RABBIT กระต่ายตื่นตูม.!?
น่าแปลกประหลาด..!! ที่ช่วงนี้หุ้น RABBIT ในกลุ่มบีทีเอส ซึ่งแปลงร่างมาจาก บมจ.ยู ซิตี้ หรือ U ก็กระโดดโลดเต้นเป็นกระต่ายตื่นตูม..!?
น่าแปลกประหลาด..!! ที่ช่วงนี้หุ้นบริษัท แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RABBIT ในกลุ่มบีทีเอส ซึ่งแปลงร่างมาจากบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U ก็กระโดดโลดเต้นเป็นกระต่ายตื่นตูม..!?
จากเดิมเป็นหุ้นที่ไม่มีใครเหลียวแล ดูได้จากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยวันหนึ่งไม่ถึง 10 ล้านบาท ทว่าตั้งแต่ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว ต่อเนื่องมาต้นสัปดาห์นี้ มูลค่าการซื้อขายทะลักกว่าร้อยล้านบาทหน้าตาเฉย โดยเฉพาะเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา กระโดดไปกว่า 356.76 ล้านบาทเลยทีเดียว
ส่วนราคาหุ้นก็ตีตั๋วรถด่วนขบวนพิเศษ…โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. 2566 วิ่งชนซิลลิ่งหน้าตาเฉย เอาเป็นว่า ในรอบ 1 สัปดาห์ ราคาปรับขึ้นไปแล้วกว่า 52% ส่วนรอบ 1 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 50% และรอบ 3 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 25%
จะว่าเป็นเพราะผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2566 ออกมาดี ก็ไม่น่าจะใช่…เพราะไม่ใช่แค่กำไรลดลงนะ แต่ถึงขั้นพลิกมาขาดทุนกว่า 1,811.71 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 518.12 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ พลิกมาขาดทุนสุทธิ 2,168.89 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 435.74 ล้านบาท
อ้าว…แล้วหุ้น RABBIT เกิดอาการตื่นตูมอะไรกันล่ะเนี่ย..?
เท่าที่ลองสแกนดู น่าจะเกิดจาก 2 ปัจจัย…ปัจจัยแรก การกลับมาของหุ้นบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER ซึ่ง RABBIT เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 3 ในสัดส่วน 5.92% อ๊ะป่าว..?
จากราคาหุ้น SINGER ในช่วงที่ผ่านมาวิ่งปรู๊ดปร๊าดในรอบ 1 สัปดาห์ ราคาปรับขึ้นไป 12.75% รอบ 1 เดือน ราคาปรับขึ้นไป 40.24% และรอบ 3 เดือน ราคาปรับขึ้น 0.88%
ด้วยสตอรี่ที่ว่า SINGER พ้นวิกฤต…ออกจากห้องไอซียูแล้ว (จากงบงวดไตรมาส 2/2566 ที่พลิกมาขาดทุนสุทธิ 2,395 ล้านบาท ซึ่งถูกมองว่าเป็นจุดต่ำสุดแล้ว) และกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นเพื่อกลับสู่โหมดการเติบโตต่อไป…ก็จะทำให้ RABBIT ซึ่งเงินไปจมอยู่กับ SINGER กว่า 7,155.14 ล้านบาท จะได้ผลดีไปด้วย
ส่วนที่มาของเงินจม…ต้องเท้าความไปช่วงปลายปี 2564 เมื่อครั้งที่ RABBIT ยังอยู่ในร่าง U ตอนนั้นได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน SINGER จำนวนไม่เกิน 197.10 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 36.3005 บาท คิดเป็นมูลค่า 7,155.14 ล้านบาท ส่งผลให้ U ถือหุ้น SINGER ในสัดส่วน 24.90%
เอ๊ะ…ไหงปิดสมุดครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2566 เหลือถือแค่ 49.05 ล้านหุ้นเท่านั้นล่ะ..?
ว่าแต่ RABBIT ของ “เจ้าสัวน้อยกวิน กาญจนพาสน์” ไปแอบขายหุ้นตอนไหนเนี่ย..? อยากรู้จัง…แต่จากราคาหุ้น SINGER ที่ก่อนหน้านี้ไหลรูดไม่มีเบรก…เกรงว่าจะขาดทุนยับน่ะสิ
ที่แน่ ๆ ถ้าดูจากเงินลงทุนก้อนโตที่ยังจมปลักอยู่กับ SINGER…คงอีกยาวไกลกว่าจะคืนทุน…ไอ้ที่เห็นราคาหุ้น RABBIT กระโดดโลดเต้นขึ้นมาช่วงนี้ น่าจะแค่เซนติเมนต์ช่วงสั้น ๆ เท่านั้นอ๊ะป่าว..?
ส่วนอีกปัจจัย…น่าจะเกิดจากกระแสดิจิทัลวอลเล็ต หรือกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยล่ะมั้ง..? ที่พาให้หุ้นฟินเทคเกิดอาการฟินกันถ้วนหน้า…
แต่อย่าลืมนะว่า มันยังไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้นะ ตามไทม์ไลน์ของรัฐบาลเพื่อไทย จะได้ใช้เงินดิจิทัลกันต้องรอต้นปี 2567 โน่นแหละ…ฉะนั้น ที่เห็นหุ้นฟินเทคดี๊ด๊า แค่เซนติเมนต์ล้วน ๆ…
ดังนั้น ใครที่ตื่นตูมไปกับหุ้น RABBIT ช่วงนี้ ต้องเผื่อใจไว้หน่อย…ระวังจะไปนอนนับดาวบนยอดดอยไม่ทันรู้ตัว
แล้วจะมาร้องแรกแหกกระเชอภายหลังไม่ได้นะ…เพราะเราเตือนคุณแล้ว..!!
…อิ อิ อิ…