หุ้นเล็กก็เสียวได้

ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา “โมนิก้า” นั่งวิเคาราะห์ข้อมูลตลาดหุ้น พร้อมกับข้อมูลการเมือง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อมูลใดมีความเที่ยงตรงกว่ากัน..


ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา  “โมนิก้า” นั่งวิเคาราะห์ข้อมูลตลาดหุ้น พร้อมกับข้อมูลการเมือง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อมูลใดมีความเที่ยงตรงกว่ากัน..ในที่สุดก็ได้รับคำตอบอย่างเป็นทางการว่า ข้อมูลของตลาดหุ้นมีความแม่นยำในหลักการอย่างเห็นได้ชัด ส่วนข้อมูลการเมืองไม่สามารถหาสาระได้เลยสักเรื่อง (ว่ากันด้วยผลประโยชน์ล้วน ๆ)  เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยมากกว่าความเชื่อมั่นต่อนักการเมืองเจ้าค่ะ

เนื่องจากบรรดานักการเมืองชอบทำเรื่องร้อน ๆ ที่ไม่ควรทำ ย่อมเป็นการตอกย้ำปัญหาการเมืองจะปะทุอีกรอบแน่ ๆ โชคดีที่ตลาดหุ้นไทยค่อย ๆ ถอยห่างจากการเมือง  “โมนิก้า” ถึงกล้าแนะนำให้เข้าซื้อหุ้นทุกครั้งที่ดัชนีย่อตัวลงมาหนัก และเมื่อสำรวจความคาดหวังที่มีต่อหุ้นกลุ่มบลูชิพก็พบว่า ทุกคนยังหวังที่จะได้เห็นราคาที่สูงกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการเก็งผลงานไตรมาส 3 ไงล่ะจ๊ะ

ด้วยเหตุนี้ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้มีแรงซื้อทยอยเข้ามาอีกครั้ง แถมในระหว่างวันพยายามดีดตัวขึ้นไปหาแนวต้านเก่าบริเวณ 1,560 จุด แต่มาเจอแรงขายดักหน้าเสียก่อน ดัชนีเลยยืนปิดได้แค่ระดับ 1,550.36 จุด บวกไป 1.58 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 3.90 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นเครื่องยืนยันความหวังยังมีเหลืออยู่ในใจนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ  แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอย่างที่คิด จึงทำดีสุดได้เพียงแค่นี้จ้า!

หุ้นบลูชิพตัวไหนที่ว่า แน่ ๆ เก๋า ๆ ยังกระเด็นกระดอน หมดรูปเสียฟอร์มกันถ้วนหน้า “โมนิก้า” ถึงต้องเบนหน้าหันมามองหุ้นกลาง ๆ  และดาวเด่นที่ยังทำผลงานคงเส้นคงวาในที่นี้ยังเป็น NER  เฉพาะวานนี้หุ้นปรับตัวขึ้นมาปิดที่ 4.98 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 41 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้า 10 วันทำการยังป้วนเปี้ยนไปมาแถว 4.50 บาท จึงเชื่อว่า งานเลี้ยงโต๊ะจีนยังไม่เลิกราง่าย ๆ กระมัง!

ส่วนในรายของ ITEL  ของ “เสี่ยเก็ท”  จู่ ๆ ก็พุ่งขึ้นมาแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า “โมนิก้า” ถึงกับมีอาการงงเป็นไก่ตาแตก เพราะในช่วง 5 วันที่ผ่านมา หุ้นซึมลงลูกเดียวแต่วานนี้กลับขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.88 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 8.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27 ล้านบาท จึงกลายเป็นช็อตที่ทำให้เชื่อว่า วันนี้จะเล่นต่อ เพราะในมุมของผลงานแต่ละไตรมาสก็ซัพพอร์ตการขึ้นอย่างเต็มที่พะย่ะค่ะ

สำหรับอีกรายที่ไล่ตามขึ้นมาติด ๆ และพยายามจะปาดหน้าแซงทางโค้ง เพราะพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า ต้องยกให้กับหุ้นโรงหมออย่าง WPH หลังวานนี้ขยับขึ้นมาปิดที่ 6.45 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 12.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31 ล้านบาท แต่ถ้าดูรวม ๆ ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า หุ้นขึ้น 80% งานนี้ไม่ต้องถามถึงพื้นฐานให้เสียเวลา (พื้นฐานดีอยู่แล้ว) แค่ใจถึง ๆ เท่านี้ก็เสียวได้..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะคะ

ส่วนรายที่ขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งวานนี้ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น PRINC โดยประเด็นที่ทำให้ขาลุยกระโจนใส่หุ้นตัวนี้ไม่เลิก ล้วนมาจากความคาดหวังถึงผลงานที่จะดีขึ้นเป็นลำดับ บรรดานกรู้ถึงเริ่มกลับมาไล่หุ้นกันอีกครั้ง วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.55 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 6.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34 ล้านบาท ทั้งที่กลางเดือนก่อนยืนอยู่แถว 4.20 บาทแบบนี้..ชอบม๊า..ชอบม๊า!

ตบท้ายกันที่หุ้น KOOL เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.53 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 15.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39 ล้านบาท มันมาจากแผนงานของบริษัทหันไปทำรถเช่าแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของการโหนกระแสอย่างไม่ต้องสงสัย และไม่รู้ว่า การเล่นเที่ยวนี้จะยาวไหม? แต่อย่างน้อยก็ทำให้แมงเม่ากระดี๊กระด๊ากันยกใหญ่ เลยต้องดูต่อว่า วันนี้จะเป็นจังใดพะยะค่ะ

Back to top button