ปลุกผี?

ถามว่า “โมนิก้า” กังวลที่เห็นแรงขายถล่มใส่หุ้นไทยช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาขนาดไหน? ก็ขอตอบตามตรงว่า ไม่พันพรือ!


ถามว่า “โมนิก้า” กังวลที่เห็นแรงขายถล่มใส่หุ้นไทยช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาขนาดไหน? ก็ขอตอบตามตรงว่า ไม่พันพรือ! เพราะตลาดหุ้นไทยควรจะโดนทดสอบด้วยแรงขายหนัก ๆ สักทีสองที ต่อจากนั้นจะได้วิ่งขึ้นไปสร้างฐานใหม่ที่สูงกว่าเดิมอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันก็ทำให้ฐานแนวรับที่บริเวณ 1,550 จุดมั่นคงขึ้นเป็นกองแบบนี้ เดี๊ยนถึงไม่วอรี่อะไรทั้งสิ้นนะจะบอกให้

ฉะนั้นการที่ดัชนีแกว่งตัวตุปัดตุเป๋ตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 1,561.51 จุด ลบไป 4.43 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.87 หมื่นล้านบาท จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับการรอให้แรงขายสะเด็ดน้ำ ต่อจากนั้นจะเทคตัวขึ้นรอบใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นจังหวะที่เปิดโอกาสให้นักเล่นเข้ามาเก็งกำไรกันสุดเหวี่ยง โดยมีทั้งหุ้นพื้นฐานดี หุ้นเทิร์นอะราวด์ และหุ้นไร้พื้นฐาน เป็นตัวเลือก ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับเจ้ามือจะเลือกเล่นตัวไหนพะย่ะค่ะ

วันนี้เลยต้องเริ่มต้นด้วยการตะแบงของคนที่เป็นหัวเรือใหญ่ JKN ทำให้ผู้คนในตลาดหุ้นตกตะลึงไปตามกัน เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า การลงทุนในช่วงที่ผ่านมาผิดพลาดอย่างแรง และเป็นการสนอง need ของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงแผนการเงินที่ควรรัดกุมกว่านี้ มันเป็นเรื่องที่คุณน้องควรยอมรับกับสังคมตรง ๆ ไม่ใช่อ้างโน่น อ้างนี่ จนทำให้ผู้คนรู้สึกละเหี่ยใจนะตัวเอง

ประกอบกับผู้คนในตลาดหุ้นเพิ่งเจ็บตัวกับหุ้นกู้กันมาหยก ๆ ล่าสุดมาเจอเคสของ “เจ๊แอน” ซึ่งมีความสามารถในการชำระหนี้หุ้นกู้ได้แค่ 156 ล้านบาท จากมูลหนี้หุ้นกู้ที่มีมากถึง 600 ล้านบาท มองจากมุมไหน ด้านไหน เขาก็เรียกเคสแบบนี้ว่า “เบี้ยวหนี้” กันทั้งนั้น และผลดังกล่าวก็ทำให้นักเล่นขายหุ้นทิ้งตลอดทั้งวัน จนราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ 1.18 บาท ลบไป 0.52 บาท หรือลงไป 30.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 396 ล้านบาท พร้อมกับเสียงเม้าท์มอยว่า ไม่เห็นอนาคตเจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ CV ซึ่งพยายามประโคมข่าวถึงการมาของ “เฮียเอก” จะมาพลิกฟื้นบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ แต่เผอิญบรรดาขาลุยเพิ่งบาดเจ็บกับชื่อของนายคนนี้มาหยก ๆ จึงเหมือนเป็นรอยด่างของผู้ชายคนนี้ไปเสียแล้วแบบนี้ “โมนิก้า” ย่อมมองหุ้นตัวนี้เป็นของต้องห้ามสำหรับคนที่มือไม่ไวพอ เพราะพล็อตเรื่องการเพิ่มทุน การเอาธุรกิจใหม่มาใส่ เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจให้ทำกำไรอย่างบูรณาการ มันคล้ายคลึงกับเคสก่อนหน้านี้เหลือเกิน..ไม่เชื่อถาม เสี่ย อ. ดูสิจ๊ะ

ส่วนกรณีของหุ้น SABUY ก็เป็นหุ้นอีกตัวที่แมงลือเม้าท์เป็นระลอกในทำนองเกมหุ้นฉันท์ปรปักษ์ทำไปทำไม? เพราะทุกวันนี้ก็มีโจทย์รอเช็กบิลทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น ล้วนเป็นเรื่องของนิสัยส่วนตัวของผู้บริหารที่ชอบแนวฮาร์ดคอร์ บวกกับในบริษัทมีพวกซือแป๋คอยชี้ช่องให้ตลอดเวลา บรรดากูรูในแวดวงการเงินถึงชี้ให้ผู้เล่นไปดูบอร์ดแต่ละรายเคยสร้างวีรกรรมอะไรไว้บ้าง ต่อจากนั้นจะเข้าใจแนวทางการทำธุรกิจของหุ้นตัวนี้..อิอิอิ

สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น 7UP แบบไม่ลังเลใจ เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.53 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82 ล้านบาท ท่ามกลางบรรยากาศตลาดหุ้นแดงแป๊ดแบบนี้ มันทำให้เดี๊ยนนึกถึงเรื่องประปาหมู่บ้านที่เคยมีพวกแมงลือเคยเม้าท์กันพักใหญ่ และดูเหมือนข่าวเม้าท์ดังกล่าวจะถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง จึงมีแรงซื้ออัดเข้ามามากผิดปกติ..ส่วนข่าวลือจะ “จริง” หรือ “ไม่จริง” ก็ตามดูกันไปจ้า!

อีกรายที่ทำให้เดี๊ยนคันปาก และอยากจะรู้เหลือเกินว่า ทำได้เหรอ? คงต้องมองไปที่หุ้น ALPHAX ซึ่งสร้างสตอรี่เกี่ยวกับธุรกิจลีสซิ่งแบบจัดเต็ม และราคาหุ้นก็ตอบสนองกับข่าวเป็นอย่างดีเสียด้วย! เดี๊ยนจึงตั้งตารอดูผลงานหลังจากนี้จะเป็นเช่นไร เพราะในมุมของ “เกมหุ้น” ต้องถือว่า “สำเร็จ” แต่ในมุมของ “ผลงาน” ยังไม่แน่ชัดจะทำได้ตามที่ “โม้ไว้” ขนาดไหนนะตัวเอง!

ตบท้ายกันที่หุ้น KEX กันดีกว่า เพราะการขึ้นต่อเนื่องของหุ้นในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับนักเล่น แต่ถ้ามองในมุมของธุรกิจที่แข่งกันเผาเงินทิ้ง (คู่แข่งทำสงครามราคา) “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องที่น่าหวาดเสียวเหลือเกิน จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรมากไปกว่านี้ เพราะทุกคนเห็นกันมาแล้วว่า จากที่เคยกำไรเติบโต แต่ก็กลายเป็นกำไรลดเสียฉิบ ต่อจากนั้นก็ขาดทุนบานเบอะแบบนี้..มันไหวเหรอคุณแม๊!

Back to top button