วอลุ่มเริ่มแน่น!

เมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนเล็กน้อย แม้มีพัฒนาการทางการเมืองแต่ก็ถือว่ายังไม่ชัดเจนเท่าที่ควรว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ รวมทั้งในส่วนของเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลให้เฟด อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งหรือคงดอกเบี้ยระยะเวลายาวนาน แต่โมนิก้าเริ่มเห็นสัญญาณอะไรบางอย่าง คือวอลุ่มที่เข้ามาเกิน 6 หมื่นล้านบาท ผนวกกับหุ้นบิ๊กแคปที่กลุ่มสถาบันถือปรับตัวขึ้นแรงผิดปกตินะคะ

ด้วยเหตุนี้จึงมีความหวังขึ้นว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะกลับไปทดสอบบริเวณ 1,540-1,550 จุด มีเค้าลางอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นด่านแรกที่ต้องฝ่าฟัน หลังจาก SET เมื่อวันศุกร์ขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,535.16 ล้านบาท บวกไป 1.75 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.18 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถึงพยายามให้นักเล่นอย่าหยุดนิ่งอยู่กับที่เป็นอันขาด และต้องคิดไปพร้อมกับการเคลื่อนตัวของดัชนีในแต่ละวันเพราะมันไม่แน่นอนนะคะ

เช่นเดียวกับรายของ ICHI หลังโชว์กำไรไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 256 ล้านบาท ทำสถิติใหม่สูงสุดต่อเนื่องในรอบ 7 ปี ด้วยยอดขายเครื่องดื่มในประเทศที่เพิ่มขึ้น รับอากาศมันร้อนอบอ้าว รวมถึงส่งออกที่ดีขึ้น และการรับจ้างผลิตสินค้าเพิ่ม  ขณะที่ตลอดทั้งปี 66 มีการประเมินว่าจะเติบโตโดดเด่น โบรกฯ คาดกำไรเฉียด 900 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่าเรื่องเหล่านี้ช่วยขับเคลื่อนให้ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 264.10 ล้านบาทเท่าที่เห็นเพคะ

เหมือนกับรายของ MINT เลิศมาก ๆ แม่! ฟาดกำไรไตรมาส 2/66 เติบโตเกินเท่าตัว ด้วยธุรกิจโรงแรมสู่ภาวะปกตินักท่องเที่ยวเข้าพักเต็มโดยเฉพาะฟากฝั่งยุโรป และธุรกิจอาหารเติบโตต่อเนื่อง หนุนงวด 6 เดือนแรก “เทิร์นอะราวด์” ผลดังกล่าวทำให้ราคาตอบรับทันควัน วิ่งทะยานทะลุเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นมาปิดที่ระดับ 33 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.13% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 710 ล้านบาท “โมนิก้า” แอบเห็นสถานีแนวต้านถัดไป 34-34.75 บาท เลยเจ้าค่ะอิอิ!!

ส่วนในรายของ BA อยากไปแตะขอบฟ้าให้รู้แล้วรู้รอด เมื่อไตรมาส 2/66 พลิกกำไร 670 ล้านบาท พร้อมกับวอลุ่มที่เพิ่มขึ้นเข้ามาสนับสนุน ส่งผลให้ราคาหุ้นวิ่งปู้ดป้าดขึ้นไปปิดที่ระดับ 16 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 5.96% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 193 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่ายังเป็นจังหวะน่าเข้าไปเก็บแบบไหลตามน้ำสำหรับพวกเดย์เทรด เพราะหุ้นมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ High เดิมที่ระดับ 16.20 บาท แล้วขอพักตัวก่อนจากแก๊ปที่แคบเจ้าค่ะ

ขณะเดียวกันในรายของ TKN หัวใจพองโตทันทีเมื่อกำไรไตรมาส 2/66 โตกระฉูดกว่า 1 เท่าตัว พ่วงแจกปันผลในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD 24 ส.ค.นี้! เลยไม่แปลกใจที่เห็นราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปปิดที่ระดับ 12.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7.02% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 633 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นกรอบของการเข้าทำกำไรสั้น ๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ยืดยาว ถ้าชอบเคาะขวาลุ้นให้ผ่านแนวต้าน 12.40-12.50 บาท แล้วกันนะ

คล้ายคลึงกับกรณีของ  PLANB ทะยานขึ้นมาปิดที่ 9 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 356 ล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า หุ้นจะวิ่งขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 9.25-9.85 บาทอีกครั้ง โดยเหตุผลที่สนับสนุนให้เป็นเช่นนั้นก็มาจากหุ้นค่อย ๆ ไล่ขึ้นมา สัญญาณเทคนิคทุกตัวผงกหัวขึ้น แถมบรรยากาศยังเป็นใจให้อีกต่างหากโดยเฉพาะกำไรไตรมาส 2/66 โต 35% น้องโมถึงเกิดอารมณ์คล้อยตามอย่างง่ายดายเจ้าค่ะ

ปิดท้ายกับหุ้น TTB ราคาหุ้นเปิดแก๊ปจนขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.75 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 2.34% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.31 พันล้านบาท เรื่องเดียวที่ทำให้วิ่ง ก็ได้เข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Standard เพราะในอดีตราคาหุ้นมักปรับตัวขึ้นโดยเฉลี่ย +3.2% ถึง +5.3% ในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังการประกาศ  “โมนิก้า” แนะเชิงกลยุทธ์หาจังหวะในการล็อกกำไรในช่วงราคาหุ้นปรับขึ้นเนื่องจากขึ้นเยอะแล้วจนเข้าเขตซื้อมากเกินไปเจ้าค่ะ