รวมหุ้นฟอร์มแรง
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในลู่ทางที่สดใสไม่เปลี่ยนแปลง เพราะปัญหาหลายอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจ
สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในลู่ทางที่สดใสไม่เปลี่ยนแปลง เพราะปัญหาหลายอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจในการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ แต่ในขณะเดียวกันก็มีแรงขายทำกำไรออกมาเป็นระลอกนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นไทยในยามที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง จึงไม่วอรี่กับสถานการณ์ต่อจากนี้เป็นเช่นไร เพราะของมันแบเบอร์ให้เห็นเต็มสองลูกตาว่า มันต้องดีขึ้นเจ้าค่ะ
ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,549.01 จุด บวกไป 3.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.58 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ช่วงเช้าซวนเซเหมือนจะไปต่อไม่ไหว แต่สุดท้ายก็ยืนปิดเขียวอ่อน ๆ ตามท้องเรื่อง “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนตัมที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะตลาดหุ้นไทยได้ผ่านการทดสอบแรงขายตลอดเส้นทาง จึงไม่น่าจะมีปรากฏการณ์ขายหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยเหมือนเมื่อก่อน และเป็นจังหวะที่ไหลตามน้ำในทันทีเจ้าค่ะ
เหมือนกับการขึ้นรอบใหม่ของหุ้น JMART ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการคัมแบ็กที่มาพร้อมกับความเชื่อที่ว่า ผลงานต่อจากนี้จะดีขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งจะดันให้ราคาหุ้นไต่เพดานบินสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 21.30 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.24 พันล้านบาท มันไม่มีอะไรต้องกลัวเลยจริง ๆ..คุณ ๆ ท่าน ๆ เชื่อแบบนี้อ๊ะป่าว?
เช่นเดียวกับการขยับตัวของหุ้นสุดเลิฟอย่าง EA ยังเป็นช็อตเด็ดที่เดี๊ยนชอบเม้าท์ถึงประจำ เพราะแค่มองดูจากผลงานที่โตต่อเนื่อง ควบคู่กับการมีพาร์ตเนอร์เบอร์ต้นของโลกเข้ามาร่วมต่อยอดความสำเร็จ ทั้งในส่วนที่เป็น “โรงแบต” กับ “หัวชาร์จ” ก็มาจากมันสมองอันยอดเยี่ยมของคุณพี่ “สมโภชน์” และ “อมร” แบบนี้ จึงต้องชมมากเป็นพิเศษ เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 61บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.48 พันล้านบาท ไม่ได้มาเล่น ๆ นะจ๊ะ
อีกรายที่เดี๊ยนชื่นชอบเป็นเวลานาน คงต้องมองไปยังเจ้าพ่อทวงหนี้เบอร์ 1 ของประเทศไทยอย่าง JMT ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำเงินเสมอต้นเสมอปลาย หรือเปรียบเทียบง่ายก็คือ “บ่อน้ำมัน” เดี๊ยนเลยไม่คาใจกับการขึ้นแต่ละรอบของหุ้น และทำให้การยืนปิดที่ระดับ 45.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าลุยต่อเหลือเกินพะย่ะค่ะ
ส่วนหุ้นฟอร์มแกร่งที่ “ไปต่อไม่รอแล้วนะ” ต้องโฟกัสไปยัง TTB เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นต่อเนื่องแบบไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น เพราะถือว่า ผลงานแต่ละไตรมาสของตัวเองดีเสมอต้นเสมอปลาย วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.80 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 678 ล้านบาทแบบชิล ๆ ผนวกกับหุ้นเทรดบน PE 12 เท่า จึงกลายเป็นช็อตที่มีลุ้นเล่นต่ออีกหลายยกเจ้าค่ะ
เม้าท์ถึงหุ้นใหญ่พอหอมปากหอมคอ ก็ถึงเวลาของหุ้นเล็กพริกขี้หนูเสียที และตัวที่เดี๊ยนสนใจมากเป็นพิเศษก็คือ หุ้นน้ำมะพร้าว PLUS ซึ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.65 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 7.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 86 ล้านบาท โดยที่กราฟแท่งเทียน และสัญญาณเทคนิคตั้งหัวขึ้นแบบนี้ มันกลายเป็นช็อตที่เหมาะสำหรับพวกขาลุยอย่างแท้ทรู เพราะเที่ยวก่อนเคยวิ่งขึ้นไปถึง 10 บาทน่ะซี
เช่นเดียวกับสถานการณ์ของหุ้น BYD ก็พุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 8 บาท บวกไป 1.45 บาท หรือขึ้นไป 22.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 382 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการเข้ามาเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอยในช่วงฟ้าเปิด เพราะสตอรี่ที่ถูกนำมาเล่นทุกครั้งก็เป็นเรื่องของการ “เทิร์นอะราวด์” แต่จนป่านนี้ก็ยังทำไม่บรรลุตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้การเล่นในแต่ละรอบเป็นเรื่องของเกมหุ้นเป็นส่วนใหญ่นะจะบอกให้
ตบท้ายกันที่หุ้น DOD เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาครั้งแรกในรอบหลายเดือน มันทำให้เดี๊ยนฉุกคิดขึ้นมาทันทีว่า น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรสำคัญบางอย่างแน่ ๆ หุ้นถึงไต่เพดานขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 3.90 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35 ล้านบาท งานนี้จึงต้องตามไปดูกันเอาเอง และหวังในใจว่า คงไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังนะคุณพี่