หลุดแล้ว..ต้องขาย
ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่าน “โมนิก้า” พยายาม “นั่งลุ้น นอนลุ้น” ให้ดัชนีขึ้นไปยืนเหนือแนว 1,550 จุดอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ขึ้นไม่ไหว
ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่าน “โมนิก้า” พยายาม “นั่งลุ้น นอนลุ้น” ให้ดัชนีขึ้นไปยืนเหนือแนว 1,550 จุดอีกครั้ง แต่สุดท้ายก็ขึ้นไม่ไหว และยังถูกรินขายออกมาตลอดเวลา จนวานนี้เห็นดัชนีลงมายืนปิดที่ระดับ 1,540.94 จุด ลบไป 6.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.16 หมื่นล้านบาท ก็ทำให้รู้ว่า ดัชนีหมดทางที่จะพลิกแนวต้านให้กลายเป็นแนวรับแล้วแหง ๆ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะทู่ซี้ไล่หุ้นแบบไม่ลืมหูลืมตานะคะ
ประกอบกับสัญญาณเทคนิคหลายตัวยังโค้งตัวลง และดัชนีก็จวนเจียนจะหลุดเส้นแนวรับ 25 วันตรงบริเวณ 1,543 จุดมาพักใหญ่ ๆ และสุดท้ายก็ยันไม่อยู่ จึงต้องลุ้นต่อไปว่า เส้นแนวรับ 75 วันตรงบริเวณ 1,530 จุดจะเอาอยู่ไหม? ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยคำว่า ชิ่งเถอะ! เพราะสถานการณ์ไม่เป็นเหมือนที่ประเมินไว้สักอย่าง แถมนักลงทุนที่เป็นพวก “กองทุน” กับ “ต่างชาติ” หันมาขายหุ้นอีกครั้ง..มันเลยว้าวุ่นไปหมดเจ้าค่ะ
โดยเฉพาะในรายของหุ้นไฟฟ้าตัวตึงอย่าง GPSC ถูกถล่มขายหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 49.75 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.08 พันล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 3 ปี 6 เดือน โดยที่ค่า PE ยังอยู่ในระดับ 109 เท่า เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า นักเล่นกังวลต่อผลงานในครึ่งปีหลัง และถ้าดูจากกำไรที่ลดลงฮวบฮาบ ก็เป็นไฟต์บังคับที่ต้องขายหุ้นออกไปก่อนพะย่ะค่ะ
ส่วนประเด็นที่เกิดขึ้นกับหุ้นโรงกลั่นน้ำมัน TOP ก็หนีไม่พ้นเรื่องนำเข้าน้ำมันเสรี ก็เป็นสตอรี่ที่กระทบกับตัวโรงกลั่นเต็ม ๆ จึงไม่แปลกใจที่นักลงทุนสถาบันเดินหน้าขายหุ้นลูกเดียว จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ระดับ 47.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 770 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบเดือนครึ่ง กลายเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องยอมเฉือนเนื้อ เพราะอาจได้เห็นราคาที่ต่ำกว่านี้ไงล่ะคะ
อีกรายที่ทำท่าเหมือนจะดี และพยายามชี้ให้ทุกคนเห็นว่า ผลงานปีนี้เป็นไปตามเป้า “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น OR หลังประเด็นทางการเมืองส่อเค้าอาจกระทบกับกำไรของบริษัท ซึ่งเป็นเรื่องที่ย้อนแย้งชนิดที่หาทางจบยาก บรรดานักเล่นถึงรินหุ้นออกมาตลอดเวลา จนวานนี้ราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ระดับ 19.80 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 592 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time low แบบนี้..มันเป็นเรื่องของจิตวิทยาโดยแท้นะคะ
สถานการณ์ข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้นน้องใหม่อย่าง PSP ซึ่งโดนกระหน่ำขายแบบไม่ดูดี จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 8.45 บาท ลบไป 2.15 บาท หรือลงไป 20.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 522 ล้านบาท และเป็นการร่วงหนัก 2 วันติด มันตีความได้อย่างเดียวว่า วงแตก! บรรดาคนร่วมขบวนการถึงพากันหนีตายอย่างอลม่าน และมีแนวโน้มที่หุ้นจะอ่อนตัวลงอีกนะจะบอกให้
เช่นเดียวกับในรายของ BTG ก็มีเรื่องผลงานตกต่ำเป็นหนามทิ่มแทงหัวใจตลอดเวลา จนไม่มีทีท่าจะกลับมาทำผลงานโดดเด่นในระยะเวลาอันใกล้แบบนี้ กลายเป็นแรงกระตุ้นให้นักเล่นต้องทิ้งหุ้น เพื่อเป็นการปิดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น “โมนิก้า” ถึงไม่มีข้อโต้แย้งที่เห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 22.70 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 131 ล้านบาท เพราะเคยลงไปแตะ 21.30 บาทมาแล้วน่ะซี
อีกรายที่ทำท่าจะกลับลงไปหาโลว์เดิมบริเวณ 10 บาทในไม่ช้า เพราะมีปัญหาไม่โตเป็นเวลาสองสามปี “โมนิก้า” คงชำเลืองตามองไปที่หุ้น BAM อย่างไม่ลังเลใจ และยังเป็นที่แน่ชัดว่า ปีนี้กำไรฮวบอย่างแน่นอน จึงเป็นแรงกดดันให้นักเล่นขายหุ้นออกมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ราคาหุ้นยืนปิดที่ระดับ 11.10 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 216 ล้านบาทแบบนี้..ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่านะจ๊ะ
ตบท้ายกันที่ควันหลง JKN กันสักหน่อย! หลังมีสื่อหุ้นบ้องตื้นอ่านเกมเปลี่ยนมือไม่ออก และนำเสนอเรื่องราวโดยไม่มี ค.ว.ย. (คิด วิเคราะห์ แยกแยะ) เพราะในมุมของนิตินัยยังถือว่า ช่อง 18 ยังเหมือนเดิม แต่ในทางพฤตินัยอาจตีความได้ว่า นี่เป็นการแบ่งสมบัติ ผนวกกับก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่า วันที่ 11 ก.ย. เจ๊แอนจะเปิดแผนหาเงินใช้หนี้หุ้นกู้พอดี เลยทำให้ทุกอย่างดูสอดรับกันไปหมดแบบนี้..มันคิดเป็นเรื่องอื่นไม่ได้จริง ๆ และหนทางเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างสิ้นสงสัยก็คือ รายงานที่แจ้ง ตลท. น่าจะลงรายละเอียดที่ลึกลงไปอีก คนจะได้เลิกเดากันเสียที..อิอิอิ