ชัยชนะที่เปลี่ยนโลก

ชัยชนะของทีมวอลเลย์บอลสาวไทยต่อจีนในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียครั้งล่าสุด และชัยชนะของทีมฟุตบอลญี่ปุ่นที่มีต่อเยอรมนีถึง 4-1 มีลักษณะร่วมและต่างกันอย่างไร

เอาลักษณะร่วมกันก่อนคือ ชัยชนะดังกล่าวเป็นชัยชนะที่เปลี่ยนโลกและมุมมองของการแข่งขันอย่างมีนัยสำคัญคือการที่เอาชนะด้วยระบบที่ไม่ขึ้นกับความสามารถส่วนบุคคล และพิสูจน์ให้เห็นว่า กีฬาบางประเภทนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัยความได้เปรียบทางด้านสรีระของผู้เล่นอีกต่อไป

ทีมชาติญี่ปุ่นนั้นตัวเล็กกว่าเยอรมันมาก และชื่อเสียงของนักเตะเยอรมันแต่ละคนก็เด่นกว่าญี่ปุ่นมาก แต่ด้วยระบบการเล่นที่ทำงานกันอย่างละเอียดทำให้ชัยชนะเกิดขึ้นอย่างไร้ข้อสงสัยใด ๆ

เมื่อตอนแข่งขันฟุตบอลโลกที่การ์ต้าเมื่อปลายปีก่อนทีมชาติญี่ปุ่นสร้างปรากฏการณ์ช็อกโลกโดยการเอาชนะทีมเยอรมันไปได้ 2-1 ทั้งที่ถูกนำไปก่อนถึง 80 นาที และเอาชนะด้วยการยิงประตูไปได้ในนาทีที่ 85 และ 91 จนกระทั่งทีมเยอรมันตกรอบเป็นครั้งที่สองในรอบ 4 ปี

ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้คำอธิบายของเซียนบอลที่เชื่อว่าทีมเยอรมันกำลังอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนรุ่น ไม่ได้เชื่อว่าเป็นความสามารถของทีมญี่ปุ่น แต่หลังจากฟุตบอลโลกจบลง ทีมบอลญี่ปุ่นมีการอุ่นเครื่องหลาย ๆ ครั้งกับทีมทั้งในยุโรปและอเมริกาใต้ซึ่งแต่ละครั้งก็ได้รับชัยชนะอย่างงดงาม เช่นเอาชนะนิการากัวถึง 6-1 และเอาชนะทีมตุรกีถึง 5-0 ก่อนจะมาเจอเยอรมันเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในบ้านของเยอรมันเองและชนะไป 4-1 ซึ่งตอกย้ำว่า ทีมญี่ปุ่นไม่ใช่ทีมธรรมดาเสียแล้ว ลูกแต่ละลูกที่ญี่ปุ่นทำได้ล้วนสวยงามทั้งนั้น โดยเฉพาะลูกที่สองที่มีการต่อบอลอย่างงดงาม และลูกที่ 4 ที่มีการขโมยบอลจากเยอรมันแล้วเข้าไปชิ่งต่อหน้าผู้รักษาประตู ทำให้โลกเห็นว่าญี่ปุ่นมีคลาสบอลขนาดไหน  ทำให้นักเตะเยอรมันมีสีหน้าถอดใจอย่างเห็นได้ชัด ทำให้โลกเห็นว่าทีมเยอรมันที่เคยใจเด็ดสู้จนนาทีสุดท้ายไม่เหลือสภาพอีกแล้ว

ลีลาการเล่นแบบเพรสซิ่งของนักเตะญี่ปุ่นและความเฉียบคมในการเข้าทำประตูทำให้เห็นได้ชัดว่าญี่ปุ่นกำลังเปลี่ยนจากทีมที่มีแต่นักเตะตัวเล็ก ๆ สามารถเอาชนะทีมนักเตะตัวใหญ่กว่าได้อย่างไร

กรณีนี้นำมาใช้อธิบายได้กับชัยชนะของทีมนักวอลเลย์บอลสาวไทยที่สามารถก้าวข้ามจุดด้อยของตัวเองจากส่วนสูงโดยเฉลี่ยของผู้เล่นที่ระดับ 175 ซม. สามารถเอาชนะทีมระดับหัวแถวของโลกอย่างเช่นจีนด้วยความเร็วของการเคลื่อนตัวที่ไม่หยุดนิ่งและการวิ่งสู้ฟัดด้วยเกมรับที่เหนียวแน่น ทำให้ลบจุดด้อยของผู้เล่นลงไป ดังจะเห็นได้จากที่ทีมนักเล่นหญิงไทยมีชื่อเสียงและคุณภาพต่ำกว่าจีน อย่างเช่น อู๋เม่งเจี๋ยของจีนที่เก่งทั้งเกมรุกและเกมรับแต่ก็ไม่สามารถช่วยทีมเอาชนะไทยได้

แม้ว่าชัยชนะของทีมไทยและทีมญี่ปุ่นจะยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าชัยชนะที่เกิดขึ้นเป็นชัยชนะชั่วคราวหรือยั่งยืน แต่การยกระดับทีมขึ้นมาได้ขนาดนี้ถือว่าดีมาก และหากได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องก็น่าจะเป็นการเปลี่ยนโลกที่น่ายกย่อง

ส่วนความต่างในชัยชนะของทีมชาติญี่ปุ่นและทีมชาติไทย

เป็นชัยชนะของกีฬาต่างประเภทกันซึ่งไม่อาจเอามาเทียบกันได้