ขายเพื่อขึ้นต่อ
สาเหตุที่ “โมนิก้า” จั่วหัวเรื่องแบบนี้เพราะต้องการย้ำหัวหมุดอีกครั้งว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยน่าจะดีแบบนี้ไปอีกนาน
สาเหตุที่ “โมนิก้า” จั่วหัวเรื่องแบบนี้เพราะต้องการย้ำหัวหมุดอีกครั้งว่า สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยน่าจะดีแบบนี้ไปอีกนาน เพราะความกังวลเกี่ยวกับเรื่อง “การเมือง เศรษฐกิจ สังคม” มลายหายไปชั่วคราว และถูกแทนที่ด้วยความเชื่อมั่นในมิติต่าง ๆ อย่างล้นหลาม จึงกลายเป็นจังหวะที่นักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ กระโจนเข้ามาตะลุมบอนอย่างสนุกสนาน เพราะเชื่อว่า หุ้นหลายตัวยังมีอัพไซด์สูงไงล่ะคะ
ถ้าจะให้เม้าท์ในสไตล์พวกโลกสวย ก็ต้องเม้าท์ว่า “ตัวไหนก็รวย” เพราะมูลค่าการซื้อขายต่อวันขยับขึ้นไปอยู่ในระดับ 7 หมื่นล้าน ขณะที่หลายเดือนก่อนหน้านี้ซื้อขายวันละ 4 หมื่นล้านเท่านั้น “โมนิก้า” ถึงมองเป็นภาพบรรยากาศที่แสนชื่นมื่นสำหรับคนที่มีหุ้นอยู่ในพอร์ต และในห้วงเวลาเดียวกันก็เปิดโอกาสให้พวกเดย์เทรดเข้ามาลุยแบบสุดซอย จึงมีลุ้นเห็นดัชนีขึ้นไปยืนที่บริเวณ 1,600 จุดในเร็ววันพะย่ะค่ะ
งานนี้พูดได้ทันทีว่า “สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น” เพราะการที่ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดในระดับ 1,557.41 จุด บวกไป 8.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.85 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพการลงทุนที่ถูกใจคนตลาดหุ้น แต่สำหรับพวก “บ้าการเมือง”..อุ๊ย..”คอการเมือง” อาจเจ็บกระดองใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะคนเสื้อแดงด้วยกันโดนต้มจนเปื่อยยุ่ย และกลายเป็นดราม่าที่เม้าท์กันไม่จบสักทีแบบนี้..เดี๊ยนบอกได้แค่ว่า การเมืองก็เหมือนละครน้ำเน่านะตัวเอง
เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่า ผู้กำกับบทละครแต่ละตัวเป็นใคร? และเขาทำแบบนี้เพื่อใครบางคนหรือเปล่า? จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มีการกลืนเสลดที่ถุยลงพื้น แล้วเอามากลืนลงคอใหม่อีกรอบ ส่วนบทตัวร้ายที่ไม่มีใครคบ จึงตกไปอยู่ที่เด็กดื้อแบบเต็มประตู แถมวีรกรรมที่สร้างไว้ในแต่ละเรื่องก็เหลือขอจริง ๆ เพราะชี้ให้เห็นว่า “ไม่มีวุฒิภาวะ” และ “ไม่แม่นกฎหมาย” เดี๊ยนเลยเลือกที่จะเม้าท์เรื่องตลาดหุ้นเป็นประเด็นสำคัญจ้า
โดยเฉพาะหุ้นลังกระดาษ SCGP ที่คัมแบ็กครั้งแรกในรอบหลายเดือน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 39 จุด บวกไป 2.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท ท่ามกลาง PE 31 เท่าในช่วงที่นักลงทุนมีความฮึกเหิมแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นช็อตของการ follow buy เหมือนกับหุ้นบลูชิพตัวอื่น ๆ และคาดหวังที่จะได้เห็นการยกฐานสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่มีข้อแม้ว่า กำไรต้องมาตามนัดนะตัวเอง
คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น CBG ก็มีประเด็นที่คล้ายกับรายข้างต้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนประเมินการขึ้นมาปิดที่ระดับ 85.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 709 ล้านบาท โดยที่ยอดเดิมครั้งก่อนเล่นกันที่บริเวณ 100 บาท มันน่าเล่นขนาดไหน? และกลายเป็นช็อตที่น่าตามไปดูขนาดไหน? โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่นักลงทุนสถาบันกลับมาลุยซื้อหุ้นเต็มตัวอีกครั้งนะเจ้านาย!
ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้นท้องฟ้า SKY ขึ้นมาทันที เพราะกลายเป็นเสือซุ่มที่น่าตามไปดูแบบเกาะติดขอบเวที เพราะเมื่อแงะแผนธุรกิจออกมาดูจะเห็นว่า ปีหน้าจะโตทุกมิติ และการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดในระดับ 33.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 288 ล้านบาท ก็เป็นการวิ่งขึ้นมารอข่าวจริง จึงเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการโหนกระแสอย่างแน่นอน..ไม่เชื่อถาม “เฮีย ค.” ดูก็ได้..อิอิอิ
ในเมื่อมาแนวไอทีทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น GABLE เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่ไหลกลับเข้ามาเป็นระลอก จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.96 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 7.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท ก็เป็นจังหวะที่เหมาะต่อการเล่นตามน้ำอีกเช่นกัน แถมเมื่อดูจาราคาไอพีโอที่ขายในระดับ 6.39 บาท โดยมีลุ้นปิดดีลควบรวมกิจการ 1-2 รายแบบนี้ มันเป็นอะไรที่น่าสนใจสำหรับสายบู๊อย่างแท้ทรูเจ้าค่ะ
เช่นเดียวกับการคัมแบ็กของหุ้นความสวยความงามอย่าง MASTER ก็เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นสุด ๆ เพราะเที่ยวก่อนโดนถล่มขายลงมาหนัก แต่เที่ยวนี้เด้งกลับขึ้นมาได้ใหม่ จนหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 69.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 162 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นวงรอบการเล่นมากกว่าเรื่องอื่น ๆ เพราะของมันเห็นทนโท่ว่า ผลงานปีนี้มาดีแน่ ๆ จึงเชื่อได้ว่า รายได้และกำไรก็โตได้อีกไม่ใช่เหรอ?..หุหุหุ
ป.ล.หากเดาไม่ผิดวันนี้จะมีแรงขายเพื่อทดสอบแรงซื้อยังเหนียวแน่นจริงไหม? ซึ่งเป็นจังหวะซื้อสวนเพื่อเล่นต่อสัปดาห์หน้า..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ