ดัชนีย่อเพื่อขึ้นต่อ

หลังจากดัชนีหุ้นไทยปิดบวกมา 8 วันทำการแบบต่อเนื่องกัน (21-30 ส.ค. 66)

หลังจากนั้น ดัชนีได้ปิดตลาดในแดนลบมา 5 วันทำการต่อเนื่องเช่นกัน

ก่อนที่วานนี้จะปิดบวกเล็กน้อย 0.92 จุดมาอยู่ที่ 1,548.78 จุด

ส่วนมูลค่าการซื้อขาย กลับขึ้นมายืนเหนือ 5 หมื่นล้านบาทอีกครั้ง หลังจากวันก่อนหน้านี้ลงมาเหลือเพียง 4.2 หมื่นล้านบาท

ดัชนีที่ปรับลงน่าจะมาจากการปรับพอร์ตขายทำกำไรของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เพราะมีการเข้าไปไล่หุ้นมาตั้งแต่ดัชนีอยู่ระดับ 1,500 จุด บวก/ลบ จนขึ้นมาที่บริเวณ 1,570 จุด

แต่เมื่อเกิดความชัดเจนเรื่องจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ

จึงน่าจะขายทำกำไรมากกว่าที่จะขายทิ้ง

ส่วนนักลงทุนต่างประเทศ ยังมีทิศทางไม่ชัดเจนว่า จะซื้อยาว หรือยังขายต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้หรือไม่

เพราะแม้ปัจจัยภายในประเทศจะดีขึ้น

ทว่า ปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน ที่น่าจะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นทั่วโลก เอเชีย และไทย

เมื่อวานนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO

ออกข้อมูลผลสำรวจนักลงทุนทั้งรายย่อย สถาบัน ต่างประเทศ และโบรกเกอร์

ปรากฏว่าในกลุ่มของนักลงทุนรายย่อยอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรงอย่างมาก”

ส่วนกลุ่มสถาบัน (กองทุน) และต่างประเทศ อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง”

และกลุ่มโบรกเกอร์ออกมาในระดับ “ทรงตัว”

แต่หลัก ๆ แล้ว ดูท่าสถาบัน กับต่างชาติที่ผลสำรวจออกมาอยู่ในเกณฑ์ร้อนแรง น่าจะสะท้อนเกี่ยวกับความเชื่อมั่นที่จะเพิ่มพอร์ตการลงทุน

ผลสำรวจที่ว่านี้

อาจจะพอสะท้อน หรือเป็นคำตอบได้บ้างว่า น่าจะมีการเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยจากกลุ่มสถาบันและต่างชาติ

โดยเฉพาะในระยะถัดไป หรือการแถลงนโยบายของรัฐบาล

และน่าจะพอเป็นคำตอบได้ว่า ดัชนีที่ย่อตัวลงมาในช่วง 4-5 วันก่อนหน้านี้

น่าจะเป็นเพียงการขายทำกำไร หลังจากดัชนีวิ่งขึ้นจากบริเวณ 1,510 จุด แล้วมาชนแนวต้านที่ระดับ 1,570 จุด

ส่วนแนวรับถัดไป ในทางเทคนิคคือ 1,540 จุด

กลุ่มหุ้นที่เป็นเป้าหมายต่อการซื้อกลับ คือ กลุ่มธนาคาร และค้าปลีก รวมถึงท่องเที่ยว

และยังมีกลุ่มหุ้นที่รับนโยบายภาครัฐ เช่น กลุ่มดิจิทัล ที่จะรับเรื่องของ ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท

ส่วนกลุ่มที่มีคำแนะนำเลี่ยงไปในช่วงนี้คือ ไฟแนนซ์ จาก credit cost เร่งตัว รวมทั้งกังวลมาตรการพักชำระหนี้ของรัฐบาล ขณะที่หุ้นในกลุ่มหลายตัววิ่งขึ้นมาค่อนข้างเยอะแล้ว

โดยเฉพาะ “เงินติดล้อ” หรือ TIDLOR

และ MTC ที่ล่าสุดถูกปรับลดลงมาให้เล่นเพียง “เก็งกำไร”

ทิศทางนับจากนี้

นักลงทุนคงต้องรอการแถลงนโยบายของรัฐบาล และคงมาดูว่า นโยบายใดจะเริ่มตอนไหน และอย่างไร

ส่วนสัปดาห์หน้า หุ้นบิ๊กแคปหลายตัวจะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

น่าจะเป็นแรงกดดันดัชนีบ้าง

และอาจจะเป็นจังหวะต่อการเข้าสะสมได้นั่นแหละ