายหัวที่ปรับขึ้นของ SSO ดังนั้น “โมนิก้า” เชื่อว่ามีโอกาสมองเห็นภาพเดิม ๆ ว่าราคาหุ้นจะวิ่งขึ้นไปทดสอบยอดแรกที่บริเวณ 19 บาท ถัดจากนั้นก็เป็นยอดสองที่บริเวณ 19.60 บาท เพราะสถานการณ์มันทำให้เชื่อเช่นนั้นจริง ๆ จ้า
เมาท์ต่อไปในหุ้นของ JMT งบฯ ไตรมาส 2/66 ทำเซอร์ไพรส์กำไร 551 ล้านบาท นิวไฮรายไตรมาสด้วยยอดจัดเก็บหนี้ได้มากขึ้น พร้อมใจดีจ่ายปันผลเป็นเงินสดอัตราหุ้นละ 0.34 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 24 ส.ค.นี้ ดังให้ราคาหุ้นคึกคักขึ้นไปปิดที่ระดับ 40 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.30 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองไกลพุ่งเป้าแนวต้านที่ระดับ 43.25 บาท แต่ให้ใจชื่นดูเป้าหมายที่โบรกฯ ให้ไว้ 66 บาทเลยเจ้าค่ะ
ส่วนในรายของ TOP ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up ล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 54.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3.81% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.25 พันล้านบาท เบื้องต้นรับพลังบวกจากค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ผลประกอบการไตรมาส 3/2566 ฟื้นตัวชัดเจน ผนวกกับโบรกเกอร์ออกมาประสานเสียงแนะนำ “ซื้อ” พร้อมให้ราคาเป้าสูงสุด 62 บาท งานนี้ “โมนิก้า” มองว่าถ้าเข้าตอนนี้ก็ถือว่าไม่ตกขบวนเพคะ
ปิดท้ายกันที่หุ้น XPG ราคาเกิดการเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.26 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 6.78% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 198 ล้านบาท หลังจากประกาศงบไตรมาส 2/2566 ออกมาเลิศพลิกกำไร 42 ล้านบาท หลักจากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมา “โมนิก้า” เป็นปลื้มไปด้วย ยิ่งมาดูสัญญาณเทคนิคก็แอบยิ้มเบา ๆ ว่ารอบนี้หากผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน จะมีโอกาสได้เห็นทดสอบบริเวณต้าน 1.40 บาทเลยนะอิอิ!!!